หนังใหม่ชนโรง เป็นภาพยนตร์แอคชั่นคอมเมดี้แนววิทยาศาสตร์ที่ออกฉายในปี 2022 ผลิตโดย Skydance Media, Maximum Effort และ 21 Laps Entertainment สำหรับ Netflix
เนื้อเรื่องของภาพยนตร์มีศูนย์กลางอยู่ที่นักบินรบเดินทางข้ามเวลาชื่ออดัม รีด ซึ่งประสบอุบัติเหตุตกในปี 2022 หนังอินดี้มาแรง
อดัมร่วมมือกับตัวเองวัย 12 ปีเพื่อปกป้องอนาคตจากความเสียหายของผู้ร้าย การเล่าเรื่องของภาพยนตร์เรื่องนี้เป็นเรื่องราวการเดินทางข้ามเวลาที่จะพาผู้ชมไปสู่การผจญภัยอันน่าตื่นเต้น
รีวิวหนัง The Adam Project ผลงานภาพยนตร์ที่ไม่ควรพลาด
การเดินทางข้ามเวลาถูกใช้เป็นหนทางในการป้องกันเหตุการณ์ภัยพิบัติไม่ให้เกิดขึ้นในอนาคต ภาพยนตร์เรื่องนี้ติดตามอดัม รีด นักบินรบจากปี 2050
ผู้ซึ่งเดินทางย้อนเวลากลับไปเพื่อพบกับตัวเองในวัยเยาว์และร่วมทีมกับเขาเพื่อช่วยพ่อของพวกเขาจากการถูกอาชญากรอันตรายฆ่า
แนวคิดเรื่องการเดินทางข้ามเวลาในภาพยนตร์เรื่องนี้มีพื้นฐานมาจากแนวคิดของทฤษฎีพหุจักรวาล ซึ่งเสนอแนะว่ามีจักรวาลคู่ขนานที่มีความเป็นจริงหลายรูปแบบเกิดขึ้นพร้อมๆ กัน
อดัมและตัวน้องของเขาเดินทางผ่านไทม์ไลน์ที่แตกต่างกันเพื่อป้องกันไม่ให้เหตุการณ์ภัยพิบัติเกิดขึ้น ซึ่งนำไปสู่โครงเรื่องที่น่าตื่นเต้นและอัดแน่นไปด้วยแอ็กชัน
แนวคิดเรื่องการเดินทางข้ามเวลาส่งผลต่อโครงเรื่องในหลายประการ ประการแรก เพิ่มองค์ประกอบของความสงสัยและความคาดเดาไม่ได้ให้กับเรื่องราว
ขณะที่อดัมและตัวน้องของเขาเดินทางผ่านไทม์ไลน์ที่แตกต่างกัน เผชิญกับความท้าทายและอุปสรรคต่างๆ ระหว่างทาง
ระการที่สอง แนวคิดเรื่องการเดินทางข้ามเวลาทำให้ภาพยนตร์เรื่องนี้ได้สำรวจธีมของครอบครัว การเสียสละ และการไถ่บาป
การเดินทางข้ามเวลาทำให้อดัมได้รับโอกาสในการเชื่อมต่อกับพ่อของเขาอีกครั้งและแก้ไขข้อผิดพลาดในอดีตในที่สุด
การเดินทางข้ามเวลาก็ถูกใช้เป็นเครื่องมือในการขับเคลื่อนโครงเรื่องไปข้างหน้า ขณะที่อดัมและตัวน้องของเขาทำงานร่วมกันเพื่อป้องกันไม่ให้เหตุการณ์ภัยพิบัติเกิดขึ้น
รวมนักแสดงชื่อดังในเรื่องราวที่น่าตื่นเต้น
ไรอัน เรย์โนลด์ส (Ryan Reynolds) นักแสดงและโปรดิวเซอร์ชาวแคนาดา ผู้ที่เคยรับบทเป็น ฮีโร่สุดเกรียน อย่าง Deadpool และมีผลงานการแสดงอีกมากมายที่ไปร่วมแจมด้วย เรียกว่าเป็นนักแสดงมากฝีมือของฮอลลีวูดที่ชอบสร้างสีสันให้กับวงการหนังให้กับคนดูอยู่ตลอดเวลา
โซอี ซัลดานา (Zoe Saldana) นักแสดงสาวมากความสามารถชาวอเมริกันเชื้อสายโดมินิกัน กับ ฉายาราชินีหญิงแห่งภาพยนตร์ Sci-Fi ที่มีผลงานสร้างชื่อและเป็นที่จดจำให้กับเธอ
ถึง 3 เรื่อง กับการรับบทเป็น Neytiri ตัวละครเอกในเรื่อง Avatar ที่เป็นจุดเปลี่ยนสำคัญในชีวิตของ Zoe
และรับบทเป็น Gamora บุตรสาวบุญธรรมของธานอสในภาพยนตร์ของมาร์เวล เรื่อง Guardians of the Galaxy และ Avengers: Infinity Wars ในปี 2018 และ Avengers: Endgame ในปี 2019
เจนนิเฟอร์ การ์เนอร์(Jennifer Garner) นักแสดงและโปร์ดิวเซอร์ภาพยนตร์ชาวอเมริกัน เป็นที่รู้จักในบท Elektra Natchios ภาพยนตร์ซุปเปอร์ฮีโร่ เรื่อง Daredevil ของMarvel
มาร์ก รัฟฟาโล (Mark Ruffalo) นักแสดงชาวอเมริกันที่มีชื่อเสียงโด่งดังไปทั่วโลกจากการปรากฏตัวของจักรวาลมาร์เวล (Marvel) ในบท ฮัลค์ หรือ ดร.โรเบิร์ต เดวิด บรูซ แบนเนอร์ ในภาพยนตร์ เรื่อง มนุษย์ตัวเขียวจอมพลังและหนึ่งในทีมยอดมนุษย์ของอเวนเจอร์ส
Walker Scobell เป็นนักแสดงเด็กหน้าใหม่วัย 12 ปี ที่ป๋าไรอันเอ็นดูมากถึงขนาดมอบบท Deadpool ให้กับเจ้าหนูก่อนตาย
สุดยอดผลงานศิลปะ
ภาพยนตร์เรื่องนี้สำรวจพลวัตที่ซับซ้อนของความสัมพันธ์ในครอบครัว โดยเฉพาะอย่างยิ่งความผูกพันระหว่างพ่อและลูก เรื่องราวเกี่ยวกับอดัม ชายผู้เดินทางย้อนเวลากลับไปเพื่อช่วยพ่อของเขาที่เสียชีวิตตั้งแต่เขายังเด็ก
จากการเดินทางครั้งนี้ อดัมได้เรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับพ่อของเขาและการเสียสละที่เขาทำเพื่อครอบครัว ภาพยนตร์เรื่องนี้เน้นย้ำถึงความสำคัญของครอบครัวและผลกระทบที่ผู้เป็นที่รักมีต่อชีวิตของแต่ละคน
ความลึกซึ้งทางอารมณ์ของธีมครอบครัวปรากฏชัดเป็นพิเศษในฉากประทับใจระหว่างอดัมกับพ่อของเขา ซึ่งจะต้องถูกใจผู้ชมอย่างแน่นอน
ภาพยนตร์เรื่องนี้ใช้การเดินทางข้ามเวลาเป็นเครื่องมือในการสำรวจแนวคิดเรื่องเวลาและผลกระทบที่มีต่อชีวิตของเรา
เรื่องราวทำให้เกิดคำถามที่กระตุ้นความคิดเกี่ยวกับธรรมชาติของเวลา ผลที่ตามมาจากการเปลี่ยนแปลงอดีต และความเป็นไปได้ในการกำหนดอนาคต
หัวข้อเรื่องเวลายังเชื่อมโยงกับแนวคิดเรื่องโอกาสครั้งที่สองและความสำคัญของการใช้เวลาให้คุ้มค่าที่สุด ตลอดการเดินทางของอดัม ภาพยนตร์เรื่องนี้กระตุ้นให้ผู้ชมไตร่ตรองถึงความสัมพันธ์ของตนเองกับเวลา และชื่นชมช่วงเวลาปัจจุบัน
สุดท้ายนี้ “The Adam Project” ยังสำรวจธีมของการค้นพบตัวเองอีกด้วย ขณะที่อดัมเดินทางย้อนเวลากลับไป เขาถูกบังคับให้เผชิญหน้ากับอดีตของตัวเองและตกลงใจกับตัวตนของเขาเอง
ภาพยนตร์เรื่องนี้เน้นย้ำถึงความสำคัญของการไตร่ตรองตนเองและศักยภาพในการเติบโตและการเปลี่ยนแปลงส่วนบุคคล ตลอดการเดินทางของอดัม
การผจญภัยที่ไม่เหมือนใคร
เส้นเรื่องหลักของ The Adam Project อาจจะดูเพ้อๆ ไปสักหน่อย ใส่ความไซไฟที่ดูมีน้ำหนักแต่กลับยังไม่ค่อยสร้างความมั่นคงให้กับเนื้อเรื่องได้ดี
ทำให้องค์ประกอบต่างๆ เกี่ยวกับการเดินทางข้ามเวลาและทฤษฎีต่างๆ ที่เป็นปมเข้มข้นหลักของหนังนั้น ไม่ค่อยทำให้รู้สึกอินได้สักเท่าไหร่นัก
เป็นพล็อตที่ดูได้ผ่านๆ เพลินๆ ไม่ได้ยึดติดสงสัยอะไรเท่านั้น และบางทีอาจจะไม่จำเป็นต้องมีภาคต่อ-ภาคต้นเลยด้วยซ้ำ
แต่ไฮไลต์เด็ดของหนังเรื่องนี้ ก็น่าจะเป็นทีมนักแสดงที่จัดมาชุดใหญ่ไฟกะพริบมาก ไรอัน เรย์โนลด์ส ยังไงเขาก็คือเขา เขาสามารถแบกรับหนังทั้งเรื่องเอาไว้ได้ค่อนข้างสบายๆ
ทั้งเสน่ห์และพรสรรค์ของเขาเป็นประโยชน์ต่อหนังเรื่องนี้เป็นอย่างดี อีกคนที่ประมาทไม่ได้เลย
“วอล์คเกอร์ สคอเบลล์” ดาราเด็กที่เฉิดฉายในหนังเรื่องนี้ไม่เบา เสน่ห์ของเขาล้นเหลือพอๆ กับไรอันทีเดียว เมื่อพวกเขาทั้งคู่อยู่บนจอเดียวกัน กลายเป็นเคมีที่ลงตัวอย่างน่าเหลือเชื่อ
รีวิวหนัง The Adam Project ความสนุกที่ไม่ควรพลาด
คงต้องบอกว่าหลังจากทำเอาสูญเสียศรัทธาในหนังแอ็กชันช่วงที่ผ่านมาของ Netflix มาหลายเรื่อง ‘The Adam Project’ นับเป็นงานล้างตาได้สำเร็จทั้งการเล่าเรื่องที่สนุกสนาน
ไม่เอื่อย งานวิช่วลเอฟเฟกต์ตระการตาและถือเป็นหนังไซไฟข้ามเวลาที่พอจะมีแง่มุมใหม่ ๆ มาเล่าได้อย่างสนุกสนานแม้จะแอบโกงเรื่องตรรกะหรืออธิบายหลักการเดินทางข้ามเวลาได้ไม่เคลียร์เท่าไหร่ก็เถอะ
พ่วงไปกับทีมนักแสดงที่เต็มที่มาก ๆ โดยอีกคนที่คัมแบ็คมาให้หายคิดถึงก็คือ โซอี ซัลดานา (Zoe Saldana) ที่มารับบท ‘ลอรา’ หวานใจของอดัมและมาร์ค รัฟฟาโล (Mark Ruffalo)
หรือพ่อฮัลค์ที่แม้จะยังไม่ได้เจอกันใน MCU แต่ก็มีโอกาสได้เจอกับเดดพูลอย่างเรย์โนลดส์ในบทพ่อของอดัมนั่นเอง
จุดเด่นของภาพยนตร์ The Adam Project คงหนีไม่พ้นการนำนักแสดงของจักรวาลมาเวลและยังเป็นตัวละครฮีโร่ที่มีจุดร่วมสำคัญจากอเวนเจอร์ส
มาร่วมแสดงเป็นครอบครัวเดียวกัน ซึ่งเรียกได้ว่าเป็นมิติคู่ขนานจริง ๆ กับการนำ Hulk และ Elektra มารับบทเป็นพ่อและแม่ ของ Deadpool และมีลูกสะใภ้เป็น Gamora
ซึ่งปรากฏการณ์นี้หาดูยากและแปลกใหม่สุด ๆ อีกทั้ง The Adam Project: ย้อนเวลาหาอดัม ไม่ใช่เป็นเพียงหนังไซไฟแบบฮาร์ดคอร์ทั่วไป แต่ยังเป็นหนังที่เกี่ยวกับผู้คน
โดยเล่าเรื่องราวของเด็กชายที่ได้สูญเสียพ่อไป และได้พยายามทำความเข้าใจความหมายและค้นหาเรื่องราวของความเป็นเด็กในตัวของเขา ผ่านการผจญภัยที่น่าสนใจและให้ความรู้สึกเหมือนได้กลับไปเป็นเด็กอีกครั้ง
สรุปเรื่องราวของภาพยนตร์
โดยสรุป “The Adam Project” เป็นภาพยนตร์ที่สำรวจแนวคิดเรื่องการเดินทางข้ามเวลาและผลกระทบที่มีต่อความสัมพันธ์ในครอบครัว
ฉากและความขัดแย้งของภาพยนตร์มีบทบาทสำคัญในการพัฒนาโครงเรื่องและการเติบโตของตัวละคร ธีมของครอบครัว เวลา และการค้นพบตัวเองก็มีการสำรวจตลอดทั้งเรื่อง
เพื่อเพิ่มความลึกให้กับเนื้อเรื่อง แม้ว่าภาพยนตร์เรื่องนี้จะได้รับคำวิจารณ์ที่หลากหลายจากนักวิจารณ์ แต่โดยทั่วไปก็ได้รับการตอบรับอย่างดีจากผู้ชม และผลงานในบ็อกซ์ออฟฟิศก็ดี
โดยรวมแล้ว “The Adam Project” เป็นภาพยนตร์ที่ให้ความบันเทิงและกระตุ้นความคิดที่ควรค่าแก่การรับชมสำหรับผู้ที่สนใจการเดินทางข้ามเวลาและพลวัตของครอบครัว