รีวิวหนัง Tomorrowland ผจญแดนอนาคต

ดูหนังชนโรง

สวัสดีค่ะและในวันนี้เราจะมา รีวิวหนัง Tomorrowland (2015) ผจญแดนอนาคต เป็นภาพยนตร์แนวผจญภัยแฟนตาซี ดูหนังชนโรง

และเป็นหนังเรื่องที่ 6 ต่อจาก The Haunted Mansion , Pirates of the Caribbean , The Country Bears , Mission to Mars และ The Tower of Terror ที่ได้รับแรงบันดาลใจมาจากเครื่องเล่นในสวนสนุกดิสนีย์แลนด์

โดยภาพยนตร์เรื่องนี้นี้ถือว่าเป็นโปรเจคยักษ์ของค่ายดิสนีย์ในปีนี้เลยก็ว่าได้ เพราะทุ่มทุนสร้างไปถึง 190 ล้านเหรียญเลยทีเดียว จากวิสัยทัศน์ของ ดิสนีย์ เกี่ยวกับดินแดนอนาคตที่ซึ่งทุกอย่างสามารถเป็นไปได้ สู่การสร้างสรรค์ที่รับเอาแนวคิดมาสานต่อ รวมรีวิวหนัง

รีวิวหนัง Tomorrowland ผจญแดนอนาคต

รีวิวหนัง Tomorrowland ผจญแดนอนาคต ผลงานกำกับโดย แบรด เบิร์ด

ภาพยนตร์เรื่องนี้ได้ผู้กำกับและร่วมเขียนบทโดย แบรด เบิร์ด เจ้าของสองรางวัลออสการ์ ผู้ให้กำเนิดหนังอนิเมะชั่นอย่าง The Incredibles (2004), Ratatouille (2007)

และหนังฟอร์มยักษ์อย่าง Mission: Impossible Ghost Protocol และเจฟฟรีย์ เชอร์นอฟ ทำหน้าที่ผู้อำนวยการสร้าง โดยมีจอห์น วอล์คเกอร์, เบอร์นาร์ด เบลลูว์, เจฟฟ์ เจนเซนและบริกแฮม เทย์เลอร์ ทั้งหมดรับหน้าที่ในการควบคุมงานสร้าง

รีวิวหนัง Tomorrowland ผจญแดนอนาคต

ซึ่ง Tomorrowland สร้างขึ้นจากบทภาพยนตร์โดย เดมอน ลินเดลอฟ มือเขียนบทและผู้ร่วมสร้างจากซีรีส์ Lost  อีกทั้งยังมีทีมงานสุดพิเศษของแบรด เบิร์ดอย่าง คลอดิโอ มิแรนดา ผู้ออกแบบงานสร้าง, สก็อต แชมบลิส ผู้ออกแบบเครื่องแต่งกาย, เจฟฟรีย์ เคอร์แลนด์ มือลำดับภาพ

ที่ร่วมกันผลิตอีกหนึ่งผลงานคุณภาพระดับมาตรฐานที่แฝงด้วยปรัชญาทางความคิดคลุกเคล้ากับเรื่องราวทางวิทยาศาสตร์

ถ่ายทอดผ่านภาพที่ละเมียดละไม และโดดเด่นด้วยเหล่าตัวละครผู้ทัดทานกับกระแสเวลา เพื่อมุ่งหน้าไปสู่แดนอนาคตที่น้อยคนนักจะไปถึง

สุดท้ายหนังยังได้ดารานำอย่าง จอร์จ คลูนีย์ นักแสดงเจ้าของรางวัลออสการ์ มาร่วมแสดง โดยรับบท แฟรงค์ วอล์คเกอร์

และนักแสดงสาวหน้าใหม่อย่าง บริทท์ โรเบิร์ตสัน เธอแสดงในบท เคย์ซี่ นิวตัน หญิงสาวที่ถูกเลือกด้วยความหวังว่าจะสามารถช่วยโลกได้ โดยจริงๆแล้ว บริทท์ อายุ 25 ปีแล้ว แต่เธอต้องแสดงเป็นสาววัยรุ่นไฮสคูล ซึ่งขอบอกเลยว่า แสดงได้ดีอย่างมาก

เรื่องย่อ

เรื่องราวของ Tomorrowland เริ่มขึ้นตั้งแต่ยุค 1960 จนถึงอนาคต เมื่อ เคย์ซี่ นิวตัน (บริท โรเบิร์ตสัน) เด็กสาวปราดเปรื่อง ผู้เต็มไปด้วยความใคร่รู้ในวิทยาศาสตร์

โดยเด็กสาวได้พบกับเข็มกลัดลึกลับด้วยความบังเอิญ ซึ่งแค่เพียงเธอสัมผัส ก็สามารถนำพาเธอไปยังสถานที่ๆแตกต่างออกไปจากโลกที่เธออยู่ได้ นั่นคือ ดินแดนแห่งอนาคต หรือเรียกว่า Tomorrowland โดยที่เธอเองก็ไม่แน่ใจเหมือนกันว่า สิ่งที่เกิดขึ้นนั้น เป็นเรื่องจริงหรือเพียงแค่ฝันไป 

รีวิวหนัง Tomorrowland ผจญแดนอนาคต

อย่างไรก็ตาม ท่ามกลางปริศนาความเป็นมาของสิ่งที่เธอได้พบเจอ ล้วนมีส่วนเกี่ยวข้องกับ แฟรงค์ เวลเคอร์ (จอร์จ คลูนี่ย์) นักประดิษฐ์ผู้ล้มเหลวและเลือกใช้ชีวิตสันโดษภายในบ้านไร่ที่เขาเติบโตขึ้นมา โดยเขายังคงยึดมั่นอยู่กับความใฝ่ฝันที่จะสร้างสรรค์สิ่งประดิษฐ์เพื่อเปลี่ยนแปลงโลก

โดยมีหุ่นยนต์เด็กจากโลกอนาคต อธีน่า (ราฟฟี่ แคสซิดี้) ซึ่งเป็นคนแอบเอาเข็มกลัดไปให้ เคย์ซี่ เพื่อช่วยหลบหนีจากคนของ เดวิด นิกซ์ (ฮิว ลอรี)

และพา เคย์ซี่ ไปหานักประดิษฐ์ แฟรงค์ เวลเคอร์ เพื่อขอร้องให้เขาพาพวกเธอกลับไปในโลก Tomorrowland อีกครั้ง ซึ่งทั้งคู่ต้องเผชิญหน้ากับภารกิจที่เต็มไปด้วยอันตราย

เพื่อเปิดเผยปริศนาของสถานที่อันลึกลับแห่งหนึ่งที่อยู่ระหว่างเวลาและช่องว่างที่ยากเกินหยั่งถึง โดยแฟรงค์และเคย์ซี่ ต้องกอบกู้โลกและดินแดนแห่งอนาคต “Tomorrowland” พร้อมกับหาทางแก้ไขปัญหาก่อนที่โลกจะถึงจุดจบ

พล็อตเรื่อง

หนังจะมีพล็อตและการดำเนินเรื่องในแบบฉบับของหนังดิสนีย์ เพราะฉะนั้น บทจะไม่ซับซ้อนมาก มองโลกในแง่ดี ให้แง่คิดด้านบวก

ที่สำคัญเป็นหนังผจญภัยเสริมใส่จินตนาการผสมผสานไซไฟที่มีแก่นเรื่องคือ ถ้ามนุษยชาติรับรู้อย่างแน่ชัดว่าอนาคตของตนเองกำลังเลวร้ายและหลีกเลี่ยงไม่ได้ เหมือนคนๆ หนึ่งที่รู้วันตายของตัวเอง

เขาจะเลือกทำแบบไหนล่ะ มันคงมีสองทางเป็นอย่างน้อยให้เราเลือก แต่ถ้าเกิดมีคนบางพวกมองว่า มันยังมีหนทางที่จะเปลี่ยนอนาคตแบบนั้นได้ล่ะ มันก็คงต้องลองกันดูสักตั้งไหม ว่าคนพวกนั้นจะทำมันให้เป็นจริงได้มั้ย

คือมีเนื้อหาของหนังที่เข้ากันได้กับเยาวชน หนังจึงดูไม่โตนัก หากทำใจให้เป็นเด็กก็จะสนุกกับ “ผจญแดนอนาคต” ได้ไม่ยาก 

รีวิวหนัง Tomorrowland ผจญแดนอนาคต

อีกทั้งการดำเดินเรื่องได้สนุกแม้ว่าอาจดูอืดอาดไปบ้าง แต่ผู้ชมก็จะได้พบอะไรที่เหมือนค่อยๆ แกะเปลือกห่อลูกอมออกทีละชั้น พบกับเรื่องราวที่จะถูกเปิดเผยออกมาอย่างไม่รู้จักจบสิ้น

ซึ่งในระหว่างเปิดห่อลูกอม ก็จะได้พบทั้งสีสันและความน่ารักที่สอดใส่มาในมุกตลกที่เรียกเสียงหัวเราะได้อย่างอยู่หมัด และด้วยงานภาพที่ตื่นตาตื่นใจ บวกกับซาวด์ประกอบที่คมชัดดี หนังเรื่องนี้จึงกลายเป็นความบันเทิงสำหรับทุกคนในครอบครัวได้

จุดเด่นและจุดด้อยของหนัง

นอกจากบทที่เปี่ยมไปด้วยพลังเชิงบวกอย่างมากแล้ว ต้องขอชื่นชมงานด้านภาพและไอเดียของ Tomorrowland อย่างมาก

ทั้งในแง่ของภาพที่ทีมงานสร้างสรรค์โลกอนาคตออกมาให้งดงาม โดยใช้ CGI ทำให้เหมือนอยู่ในเทพนิยาย (ตามสไตล์จินตนาการอย่างดิสนีย์) และในแง่ของการสร้างอาวุธ

หรือสิ่งประดิษฐ์สุดแปลกใหม่ รวมไปถึงการออกแบบเสื้อผ้าและฉากหลังที่ทำให้ฉากแห่งโลกอนาคตเปี่ยมไปด้วยความหวัง และความตื่นตาตื่นใจ

และยิ่งในระบบ IMAX ด้วยแล้ว จะเห็นภาพได้อย่างชัดเจนเต็มตาแบบจุใจ และมีความละเอียดที่ประณีตของอาคารสถานที่สร้างต่างๆทั่วดินแดน ราวกับว่าท่องไปในโลกอนาคต

ทางด้านการแสดง อย่างตัวละคร เคย์ซี่ นิวตัน ซึ่งรับบทโดย บริทท์ โรเบิร์ตสัน นักแสดงดาวรุ่งจาก The Longest Ride (2015) ด้วยบุคลิกและลักษณะเด่นของตัวละครที่ทั้งมั่นใจและมองโลกในแง่ดี พร้อมกับความไม่ยอมแพ้ อันนำไปสู่ประเด็นหลักของเรื่อง บริทท์สามารถแสดงได้อย่างมีเสน่ห์และถ่ายทอดความตลก น่ารัก สดใสร่าเริง

รวมเอาไว้อยู่ในตัวละครเพียงตัวเดียวได้เป็นอย่างดี และเมื่อต้องมาปะทะกับ แฟรงค์ วอล์กเกอร์ ชายนักประดิษฐ์วัยกลางคน รับบทโดย จอร์จ คลูนีย์ ยิ่งทำให้ซีนน่าดูมากขึ้น และสนุกมากขึ้นไปอีก

ซึ่งคลูนีย์ก็สามารถแสดงความเป็นเด็กในร่างผู้ใหญ่ออกมาได้อย่างเป็นธรรมชาติมากเลยทีเดียว

ดูหนังชนโรง

อีกหนึ่งตัวละครที่จัดจ้านและสำคัญสำหรับหนังเรื่องนี้อีกคนเลยคือ อธีน่า เด็กสาวตัวน้อยผู้คัดเลือกคนสู่แดนอนาคต รับบทโดย ราฟฟี่ แคสสิดี้ ที่มีวัยเพียง 13 ปี

แต่สามารถแสดงฉากบู๊ได้ห้ำหั่นและตื่นเต้นปนขำได้พอๆกับนักแสดงรุ่นใหญ่คนอื่นๆ รวมไปถึงตัวละครอื่นๆที่ขโมยซีนได้อยู่หลายฉากอย่างเหล่าหุ่นยนต์ที่ตามไล่ล่าฆ่าฟันแต่แฝงด้วยรอยยิ้มมุมปากสุดเซ็กซี่นั่นเอง

นอกจากนั้นยังได้ ฮิวจ์ ลอรี่ แห่งซีรี่ย์ House ที่รับบทเป็น เดวิด นิกซ์ มาร่วมสร้างความฉลาดล้ำยุคที่เหนือจินตนาการ พร้อมกับกุมชะตาปริศนาอันสำคัญของโลกปัจจุบันเอาไว้ด้วย

อีกอย่างที่โดดเด่นใน Tomorrowland คือการนำเอาบุคคลจริงในประวัติศาสตร์ หรือสถานที่จริงมามีบทบาทสำคัญในการเสริมสร้างเนื้อเรื่อง อย่างการนำเอา โทมัส เอดิสัน นักประดิษฐ์ผู้ไม่ยอมแพ้

ที่สร้างสิ่งมหัศจรรย์ต่างๆจนกลายเป็นประโยชน์อย่างมหาศาล หรือ หอไอเฟล สัญลักษณ์สำคัญของปารีส ซึ่งในอดีตนั้น กุสตาฟ ไอเฟล สถาปนิกและวิศวกรผู้สร้าง กลับถูกวิพากษ์วิจารณ์อย่างมากจากการออกแบบที่ล้ำยุคผิดแผกจากสมัยนิยม

ซึ่งการพลิกให้ผลลัพธ์ที่ได้จากการกล้าลงมือทำและความฝันที่มีบทบาทสำคัญกับเรื่อง ยิ่งตอกย้ำแนวคิดของดิสนีย์และคอนเซ็ปต์สำคัญของ “โลกอนาคต” ที่ดิสนีย์ตั้งเป้าหมายไว้อย่างชัดเจน

พร้อมด้วยลูกเล่นสุดตระการตาและความสนุกตลอดทางที่ผสมผสานคอยสร้างสีสันให้กับเรื่องด้วย

รีวิวหนัง Tomorrowland ผจญแดนอนาคต บทสรุป

โดยรวมแล้ว Tomorrowland ผจญแดนอนาคต เป็นภาพยนตร์ที่ถ้าได้ดูซ้ำและมองลึกลงไปในเนื้อหาที่มีอยู่ ถือว่าเป็นภาพยนตร์ที่แฝงแง่คิดพื้นฐานที่ทุกคนจะต้องมีในวัยเด็ก นั่นก็คือ การเป็นนักฝันนั่นเอง

ซึ่งนักฝันนั้นจะเป็นตัวจุดประกายในการพัฒนาสิ่งของต่างๆ ให้สามารถใช้งานได้ และพัฒนาโลกให้ดียิ่งขึ้น แต่ถ้าใช้ไปในทางที่ไม่ดี โลกนี้ก็จะมีแต่พังกับพังเท่านั้นเอง ถือเป็นอีกหนึ่งหนังผจญภัยไซไฟที่ใส่องค์ประกอบที่มีสีสัน

ดูหนังชนโรง

 แม้ตอนนี้อาจจะยังไม่สามารถก้าวไปถึงจุดสูงสุดของหนังไซไฟผจญภัยที่ครบเครื่องได้อย่างเต็มที่ แต่ว่าในอนาคตเราอาจจะได้เห็นความพยายามรูปแบบใหม่ที่น่าตื่นตาตื่นใจเกิดขึ้นอีกมากมาย ที่มาจากเหล่า “คนช่างฝัน” ก็เป็นได้ เพราะลึกๆเราเชื่อว่า ไม่มีสิ่งไหนที่เป็นไปไม่ได้

ความรู้สึกหลังรับชม

หลังจากที่ดูจบ Tomorrowland ผจญแดนอนาคต เป็นหนังที่สนุก ดูได้ทั้งครอบครัว อารมณ์และฉากต่างๆล้วนทำให้น่าติดตาม แต่หลายคนอาจมองว่าหนังดูพยายามเกินตัวไปหน่อย “เหมือนเป็นการขายฝัน”

ดูหนังชนโรง

 แต่อย่างน้อยหนังก็ได้ลองสื่อสารอย่างเต็มที่ ซึ่งอาจทำให้คนดูที่ได้ดูหนังเรื่องนี้ มีความกล้าฝันและช่วยสร้างแรงบันดาลใจ ไม่ให้ยอมแพ้ต่ออะไรง่ายๆ

เพราะโลกในวันพรุ่งนี้อีก50 ปี หรือ100 ปีข้างหน้าจะเป็นอย่างไรนั้น คำตอบส่วนหนึ่งอยู่ในมือของเราทุกๆคน ขอให้คะแนนสำหรับหนังเรื่องนี้อยู่ที่ 8/10 คะแนน

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *