รีวิวหนัง Sherlock Holmes

ภาพยนตร์เรื่อง Sherlock Holmes เป็นหนังแนวแอ็คชั่นสืบสวนสอบสวนแล้วก็ยังเป็น หนังนี่ก็ว่าด้วยเรื่องราวของชายคนหนึ่งเขาเป็นนักสืบชาวลอนดอนผู้ปราดเปรื่องและมีชื่อเสียงโด่งดังด้านทักษะการประมวลเหตุและผลการอนุมานของเขาแต่ละครั้งเนี่ยก็ได้หยิบยื่นเหตุและผล

ที่อาจจะเกิดขึ้นจริงพร้อมหลักฐานมัดตัวคนร้ายเพื่อคลี่คลายคดีมากมายหลายต่อหลายคดีในยุคที่อาชญากรรมหาง่ายแต่ตรรกะและวิธีการคิดมีเพียงเขาคนเดียวเท่านั้นที่ทำได้นักสืบผู้โด่งดังที่สุดในช่วงเวลานั้น หนังอินดี้มาแรง

หนัง “Sherlock Holmes” ที่ออกฉายในปี 2009 และภาคต่อ “Sherlock Holmes: A Game of Shadows” ที่ออกฉายในปี 2011  หนังใหม่ชนโรง

เริ่มจากต้นกำเนิดของเชอร์ล็อก โฮล์มส์เกิดจากปลายปากกาของ อาร์เธอร์ โคนัน ดอยล์ (Arthur Conan Doyle)

นักเขียนนิยายในช่วงปี 1885 ถึง 1906 เขารับการศึกษาจากคณะเยซูอิตที่วิทยาลัยสโตนีเฮิสต์ และจบการแพทย์จากมหาวิทยาลัยเอดินบะระในปี 1881 ก่อนจะประกอบอาชีพแพทย์ตามที่ได้ร่ำเรียนมา 

ขณะเดียวกันก็ได้เริ่มงานเขียนเล็ก ๆ น้อย ๆ เรื่อยมา โดยเรื่องสั้นเรื่องแรกของเขาได้รับตีพิมพ์ในวารสาร ‘Chambers’ ในเดือนกันยายนปี 1879

ส่วนเรื่องราวของเชอร์ล็อก โฮล์มส์ เกิดขึ้นในปี 1887 โดยคดีแรกที่ทำให้เรารู้จักคือตอน ‘A Study in Scarlet’ หรือที่เรารู้จักในชื่อไทยว่า “แรงพยาบาท”

 ที่บอกเล่าเรื่องราวของการพบเจอกันของอดีตนายแพทย์สงครามอย่าง จอห์น เอช. วัตสัน (John H. Watson) ที่ร่วมเงินเช่าห้องเลขที่ ‘221B Baker Street London’ ก่อนที่วัตสันจะถูกดึงไปร่วมไขคดีฆาตกรรมปริศนาในบ้านร้างแห่ง

ที่มีชายถูกวางยาพิษพร้อมกับเขียนข้อความแปลก ๆ บนผนัง ก่อนที่จะเกิดเหตุแบบนี้อีกหลายครั้ง ซึ่งในที่เกิดเหตุไม่มีร่องรอยการต่อสู้ มีเพียงแค่อักษรแปลก ๆ ที่ถูกเขียนไว้เช่นกัน ซึ่งเมื่อเรื่องราวเฉลยออกมาก็เล่นเอาคนอ่านในยุคนั้นอ้าปากค้าง

เพราะเนื้อเรื่องพยายามเบี่ยงประเด็นและให้เราคิดตามไปต่าง ๆ นานาเกี่ยวกับคดี แต่ก็แอบบอกคำใบ้สิ่งต่าง ๆ ลงไปผ่านคำพูดของโฮล์มส์

Robert Downey Jr. – รับบท Sherlock Holmes ในบทภาพยนตร์ โดยเป็นนักสืบชาวอังกฤษที่มีความชาติเจริญรุ่งเรืองและมีสติปัญญาที่พิเศษในการแก้ปริศนา

Jude Law – รับบท Dr. John Watson ที่เป็นเพื่อนและพันของ Sherlock Holmes ในภาพยนตร์ โดยเป็นแพทย์และหัวใจของกลุ่มการสืบสวน

Rachel McAdams – รับบท Irene Adler ในบทภาพยนตร์ ซึ่งเป็นตัวละครผู้ช่วยของ Holmes และมีความสัมพันธ์ที่ซับซ้อนกับเขา

Jared Harris – รับบท Professor James Moriarty ใน “Sherlock Holmes: A Game of Shadows” เป็นศัตรูที่หลากหลายและอันตรายของ Sherlock Holmes

Eddie Marsan – รับบท Inspector Lestrade ที่เป็นสมาชิกของตำรวจลอนดอนที่ร่วมทีมกับ Holmes ในการแก้ปริศนา

วรรณกรรมยอดนักสืบชื่อก้องโลก เชอร์ล็อก โฮล์มส์ ครั้งนี้เขามีหมอวัตสันเป็นผู้ช่วยเช่นเคย ภายในเล่มของชุด SE-ED GENIUS READERS จะมี 3 คดีที่ต้องสะสาง คือ ฆาตกรรมปริศนากับเชือกลายจุด คดีโจรกรรมโกเมนสีน้ำเงิน และเรื่องอื้อฉาวในโบฮีเมีย

วรรณกรรมต้นฉบับโดย Sir Arthur Conan Doyle นักเขียนที่เป็นแพทย์และเคยมีประสบการณ์เข้าร่วมในสงครามโบร์ที่แอฟริกาใต้

เรียบเรียงให้กระชับโดย Louise Benette และ David Hwang ภาพประกอบโดย Kalchova Irina แปลโดย ประวีณา ปิ่นนิล และ ดลฤทัย จารุโรจน์

Helen Stoner เข้าพบยอดนักสืบ Sherlock Holmes ด้วยขอให้ตามสืบการตายของน้องสาว ทั้งที่ภายในบ้านพักต่างอยู่ในห้องนอนของตัวเอง ไม่น่าจะมีใครบุกรุกเข้ามาได้

แต่น้องสาวเธอก่อนตายเคยปรารภว่าทุกคืนมักมีเสียงผิวปากทำให้นอนไม่หลับ และในคืนที่เธอตาย ก่อนสิ้นใจ เธอก็ได้พูดว่าเชือกลายจุด…เชือกลายจุด นี่คือเบาะแสเท่าที่มีในการสืบคดี

คดีโจรกรรมโกเมนสีน้ำเงิน (The Adventure of the Blue Carbuncle)

John Horner ถูกจับกุมข้อหาลักทรัพย์โกเมนของท่านผู้หญิงในห้องพัก ระหว่างที่เขากำลังซ่อมท่อประปาในห้องพักของเธอ แต่ John ปฏิเสธ ข่าวนี้ดังมากตามหน้าหนังสือพิมพ์

วันหนึ่ง Peterson เพื่อนของโฮล์มเอาโกเมนมาอวด บอกว่าภรรยาของเขาเจอมันในท้องห่านขณะแล่เนื้อปรุงเป็นอาหาร

โฮมส์สงสัยทันทีว่าโกเมนสีน้ำเงินนี้มีเจ้าของ แล้วมันไปอยู่ในท้องห่านได้อย่างไรกัน ใครที่ขโมยแล้วทำเรื่องแบบนี้ได้ เรื่องอื้อฉาวในโบฮีเมีย (A Scandal in Bohemia)

เรื่องราวกษัตริย์องค์หนึ่งมาขอให้โฮล์มช่วยสืบคดีเรื่องหญิงสาวที่พระองค์เคยคบหา เธอชื่อไอรีน แอดเลอร์

เธอโกรธมากที่พระองค์จะไปแต่งงานกับเจ้าหญิงต่างเมืองเพื่อรักษาสถานะของพระองค์เอง ไอรีนจึงเก็บภาพถ่ายที่เคยถ่ายคู่กับพระองค์เอาไว้ ซึ่งหากภาพนั้นถูกแพร่งพรายออกไป ความเสื่อมเสียก็จะเกิดกับพระองค์เอง มันจึงเป็นเรื่องใหญ่ที่ต้องหาทางออกให้เร็วที่สุด

ข้อดี:

บทแสดง: การแสดงของ Robert Downey Jr. ในบท Sherlock Holmes และ Jude Law ในบท Dr. John Watson มีความเป็นเลิศและความเข้ากันได้ ระหว่างสองตัวละครหลักที่สวมบทนี้ พวกเขาให้ชีวิตให้กับตัวละครของพวกเขาอย่างน่าเชื่อถือและเป็นที่รัก

กราฟิกและบรรยากาศ: หนังนี้มีกราฟิกที่น่าทึ่งและบรรยากาศสุดอลังการที่สร้างขึ้นในลอนดอนของศตวรรษที่ 19 ที่ทำให้คุณเข้าใจถึงโลกและช่วงเวลาที่เป็นส่วนหนึ่งของเรื่องราว

การตัดต่อและการออกแบบฉาก: มีฉากต่อสู้ที่อลังการและสร้างความตื่นเต้นในระหว่างการดู การใช้เทคนิคตัดต่อสร้างสัญลักษณ์ของ Holmes ในการแก้ปริศนาเป็นข้อน่าสนใจอีกด้วย

ข้อเสีย:

บางคนอาจพบว่าฉากต่อสู้มีความซับซ้อนเกินไปหรืออาจจะเริ่มต้นช้าไปบ้าง ทำให้บางคนรู้สึกว่ามันยากที่จะติดตามเนื้อเรื่อง

ความเชื่อถือได้ของการแก้ปริศนา: หนังนี้มีการใช้เทคนิคที่ซับซ้อนในการแก้ปริศนาที่บางคนอาจรู้สึกว่าซับซ้อนเกินไปและอาจทำให้เขาหลงลงไปในรายละเอียดที่ยากที่จะเข้าใจ

ตัวนิยาย ‘Sherlock Holmes’ ถูกตีพิมพ์เป็นเรื่องยาว 4 เล่มกับเรื่องสั้นอีก 56 ตอน ซึ่งมีครั้งหนึ่งที่โคนัน ดอยล์ต้องการจบซีรีส์นี้จึงเขียนให้โฮล์มส์กับมอริอาร์ตี้ต่อสู้กันที่น้ำตกไรเชนบาก่อนจะเสียชีวิตทั้งคู่ 

ซึ่งเป็นตอนสุดท้ายของนิยายที่ชื่อว่า “The Final Problem” แต่นั่นก็ทำให้แฟนนักอ่านไม่ยอมรับและเขียนจดหมายร้องเรียนไปยัง ‘The Strand Magazine’ เพื่อให้โคนัน ดอยล์เขียนภาคต่อ และมีคนกว่า 20,000 คนยกเลิกสมัครรับนิตยสาร 

ส่วนตัวโคนัน ดอยล์เองก็ถูกจดหมายจากแฟน ๆ ส่งมาด่าขู่ฆ่าตลอด 8 ปีจนสุดท้ายก็กลับมาเขียนต่อในตอนที่ชื่อว่า ‘The Hound of the Baskervilles’ โดยให้โฮล์มส์รอดชีวิตมาจากน้ำตก

ซึ่งคราวนี้เขาต้องมาสืบคดีเกี่ยวกับหมาผีที่ถูกใจแฟน ๆ เป็นอย่างมาก  ส่วนบั้นปลายสุดท้ายของโฮล์มส์เขาพักการสืบสวนมาอยู่ฟาร์มเล็ก ๆ ใน ‘Sussex Downs’ และเลี้ยงผึ้งเป็นอาชีพหลัก เป็นการยุติตำนานนักสืบในตำนานมาจนถึงตอนนี้

ภาพยนตร์แนวแอ็คชันและลึกลับที่เป็นผลงานของผู้กำกับ Guy Ritchie และนำแสดงโดย Robert Downey Jr.

ในบท Sherlock Holmes และ Jude Law ในบท Dr. John Watson ภาพยนตร์นี้เป็นการนำเรื่องราวของนักสืบชาวอังกฤษ Sherlock Holmes และเพื่อนพันของเขา Dr. John Watson มาสู่จอภาพในลอนดอนของศตวรรษที่ 19

ในเรื่องราวนี้, Holmes และ Watson ต้องแก้ปริศนาการร้ายแรงที่เกี่ยวข้องกับการสืบสวนและการครอบครองโดยราษฎร

โดย Professor James Moriarty เป็นศัตรูที่อยู่เบื้องหลังความเสี่ยงทั้งหมด. ภาพยนตร์นี้มีฉากต่อสู้และการใช้ความคิดสร้างสรรค์ของ Holmes ในการแก้ปริศนาที่ทำให้มันน่าตื่นเต้นและน่าสนุกตลอดเวลาการรับชม

โดยรวม, “Sherlock Holmes” เป็นภาพยนตร์ที่น่าสนใจสำหรับผู้ที่ชื่นชอบเรื่องราวของ Sherlock Holmes และ Dr. Watson และรู้สึกสนุกได้จากฉากต่อสู้และความลึกลับในโลกของ Holmes และเพื่อนของเขา