รีวิวหนัง The Sixth Sense (1999) ซิกซ์เซ้นส์…สัมผัสสยอง

รีวิวหนัง The Sixth Sense (1999) ซิกซ์เซ้นส์…สัมผัสสยอง

สวัสดีค่ะและในวันนี้เราจะมา รีวิวหนัง The Sixth Sense (1999) ซิกซ์เซ้นส์…สัมผัสสยอง เป็นภาพยนตร์ผีแนวระทึกขวัญ ที่ผสมผสานระหว่างเรื่องราวเหนือธรรมชาติเข้ากับจิตวิทยา ซึ่งในวันที่ 6 สิงหาคม ค.ศ. 1999 คือวันแรกที่หนังสยองขวัญดราม่าเรื่อง The Sixth Sense เข้าฉายในอเมริกา ดูหนังชนโรง ซึ่งได้ผลจากคำวิจารณ์และเสียงตอบรับที่ดีเกินคาด ทำให้หนังกวาดรายได้ไปอย่างมหาศาลกว่า 672.8 ล้านเหรียญสหรัฐ

 

นอกจากนี้หนังยังถูกเสนอชื่อเช้าชิงรางวัลออสการ์ถึง 6 สาขา ได้แก่ ภาพยนตร์ยอดเยี่ยม, ผู้กำกับยอดเยี่ยม, บทภาพยนตร์ดั้งเดิมยอดเยี่ยม, นักแสดงสมทบชายยอดเยี่ยม (ฮาร์ลีย์ โจเอล ออสเมนต์), นักแสดงสมทบหญิงยอดเยี่ยม (โทนี คอลเล็ตต์) และตัดต่อภาพยนตร์ยอดเยี่ยม

ส่วนเรื่องราวต่อจากนี้จะเป็นอย่างไร ติดตามต่อได้ที่รีวิวข้างล่างนี้ได้เลยค่ะ หนังเก่ายอดนิยม

รีวิวหนัง The Sixth Sense (1999) ซิกซ์เซ้นส์…สัมผัสสยอง

รีวิวหนัง The Sixth Sense (1999) ซิกซ์เซ้นส์…สัมผัสสยอง ผลงานกำกับโดย เอ็ม. ไนท์ ชยามาลาน

นี่คือหนังฟอร์มใหญ่ชิ้นแรกจากผู้กำกับเชื้อสายอินเดียนาม เอ็ม. ไนท์ ชยามาลาน ที่ไม่มีใครรู้จักในตอนนั้น แต่หลังจากที่เขาได้กำกับหนังเรื่องนี้จนประสบความสำเร็จ ทำให้เขากลายเป็นผู้กำกับบล็อกบัสเตอร์ในชั่วข้ามคืน  

ซึ่ง The Sixth Sense ไม่ใช่หนังเรื่องแรกที่เอ็ม. ไนท์ ชยามาลาน กำกับ เขาเคยทำหนังดราม่าทุนต่ำเรื่อง Praying with Anger ที่สร้างเอง กำกับเอง เขียนบทเอง และเล่นเองในปี 1992 และหนังดราม่าคอเมดี้เรื่อง Wide Awake ในปี 1998 ที่ทุนหนาขึ้นมาหน่อย

แถมได้ โรซี โอดอนเนลล์​ มารับบทนำ แต่ชยามาลานก็ยังเป็นผู้กำกับที่แทบไม่มีใครรู้จัก เขาเขียนบทหนังเรื่อง The Sixth Sense ในปี 1995

โดยเขากล่าวถึงบทหนังที่เขียนขึ้นว่า “ตอนนั้นผมอายุ 25 ผมรู้สึกอยากเขียนบทในแบบที่ไม่มีใครสั่งคุณให้เขียน คุณต้องทำมันออกมาให้มีรูปแบบเฉพาะ ไม่เหมือนใคร ซึ่งถ้าไม่มีใครอยากซื้อไปทำหนัง ผมก็ไม่แคร์”

ชยามาลานออกกฏว่า “หากสตูดิโอใดซื้อบทหนังเรื่องนี้ไป เขาต้องเป็นผู้กำกับเท่านั้น” และเขาเริ่มต้นราคาขายบทไว้ที่ 1 ล้านเหรียญ the sixth sense 1999 พากย์ไทย

รีวิวหนัง The Sixth Sense (1999) ซิกซ์เซ้นส์…สัมผัสสยอง

ชยามาลานได้รับโทรศัพท์ว่าดิสนีย์สตูดิโอชอบบทหนังเรื่องนี้มาก โดยตกลงราคากันที่ 3 ล้านเหรียญสหรัฐ และยินยอมให้ชยามาลานเป็นผู้กำกับ

ซึ่งจะสร้างภายใต้โปรดักชั่นของ Hollywood Pictures (ชนะคู่แข่งอย่าง Columbia Pictures, DreamWorks และ New Line Cinema ที่อยากได้บทหนังเรื่องนี้เหมือนกัน) จากนั้นดิสนีย์ได้ขายลิขสิทธิ์โปรดักชั่นต่อให้กับ Spyglass Entertainment 

บรู๊ซ วิลลิส เป็นนักแสดงคนแรกที่ถูกดิสนีย์ให้มารับบทนำเป็นมัลคอล์ม ด้วยเหตุที่เขา “ไล่ผู้กำกับ” จากหนังเรื่อง The Boardway Brawler จนหนังถ่ายทำไม่จบ

ทำให้ดิสนีย์ได้รับความเสียหาย เขาจึงติดสัญญาว่าต้องเล่นหนังทดแทนสองเรื่อง (อีกเรื่องคือ The Kid ในปี 2000) อีกบทสำคัญก็คุณแม่ ลินน์ ที่ชยามาลานรักหนังเรื่อง Murial’s Wedding มาก

และอยากให้โทนี่ คอลเล็ตต์ มารับบทนี้ แต่ตอนนั้นเธอโกนศีรษะอยู่ (อีกหนึ่งตัวเลือกคือมาริสา โทเม) ซึ่งนั่นไม่ใช่ปัญหา ท้ายที่สุดคอลเล็ตต์ได้รับบทนี้ไปโดยสวมวิกผมตลอดการถ่ายทำทั้งเรื่อง

แต่ตัวละครที่สำคัญที่สุดอย่าง โคล เด็กน้อยผู้มีสัมผัสที่ 6 นั้นได้รับการคัดเลือกตัวนักแสดง โดยท้ายที่สุด ฮาร์ลีย์  โจล ออสเมนต์ เด็กชายวัย 11 ขวบที่ได้รับบทนี้ไป

เรื่องย่อ

the sixth sense 1999 เรื่องย่อ มัลคอล์ม โครว์(บรู๊ซ วิลลิส) นักจิตวิทยาเด็กในเมืองฟิลาเดลเฟียอาศัยอยู่กับแอนนา โครว์ ภรรยาของเขา(โอลิเวียร์ วิลเลี่ยมส์) อยู่มาคืนหนึ่งมีชายหนุ่มแปลกหน้าปรากฏตัวในห้องน้ำที่บ้านของเขา

ซึ่งเป็นอดีตคนไข้ของเขาคือ วินเซนต์ เกรย์มิลส์ อดีตผู้ป่วยเข้าบำบัดอาการเห็นภาพหลอนที่เขารักษาล้มเหลว และไม่สามารถช่วยได้ แต่ก่อนที่เขาจะพูดอะไร วินเซนต์ก็ได้ลั่นปืนใส่ที่ตัวเองหนึ่งนัดไปแล้ว

หลังจากเหตุการณ์นั้นภรรยาก็ไม่คุยกับเขาอีกเลย อาจจะเป็นเพราะโกรธเรื่องที่อาชีพของเขาเป็นสาเหตุที่ทำให้คนมาฆ่าตัวตายในบ้าน

ต่อมาอีกหนึ่งปีในช่วงฤดูใบไม้ร่วง มัลคอล์มก็ได้พบกับผู้เข้าบำบัดเด็กที่น่าสนใจคนหนึ่งนั้นก็คือ โคล เซียร์ (ฮาลี่ย์ โจเอล ออสเมนต์) เขาเป็นเด็กเก็บตัว ทำตัวเหมือนมีอะไรบางอย่างซ่อนอยู่ หรือคุยเหม่อลอย

รวมถึงพูดเรื่องราวมากมายที่ได้ยินมาจากใครไม่รู้ และเลือกที่จะไม่คุยกับใคร ซึ่งเป็นเหตุที่ทำให้โดนแกล้งอยู่บ่อยครั้ง

เขามีความลับบางอย่างที่ไม่กล้าบอกแม้กระทั่งผู้เป็นแม่ลินน์ (โทนี่ คอลเล็ตต์) โดยเบื้องต้นมัลคอล์มวินิจฉัยว่าอาจจะเกิดรอยร้าวทางจิตใจที่พ่อกับแม่ของเด็กแยกกันอยู่ตั้งแต่ยังเล็ก

จนตรวจสอบต่อไปมัลคอล์มก็ได้พบกับร่องรอยการถูกทำร้ายที่เจ้าตัวบอกว่าโดนเพื่อนแกล้ง แต่สุดท้ายคำสารภาพที่เป็นความลับอันน่าเหลือเชื่อที่เก็บงำมาตลอด ว่าเด็กชายโคลเห็นสิ่งลี้ลับที่เรียกว่าวิญญาณ ซึ่งวิญญาณเหล่านั้นไม่รู้ตัวว่าตัวเองตายแล้ว และต้องการให้ทำอะไรบางอย่าง ซึ่งบางตนก็ก้าวร้าวและทำร้ายเขา

แต่ในเรื่องแบบนี้ก็ไม่มีใครสามารถเชื่อได้อย่างปักใจโดยไม่มีของพิสูจน์หรือหลักฐาน แต่มัลคอล์มได้เริ่มตั้งข้อสงสัยกับคนไข้เก่าที่คล้ายกันอย่างวินเซนต์ เกรย์มิลส์

ที่เคยอ้างว่ามีอาการแบบนี้เช่นกันโดยเปิดเทปบันทึกบทสนทนาจากม้วนเทปบันทึกเสียงในลังที่เขาเก็บไว้เป็นข้อมูลหลักฐานในการรักษา

เป็นเหตุการณ์ในวันที่วินเซนต์แอบเข้ามาฆ่าตัวตายในห้องน้ำที่บ้าน  เป็นเสียงพูดคุยปกติแต่มีเสียงแทรกเบาๆที่ต้องปรับระดับเสียงให้สูงสุดจะได้ยินเสียงลี้ลับของใครบางคนที่แทรกเข้ามาในบทสนทนาเป็นภาษาสเปนว่า ‘โยโน่ คิวเอโร่ มอรี่ร์’ ที่แปลว่าฉันยังไม่อยากตาย ทำให้คิดได้ว่าจริงๆแล้ววินเซนต์อาจจะพยายามช่วยวิญญาณเหล่านี้ผ่านทางตัวเขา

รีวิวหนัง The Sixth Sense (1999) ซิกซ์เซ้นส์…สัมผัสสยอง

โดยนำเรื่องราวของพวกเขาเหล่านั้นมาปรึกษากับมัลคอล์ม แต่ตัวมัลคอล์มกลับไม่เข้าใจที่วินเซนต์พยายามบอกและสื่อสาร ทำให้มัลคอล์มเริ่มเชื่อและไม่อยากให้เหตุการณ์ในเคสแบบวินเซนต์ เกรย์มิลส์ ซ้ำรอยอีกครั้ง เขาจึงแนะนำโคลว่า

ถ้าหากเป็นเรื่องจริงและมีความเป็นไปได้ที่จริงๆแล้ววิญญาณนั้นต้องหาความช่วยเหลือจากเขาเท่านั้น 

โคลตื่นขึ้นมาในคืนหนึ่งและได้พบกับเด็กหญิงที่อาเจียนอย่างสยดสยอง หลังจากรู้ว่าเธอไม่ใช่คนปกติและพบเจอหลายครั้งแล้ว โคลจึงรวบรวมความกล้าทั้งหมดถามหาสาเหตุที่มาปรากฎตัวให้เขาเห็น

ในวันต่อมาโคลไปกับมิลล์ส์ในงานศพที่บ้านของเด็กหญิงลึกลับคนนั้น ซึ่งเขาได้แอบเข้าไปนำกล่องที่เก็บวิดีโอเทปบางอย่างที่ถูกชี้ทางที่เก็บโดยผีเด็กผู้หญิงคนนั้นเอง โคลได้มอบให้กับพ่อของเธ

ซึ่งภายในเทปแสดงให้เห็นเรื่องราวขณะที่แม่ของเด็กหญิงสาวกำลังวางยาในอาหารลูกสาวของเธอเอง นำไปสู่การสรุปพลิกคดี อีกทั้งโคลได้ช่วยชีวิตน้องสาวของหญิงสาวจากชะตากรรมเดียวกันจากแม่ใจร้าย

เมื่อผ่านเหตุการณ์นั้นไปเด็กชายโคล เซียร์ เริ่มเรียนรู้ที่จะปรับตัวอยู่กับสิ่งลี้ลับที่เขาเห็น โคลทำให้เขาเหมือนเด็กคนอื่นทั่วไป ไม่หวาดระแวงกับสิ่งที่เห็นและจัดการกับมันได้

ริ่มเข้ากับเพื่อนที่โรงเรียนได้ มีมนุษยสัมพันธ์มากขึ้นและยังถูกคัดเลือกให้ได้รับบทเป็นตัวเอกในละครโรงเรียนอีกด้วย เรียกได้ว่าการบำบัดทางจิตกับมัลคอล์ม โครว์ ได้ผลอย่างดีเยี่ยม

ก่อนจากกันโคลแนะนำกับหมอมัลคอล์มลองพูดกับแอนนาภรรยาที่ไม่ยอมคุยกับเขาในขณะที่เธอหลับ ในขณะที่อยู่บนรถ ซึ่งเป็นทางกลับบ้าน โคลได้บอกกับแม่ของเขาว่ามีคนเสียชีวิตจากอุบัติเหตุบนท้องถนนเป็นเหตุทำให้รถติดเพราะเขาเหตุวิญญาณผู้เคราะห์ร้ายพึ่งผ่านไป

เมื่อลินน์ไม่เชื่อเขาโคลจึงตัดสินบอกเรื่องที่มีแค่แม่กับยายของเขาที่จากไปแล้วเท่านั้นที่รู้ เขาอ้างว่ายายผู้ล่วงลับมาเยี่ยมคุยกับเขา

อีกทั้งยังเล่าถึงเรื่องที่แม่ในวัยเด็กตอนที่ร่วมกิจกกรรมการเต้นรำในโรงเรียน โคลสามารถอธิบายรายละเอียดได้ทั้งหมดทั้งที่เขายังไม่เกิดมาด้วยซ้ำ

มัลคอล์มกลับบ้านไปหาภรรยาของเขา ขณะที่เธอหลับไปในขณะที่เปิดดูม้วนวิดีโอที่บันทึกในวันแต่งงาน เมื่อเดินเข้าไปใกล้แอนนาถามว่าทำไมเขาถึงทิ้งเธอไว้เพียงลำพัง ต่อมาแหวนแต่งงานของมัลคอล์มก็หลุดร่วงมาจากมือภรรยาของเขา โดยเป็นไปไม่ได้ว่าเขาจะไม่ใส่มันไว้

มัลคอล์มระลึกถึงสิ่งที่โคลบอกเขาว่าวิญญาณเหล่านั้นจะไม่รู้ตัวว่าตัวเองตายแล้ว มัลคอล์มเริ่มเห็นในช่วงเวลาที่เขาหลงลืมไป ทันใดนั้นมัลคอล์มก็จำได้ว่าถูกยิงและพบบาดแผลกระสุนปืนกลางหน้าอกของเขา

ซึ่งเผยให้ได้รับรู้ความจำทั้งหมดว่าเขาถูกวินเซนต์ฆ่าไปตั้งแต่เหตุการณ์ครั้งนั้น และเขาก็ได้ตายจากโลกนี้ไปนานแล้วโดยที่ไม่รู้ตัว

พล็อตเรื่อง

The Sixth Sense  สัมผัสหลอน อาจไม่ใช่หนังผีที่สร้างความตื่นตาตื่นใจด้วยเทคนิคของภาพยนตร์สมัยใหม่ แต่เป็นหนังผีที่ถ่ายทอดความเป็นมนุษย์ธรรมดาที่มองไม่เห็นกับคนพิเศษที่สามารถมองเห็นสิ่งลี้ลับเหนือธรรมชาติได้เป็นอย่างดี

โดยเฉพาะช่องว่างระหว่างวัยของเด็กกับผู้ใหญ่ที่ยากต่อการทำความเข้าใจจิตใจและ “เชื่อ” อีกฝ่ายได้อย่างสนิทใจ เพราะเชื่อกันมาอย่างช้านานแล้วว่าเด็กๆสามารถมองเห็นคนตายได้ง่ายกว่าผู้ใหญ่

รีวิวหนัง The Sixth Sense (1999) ซิกซ์เซ้นส์…สัมผัสสยอง

โดยสามารถถ่ายทอดสิ่งที่เด็กชาย โคล เซียร์ เห็นและพยายามบอกกับนักจิตวิทยาว่า “ฉันเห็นคนตาย พวกเขาต้องการให้ทำบางอย่างเพื่อพวกเขา” ความจริงที่เขาพยายามบอกกับแม่ แต่ก็ไม่ได้รับการตอบรับอย่างเหมาะสม ซึ่งยิ่งส่งผลให้สภาพจิตใจของเขาเลวร้ายลงกว่าเดิม

จุดเด่นและจุดด้อยของหนัง

ด้วยประโยคคลาสสิกอย่าง “I see dead people.” ที่โคลพูดในฉากหนึ่งของเรื่อง เป็นหนึ่งในปัญหาของหนัง เพราะหลังจากที่โคลพูดประโยคนั้นจบ ภาพก็ตัดไปที่มัลคอล์มหรือบรูซ วิลลิส ทันที

ซึ่งทั้งชยามาลานและโปรดิวเซอร์ แฟรงค์ มาร์แชลล์ รู้สึกว่ามันเป็นการบอกใบ้ถึงตอนจบมากเกินไปและอยากจะดึงประโยคนี้ออก แต่ในรอบทดลองฉาย ผู้ชมแทบทั้งหมดที่ได้ชม The Sixth Sense ครั้งแรก ไม่ได้รู้สึกว่าได้รับการบอกใบ้แต่อย่างใด ประโยคนี้จึงยังคงถูกเก็บไว้ในหนัง 

พล็อตเรื่องแสนหักมุมที่ทำคนดูเหวอกันไปทั้งโลก จนกลายเป็นผลงานชิ้นโบแดงที่อัดแน่นด้วยคุณภาพและความบันเทิงที่จะหยิบมาดูซ้ำอีกกี่ครั้งก็ไม่เบื่อ

ดูหนังชนโรง

อันที่จริงชยามาลานแอบใส่คำใบ้ ว่ามัลคอล์มเสียชีวิตตั้งแต่ต้นเรื่องไว้หลายอย่าง ไม่ว่าจะเป็นการที่มัลคอล์มสวมเสื้อผ้าชุดเดิมที่เขาใส่ตั้งแต่ต้นเรื่องอยู่ตลอดเวลา เพียงแต่ชยามาลานใช้วิธีหลอกล่อสลับชิ้นไปมาจนคนดูไม่รู้สึกสงสัย

หรือการใส่ “สีแดง” เข้าไปในฉากที่มีผีหรือคนตายมาเกี่ยวข้อง อย่างเช่นลูกบิดบานประตูห้องใต้ดิน, ลูกโป่งสีแดง, เสื้อสเว็ตเตอร์สีแดงที่โคลใส่ในปาร์ตี้วันเกิด

หรือประตูโบสถ์ เป็นต้น นั่นรวมถึงฉากส่วนใหญ่ที่โคลและมัลคอล์ม อยู่ด้วยกัน จะมีสีแดงเป็นส่วนประกอบเช่นกัน และนั่นก็เป็นการบอกใบ้ถึงการตายของมัลคอล์มที่ชยามาลานต้องการสื่อในหนัง

รีวิวหนัง The Sixth Sense (1999) ซิกซ์เซ้นส์…สัมผัสสยอง บทสรุป

ถ้าหากใครชื่นชอบหนังผี… ที่มีโทนในการเล่าเรื่องที่ค่อนข้างสงบไม่ได้หวือหวาเร่งเร้าความสั่นประสาทกระตุ้นต่อมความกลัวมากจนเดินงาม

ก่อนที่เรื่องราวจะนำพาไปสู้จุดจบที่ชวนทำให้ขนลุกอย่างคาดไม่ถึงรับรองว่าหนังผีเรื่อง The Sixth Sense เป็นหนึ่งในตัวเลือกที่จะรับชมในกลางดึกอย่างแน่นอน แต่ก่อนที่จะเปิดดูภาพยนตร์เรื่องนี้ก็อย่าลืมทำการปิดไฟให้มืดสนิทเสียก่อน เพื่อที่จะได้ซึมซับความหลอนสั่นประสาทได้อย่างอินแบบสุดๆ

ดูหนังชนโรง

The Sixth Sense ได้รับการวิจารณ์ในเชิงบวกโดยเฉพาะอย่างยิ่งจากนักวิจารณ์จากทางรอตเทนโทเมโทส์ที่ให้คะแนนถึง 86% จาก 153นักวิจารณ์ที่ให้ภาพยนตร์เรื่องนี้ได้รับการวิจารณ์เชิงบวกรวมทั้งจากผู้ชมที่สำรวจ โดยบริษัทวิจัยตลาดภาพยนตร์อย่างซีนีม่าสกอร์ให้เกรดเฉลี่ย A- ที่ถือว่าสูงเป็นอย่างมาก

ความรู้สึกหลังรับชม

การดำเนินเรื่องราวผ่าน โคล เซียร์ เด็กชายวัย 8 ขวบ ที่สามารถมองเห็นผีและพูดคุยกับคนตายได้ ทำให้คนรอบข้างมองว่าเขาเป็นตัวประหลาดและถูกกลั่นแกล้ง จนได้มาเจอกับ มัลคอล์ม โครว์ นักจิตวิทยาเด็กที่พยายามหาวิธีช่วยเหลือเด็กชาย แน่นอนว่าเรื่องราวของภาพยนตร์เรื่องนี้เต็มไปด้วยเหตุการณ์สุดหลอนมากมาย

ดูหนังชนโรง

หลังจากที่ดูจนจบ ความรู้สึกที่ได้รับคือ ภาพยนตร์เรื่องนี้เป็นภาพยนตร์ระทึกขวัญที่ควรดูให้ได้สักครั้งในชีวิต เรียกได้ว่าความหลอนระดับมาสเตอร์พีซ หนังอาจจะเก่าไปหน่อย แต่เป็นความเก่าที่ยอดเยี่ยมมากๆค่ะ ความหลอนความน่ากลัว เอาไปเลยสิบกะโหลก

ใครที่ชอบหนังแนวระทึกขวัญ หรือเรียกง่ายๆว่า ใครชอบหนังผี ต้องห้ามพลาดเลยกับเรื่อง The Sixth Sense ซิกซ์เซ้นส์…สัมผัสสยอง ขอให้คะแนนส่วนตัว 9.5/10 ไปเลยค่ะ

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *