สวัสดีค่ะทุกคนและในวันนี้เราจะมา รีวิวหนัง Abraham Lincoln : Vampire Hunter  ประธานาธิบดี ลินคอล์น นักล่าแวมไพร์ ประวัติศาสตร์อิงจากเรื่องราวจริง หนังชนโรง การจะรู้สึกเป็นเรื่องน่าเบื่อย่อมไม่ใช่เรื่องแปลกเนื่องจากชีวิตมนุษย์มิได้น่าตื่นตาตื่นใจขนาดนั้น

แต่ว่าถ้าเกิดเอาประวัติศาสตร์มาเติมแต่งให้ตีเนียนไปกับเหตุที่เกิดขึ้นจริงจะเป็นอย่างไร คำตอบที่ได้คงจะราวหนังประเด็นนี้ที่กล่าวถึงผู้นำผู้ที่ 16 ของสหรัฐฯนาม อัมบราฮัม ลินคอล์น

ผู้ซึ่งปฏิบัติงานแผนเลิกข้ารับใช้ขึ้นครั้งใหญ่ในประเทศอเมริกา แต่ทว่ากว่าจะไปถึงเป้าหมายนั้นจำต้องทำสงครามที่ไม่ใช่มนุษย์ด้วยกันเองเท่านั้น แต่รวมถึงแวมไพร์อีกด้วย หนังเก่ายอดนิยม

ไอเดียล่าแวมไพร์ไม่ใช่เรื่องแปลกเพราะเป็นเรื่องเก่าแก่ที่เห็นบ่อย แต่ที่แปลกคือการนำพล็อตเก่ามาปรุงแต่งในประวัติศาสตร์ของจริงด้วยการอุดช่องว่างที่ไม่ได้เล่าทั้งหมดให้ดูมีน้ำมีเนื้อมากขึ้นแม้จะเต็มไปด้วยความเว่อร์วัง 

แนว : แอ็กชั่น, สยองขวัญ

ความยาว : 105 นาที

ทุนสร้าง : 69 ล้านเหรียญฯ

คำวิจารณ์ : imdb = 6.5/10, Rotten Tomatoes = 35%

Abraham lincoln vampire hunter novel กระนั้นพลังจินตนาการที่ไม่ใครกล้าจับประวัติศาสตร์ให้บิดเบือนสุดโต่งนี้ก็กลายเป็นความน่าสนใจและตีเนียนไปกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นอย่างสมเหตุสมผล ซึ่งต้องขอชื่นชมความกล้าใส่สีตีไข่ของ Seth Grahame-Smith ที่สามารถแต่งเป็นเรื่องเป็นราวจับประเด็นเชื่อมโยงสงครามในยุคนั้นได้สำเร็จ 

กำกับ : Timur Bekmambetov

เขียนบท : Seth Grahame-Smith

แสดงนำ : Benjamin Walker, Dominic Cooper, Anthony Mackie, Mary Elizabeth Winstead, Rufus Sewell, Marton Csokas

สตูดิโอผู้สร้าง : Bazelevs Company, Tim Burton Productions, Dune Entertainment

จัดจำหน่ายโดย : 20th Century Fox

เนื้อเรื่องเป็นเรื่องราวของลินคอล์นที่เติบโตในอาชีพนักกฎหมาย นักการเมือง ประธานาธิบดีในช่วงสงครามกลางเมือง และสงครามลับของเขากับความมืด

นำแสดงโดย เบนจามิน วอล์คเกอร์ ในบทอับราฮัม เขาเป็นพยาน’ การตายของแม่ของเขาด้วยน้ำมือของแจ็ค บาร์ตส์ (มาตรอน โชคัส) พ่อค้าทาส/นักธุรกิจแวมไพร์ อับราฮัมอดทนรอหลายปีและตัดสินใจล้างแค้นให้แม่ของเขา

ลินคอล์นใช้ความช่วยเหลือจากเฮนรี่ สเตอร์เจสผู้ลึกลับ (โดมินิก คูเปอร์) ผู้สอนให้อับราฮัมรู้ศิลปะการล่าแวมไพร์ แม้ว่าสเตอร์เจสจะสั่งห้ามไม่ให้มีครอบครัวหรือเพื่อนฝูง อับราฮัมก็คบหากับแมรี่ ทอดด์ (แมรี เอลิซาเบธ วินสตีด) และกลับมาติดต่อกับวิลเลียม จอห์นสัน (แอนโธนี่ แม็คกี้) เพื่อนในวัยเด็กของเขาอีกครั้ง

อย่างไรก็ตาม ผู้ที่เป็นที่รักของลินคอล์นและประเทศเองก็ถูกคุกคามเมื่ออดัม (รูฟัส ซีวอลล์) หัวหน้าแวมไพร์มาตีกลุ่มแบ่งแยกดินแดน บังคับให้อาเบะผู้ซื่อสัตย์ดำเนินการเหนือขอบเขตทางการเมืองของเขา

จากเลือดที่หลั่งออกมาเป็นดิจิทัล หัวที่ถูกตัดหัว และเขี้ยวที่เป็นทาส อับราฮัม ลินคอล์น: นักล่าแวมไพร์ ฉากแอ็คชั่นสุดอลังการถูกโยนมาที่กล้อง ความน่าเชื่อถือและความถูกต้องทางประวัติศาสตร์ถูกทำลายลง ขาดน้ำเสียงที่กระฉับกระเฉง หนังใหม่ชนโรง 

และตัวละครก็มีมิติเดียวซึ่งทำให้ฉันมีอารมณ์ผสมตลอดทั้งเรื่องธรรมชาติที่แปลกประหลาด น้ำเสียงไม่ได้ “น่ากลัว” หรือน่าตื่นเต้นพอที่จะเข้าเกณฑ์ของหนังสยองขวัญ แต่แล้วหนังก็เอาจริงเอาจังมากจนยากที่จะหัวเราะออกมา

ก่อนจะเริ่มเรื่องหนังเรามารีวิวชีวประวัติของประธานาธิบดีคนดังกันสักหน่อยนะคะ อับราฮัม ลินคอล์น (Abraham Lincoln) นับเป็นประธานาธิบดีคนที่ 16 ของสหรัฐอเมริกาค่ะ เขาเข้ารับตำแหน่งในเดือนมีนาคมของปี 1861

จนกระทั่งถูกลอบสังหารขณะที่กำลังชมการแสดงละครในปี 1865 สาเหตุก็หนีไม่พ้นเรื่องที่เขาเข้ามามีบทบาทในการปลดแอกทาสผิวสีในสหรัฐฯ 

โดยเขาเป็นผู้ลงนามในคำประกาศเลิกทาสในปี 1963 ซึ่งคำประกาศดังกล่าวก่อให้เกิดข้อขัดแย้งและสงครามภายในระหว่างฝ่ายเหนือ (ต้องการให้ยกเลิกระบบทาส) และฝ่ายใต้ (สนับสนุนระบบทาส) 

และแม้ว่าผลของสงครามจะก่อให้เกิดการนองเลือดและยืดเยื้อต่อมาอีกหลายปี แต่ผลที่ได้ก็นับว่าคุ้มค่าเพราะคุณภาพชีวิตของพลเมืองได้รับการปลดปล่อย

ซึ่งต่อมาจนถึงปัจจุบันสหรัฐฯ ก็กลายมาเป็นหนึ่งในประเทศที่ได้รับการยอมรับว่ามีเสรีภาพมากที่สุดแห่ง หนึ่งของโลก และประธานาธิบดีคนสำคัญคนนี้ก็กลายเป็นหนึ่งในประธานาธิบดีที่ชาวสหรัฐฯ Willie lincoln รักมากที่สุดคนหนึ่งอีกด้วยค่ะ

เอาล่ะค่ะ รู้อัตชีวประวัติบุคคลสำคัญของโลกกันแบบพอหอมปากหอมคอแล้ว มาเข้าเรื่ิองของหนังประจำสัปดาห์ของเราดีกว่าค่ะ “Abraham Lincoln Vampire Hunter” (2012) หรือชื่อไทยว่า “ประธานาธิบดีลินคอล์น นักล่าแวมไพร์” เป็นภาพยนตร์แนวสยองขวัญแฟนตาซี

โดยผู้กำกับ Timur Bekmambetov และโปรดิวเซอร์คนดังอย่าง Tim Burton เนื้อเรื่องก็มาจากหนังสือขายดีชื่อเดียวกันโดยนักเขียนอย่าง Seth Grahame-Smith ซึ่งเขาก็เป็นผู้ดัดแปลงบทภาพยนตร์ให้กับเรื่องนี้ด้วย

เอาง่ายๆ ความแฟนตาซีของภาพยนตร์เรื่องนี้ก็คือการนำเรื่องราวจริงๆ ที่เกิดขึ้นมาผสมผสานกับจินตนาการ ซึ่งในเรื่องนี้ก็คือเรื่องราวของประธานาธิบดีลินคอล์นกับเรื่องราวของ แวมไพร์ และก็เพราะโครงเรื่องแฟนตาซีแบบนี้แหละค่ะที่ดึงดูดให้ผู้กำกับคนดังอย่าง Tim Burton เลือกที่จะลงมาโปรดิวหนังเรื่องนี้ด้วย ก็แหม…แนวถนัด  ดูหนังใหม่ชนโรง 

ถึงจุดนี้ เชื่อว่าหลายๆ คนน่าจะพอเดาเรื่องกันได้ ยิ่งถ้าเคยอ่านชีวประวัติของประธานาธิบดีคนดังมาก่อนก็น่าจะเดากันได้ไม่ยาก และจุดนี้ก็เป็นเสน่ห์ของเรื่องค่ะ เพราะเรื่องราวจริงๆ ของประธานาธิบดีลินคอล์นก็ถูกนำมาถ่ายทอดให้เราคนดูรู้จักเขากันมากขึ้น

แต่ขณะเดียวกันก็สอดแทรกเรื่องราวการแทรกแซงของเหล่าแวมไพร์ว่าเข้ามากัดกร่อนหัวใจที่รักความเสมอภาคกันของเขาตั้งแต่เมื่อไหร่ มากน้อยแค่ไหน?

ด้วยความที่ถูกแบ่งฝ่ายทำสงครามก็แอบตีเนียนใส่เรื่องแวมไพร์เข้าไปผสมจนออกมาสมเหตุสมผล เนื่องจากเหล่าแวมไพร์อยู่ใต้และต้องการยึดครองทั้งประเทศด้วยแนวคิดเรื่องทาสเช่นเดิม และแน่นอนว่าอัมบราฮัม ลินคอล์นอยู่ฝ่ายเหนือ ผู้ต้องการเลิกทาสและมอบอิสระที่แท้จริงแก่ทุกคน 

ฉะนั้นการทำสงครามจะไม่ใช่เรื่องของคนธรรมดาอีกต่อไป จะมีแวมไพร์ร่วมทำสงครามเพื่อต่อต้านฝ่ายเหนือด้วยอุดมการณ์ที่แตกต่าง ซึ่งผลลัพธ์เป็นยังไงย่อมรู้ดีว่าฝ่ายที่เหนือกว่าย่อมเป็นแวมไพร์ การทำสงครามที่สู้ไม่ได้นี่ทำให้อัมบราฮัม ลินคอล์นวางแผนจัดการจุดแข็งนี้ในองค์สาม

เว็บดูหนัง สำหรับช่วงสุดท้ายจะเป็นการวางแผนจัดการแวมไพร์ก่อนที่จะชนะสงคราม ซึ่งเรื่องราวจะกลับมาเน้นแอ็คชั่นอีกครั้งโดยที่อัมบราฮัม ลินคอล์นจะกลับมาสู้กับแวมไพร์ด้วยตัวเองหลังจากที่ไม่ได้จับอาวุธมานานเพราะสนใจอยู่กับการเมือง แน่นอนว่าทำออกมาบันเทิงและมันส์กันสุดๆ 

ซึ่งไม่แปลกถ้าผู้กำกับจะเคยทำ Wanted (2008) ที่บู๊มันส์ยิงแหลกหลาญมาก่อน ฉะนั้นงานแอ็คชั่นทั้งลีลาทั้งจังหวะล้วนออกมาดีและสนุก มีข้อเสียเรื่องรายละเอียดที่มีหลายอย่างไม่ประติดประต่อ

เล่าเรื่องเร็วจนดูไม่มีมิติในช่วงแรกก่อนจะมาแก้ไขในครึ่งหลังที่จริงจังและเข้มข้นขึ้น ทว่ารวมๆแล้วไม่ถึงกับแปลกใหม่นอกจากเอาบุคคลในประวัติศาสตร์มายำอย่างเป็นเรื่องเป็นราว

หนังแนวนี้มักจะเป็นเรื่องราวเกี่ยวกับเรื่องราวเหนือธรรมชาติ ทั้งยอดมนุษย์ทั้งหลาย สัตว์ประหลาด ทั้งจากในตำนานและนอกโลก รวมทั้งตัวละครต่างๆ ที่ถูกสร้างขึ้นมาจากจินตนาการ

โดยที่เนื้อเรื่องก็มักจะเป็นเรื่องของภารกิจหรือพันธกิจแบบเหลือเชื่อ (นอกโลกไปเลยบางที) หรือศัพท์ในวงการเขาเรียกว่าแนวหลีกหนี หนีออกจากโลกของความเป็นจริง 

โดยที่แนวนี้อาจจะไปมิกซ์กับแนวอื่นๆ เป็น แอ็กชั่นแฟนตาซี โรแมนติกแฟนตาซี ดราม่าแฟนตาซี หรือว่าสยองขวัญแฟนตาซีแบบเรื่องนี้ก็ได้

ส่วนตัวอย่างเรื่องแนวแฟนตาซีที่มีชื่อเสียงก็เช่น The Wizard of Oz (1939), King Kong (1933), ทุกๆ ภาคของ The Lord of the Rings, Twilight, และ Harry Potter แต่ละเรื่อง ดังๆ และฟอร์มยักษ์ทั้งนั้น ที่สำคัญมีการใช้เทคโนโลยีใหม่ๆ ทั้ง CG 3D 4D สารพัดเทคนิคสร้างภาพ ที่สำคัญหนังแนวนี้ดูในโรงแล้วตื่นตาตื่นใจที่สุด ทั้งเสียงและภาพ สวย คมชัด สมจริง จริงไหมคะ?

เอาเป็นว่าถ้าใครชอบ หนังแนวแฟนตาซี แล้วก็ชอบหนังแวมไพร์ เรื่องนี้ก็เป็นตัวเลือกที่น่าสนใจค่ะ ได้รู้จักบุุคคลสำคัญของโลกแถมยังได้หลุดไปในโลกของจินตนาการด้วย

แต่ถ้าใครคาดหวังจะเจอแวมไพร์นักรักหล่อเว่อร์ (ขาวเว่อร์ด้วย) จากเรื่องนี้ล่ะก็ คงต้องเก้อกันล่ะค่ะ เพราะเรื่องนี้เขามา “ล่า” ไม่ได้มา “หลง” แวมไพร์! Abraham Lincoln Vampire Hunter 2