รีวิวหนัง The Little Mermaid เงือกน้อยผจญภัย ภาพยนตร์ไลฟ์แอ็กชั่น 2023

The Little Mermaid เป็นภาพยนตร์ไลฟ์แอ็กชั่นที่ดัดแปลงจากการ์ตูนดิสนีย์ที่ดีที่สุด ซึ่งเรื่องนี้เป็น หนังใหม่แนะนำ ที่ผู้เขียนจะมารีวิวให้กับผู้อ่านทุกท่าน ตำนานเงือกน้อยที่เป็นการท้าทายมาก ๆ ในงานสร้างในรูปแบบคนแสดง เพราะต้องใช้เทคนิคพิเศษต่าง ๆ มากมายในการสร้างโลกใต้ผืนน้ำ ช่องทางการรับชม  ดูหนังออนไลน์ 

The Little Mermaid เงือกน้อยผจญภัย

The Little Mermaid

The Little Mermaid เรื่องย่อ

The Little Mermaid เรื่องย่อ เป็นเรื่องราวของ แอเรียล ธิดาของราชาไทรตันแห่งโลกใต้สมุทร ชีวิตของเธอต้องอยู่ใต้คำบัญชาจากพ่อ แม้ว่าเธอฝันใฝ่อยากจะเป็นมนุษย์เดินดินและตกหลุมรักเจ้าชายอีริค

กระทั่งยอมแลกเสียงของเธอเพื่อรับมนตร์ให้กลายร่างเป็นมนุษย์ 3 วัน และทำภารกิจเพื่อให้เจ้าชายจุมพิตรักแท้กับเธอให้ได้ แต่มันก็แลกมาด้วยความเจ็บปวดที่สะเทือนใจยิ่งกว่าจะการหลั่งน้ำตา

โดยในหนังฉบับนี้ก็ได้ผู้กำกับดีกรีรางวัลออสการ์และตัวพ่อหนังมิวสิคัล อย่าง “ร็อบ มาร์แชล” มานั่งเก้าอี้ดูแลงานสร้าง ที่ถือว่าเก็บรายละเอียดต่าง ๆ

เกี่ยวกับความเป็นแฟนตาซีและมิวสิคัลได้อย่างน่าพอใจ แม้ว่ายังมีอีกหลายองค์ประกอบที่หนังเรื่องนี้ยังทำได้ขาด ๆ เกิน ๆ

และมอบรสชาติออกมาที่ยังไม่กลมกล่อมเท่าที่ควรนัก แต่มันก็ไม่ใช่หนังที่ย่ำแย่อะไรเลยเช่นกัน

The Little Mermaid

ตามที่เกริ่นไปข้างต้นนั้นว่าภาพยนต์เรื่องนี้นั้นที่กลายมาเป็นฉบับไลฟ์แอคชั่นนั้น ความท้าทายอยู่ที่งานโปรดักชั่นโดยแท้

เพราะการออกแบบโลกใต้ท้องสมุทรที่ถือว่าเป็นฉากไฮไลต์หลัก ๆ แทบจะมากกว่า 60% ของเรื่องนี้เป็นงานที่ยากไม่น้อย

ไมjว่าจะเป็นรายละเอียดการเคลือนไหวของตัวละคร ไปจนถึงการเข้าฉากใต้น้ำกับตัวละครแอนิเมชั่น ทุก ๆ ซีนมีความยากในระดับที่แตกต่างกันออกไป

แต่หนังก็ถือว่าพยายามเก็บรายละเอียดต่าง ๆ เอาไว้ได้ดีที่สุด ถึงมันจะยังไม่ได้สมบูรณ์แบบและคมกริบอะไรขนาดนั้น

ต้องยอมรับว่าโลกใต้สมุทรในตัวภาพยนต์เวอร์ชั่นนี้ ปนเปไปด้วยความสมจริงและความประหลาดควบคู่กันไปอย่างน่าพิศวง

หลาย ๆ ฉากสร้างความตื่นตาตื่นใจได้ดี แต่ก็ยังมีอีกหลาย ๆ ฉากที่รู้สึกว่าซ้ำซากจำเจ และเข้าสู่สูตรสำเร็จเดิม ๆ

ที่เราเคยเห็นองค์ประกอบอะไรแบบนี้ในหนังดิสนีย์เรื่องก่อน ๆ มาแล้ว อีกทั้งรายละเอียดที่ใส่เข้ามาประกอบตัวละครต่าง ๆ ก็ยังดูไม่ค่อยสมจริงที่สุด

เป็นการใส่ซีจีที่เหมือนทำให้รู้ว่าเป็นซีจี ยังไม่ถึงจุดที่ทำให้ขัดใจแต่ก็แบบตะหงิดใจได้อยู่เล็กน้อย

และผู้เขียนก็มีอีกหนึ่งเรื่องที่อยากจะมาแนะนำผู้อ่านทุกท่าน เป็นหนังใหม่ที่พึ่งจะเข้าฉายในโรงภาพยนต์พร้อมๆกัน เป็นหนังแนวแอ็คชั่นมันส์สะใจ Fast & Furious X เร็วแรงทะลุนรก 10  มาติดตามรับอ่านรับชมได้เลยค่ะ ที่นี่ที่เดียว ห้ามพลาด !!!!

สนุกสนานและสะเทือนอารมณ์

ตัวหนังไม่ได้ต่างจากฉบับแอนิเมชันนักมันยังคงวนเวียนกับเรื่องราวของความรักของ แอเรียล (รับบทโดย เบลีย์) เงือกน้อยไร้เดียงสาทีมีต่อมนุษย์อย่าง เจ้าชายอีริก

(รับบทโดย โจนาห์ ฮาวเออร์-คิง, Jonah Hauer-King) จนเธอหลงไปแลกเสียงของเธอกับขาเพื่อตามหารักจาก เออร์ซูลา (รับบทโดย เมลิสซา แม็กคาร์ธี, Melissa McCarthy)

แม่มดหนวดปลาหมึกเพื่อวางหมากหวังจะจับแอเรียลเป็นทาสและคิดบัญชีแค้นกับ คิงไทรทัน (รับบทโดย ฮาเวียร์ บาเด็ม, Javier Bardem)

โดยจุมพิตรักแท้ภายใน 3 วันจากเจ้าชายอีริกคือทางเดียวที่แอเรียลจะเป็นมนุษย์และสมหวังในความรัก

ขอลัดไปพูดถึงการแคสต์เบลีย์เป็นเงือกน้อยตัวละครไอคอนนิคก่อนนะคะ คือถ้าให้พูดตรง ๆ ผมก็คิดว่าเธอมีคุณสมบัติเพียงพอแหละทั้งทักษะการแสดงและการร้องเพลงแบบมิวสิคัล

ซึ่งทำได้ดีไม่แพ้ต้นฉบับเลย แต่…หากจะถามว่าการปรากฎตัวของเธอว้าวแค่ไหน ก็ต้องบอกตามตรงว่าธรรมดาค่ะ

วัดง่าย ๆ จากรอบสื่อเลยเพราะทางดิสนีย์เชิญเซเลบที่เป็น LGBTQIA+ ไปเยอะมากแต่ฉากร้องเพลงใด ๆ คือกริบ ไม่มีปรบมือ ไม่มีกรี๊ดกร๊าด ถ้าให้พูดแบบถนอมน้ำใจก็คือเสมอตัวแหละ

The Little Mermaid

และอย่างที่บอกว่าฉบับไลฟ์แอ็กชันของผู้กำกับ ร็อบ มาร์แชล (Rob Marshall) ก็เหมือนเอาแอนิเมชันสุดคลาสสิกเป็นธรรมนูญหลักในการสร้างภาพ

ซึ่งมันก็คงฉากจำต่าง ๆ ไว้รวมถึงแทบจะลอกลายกันมาเป็นหนังเลยก็ว่าได้ โดยหักหลบเล่นท่าเปลี่ยนนั่นนู่นนี่บ้าง ซึ่งหนังมีการเติมตัวละครใหม่ ๆ

และตัดตัวละครและบางประเด็นออก โดยต่อเนื่องจากดรามาของเบลีย์ในฐานะนางเงือกคนดำ หนังก็ให้เหตุผลในฉากชุมนุมธิดาเงือกทั้ง 7

คาบสมุทรที่ในแอนิเมชันอาจมีเงือกที่ดูเป็นคนจีนเอเซียแต่ฉบับหนังคือมีทั้งคนดำแบบแอฟริกาและเงือกอเมริกาใต้อยู่ด้วยเพื่อทำให้เงือกฉบับเบลีย์ดูมีเหตุผลรองรับ

หนังถูกเล่าเป็นนิทานก่อนนอน

ดังนั้นหลังจากได้สร้างภาพนางเงือกที่ถูกบรรยายในหนังสือ ฮานส์ คริสเตียน แอนเดอร์เซ่น (Hans Christian Andersen) ว่า ‘มีรูปโฉมงดงามที่สุดในบรรดาพี่น้องสาวสวยทั้ง 7’

เป็นเงือกผิวขาวผมแดง (ที่ต้องผมแดงเพราะดิสนีย์เคยเจ๊งจากหนังนางเงือกอย่าง ‘Splash’ มาก่อนซึ่งนางเอกเป็นเงือกมีผมบลอนด์)

ดังนั้น การรับรู้ความงาม (Beauty Perception) ของผู้ชมในปี 1989 กับปี 2023 ย่อมต่างกันโดยเฉพาะการเปิดกว้างเรื่องความงามและมันก็อนุญาตให้ผู้สร้างเติมช่องว่างเรื่องสีผิวที่นิยายต้นฉบับก็ไม่ได้บรรยายไว้อีกด้วย

แต่นอกจากเรื่องนางเงือกผิวดำและหลากเชื้อชาติแล้ว ฉากที่คนดูคุ้นตาจากแอนิเมชันก็ยังอยู่แบบครบถ้วนแต่อาจขัดใจคอแอนิเมชันที่คิดว่าอะไร ๆ มันควรสว่างกระแทกตากว่านี้

อันนี้ต้องบอกว่าพอภาพมันต้องสมจริงโลกใต้ทะเลย่อมเป็นน้ำโทนสีนี้แหละค่ะ ตามหลักกายภาพและหนังก็มีการเรนเดอร์ภาพแบบไฮ ไดนามิก เรนจ์ (High Dynamic Range)

หรือ HDR นะคะ ซึ่งแนะนำให้หาโรงหนังที่ฉายในระบบเลเซอร์ (Laser Projection) นะคะ จะได้ภาพที่สีสันกระแทกตาแน่นอน แม้ในภาพรวมมันจะดูเหมือน ‘Aquaman’ ไปหน่อยก็เถอะ

นอกจากนี้ยังมีหลายจุดที่หนังพยายามเปิดประเด็นใหม่ ๆ ขึ้นมาโดยเฉพาะการใส่ควีนเซลีนา (รับบทโดย โนมา ดูเมซเวนี, Noma Dumezweni)

ราชินีผิวดำแม่ของเจ้าชายอีริกที่หลายครั้งก็อดเข้าใจผิดไม่ได้ว่านี่เรากำลังดู ‘Bridgerton’ อยู่หรือเปล่า แถมยังเป็นการใส่มาแบบไม่ได้มีเหตุผลอะไรรองรับเสียด้วยนอกจากมากดดันลูกให้แต่งงาน

หรือฉากดูแผนที่ระหว่างเจ้าชายอีริกกับแอเรียลที่เหมือนจะมีประเด็นอะไรสำคัญหรือการเปิดประเด็นเรื่องเออร์ซูลาเป็นต้นเหตุความบาดหมางระหว่างมนุษย์กับเงือก

ซึ่งเป็นการเปิดประเด็นที่ไม่มีการสานต่อจนผู้ชมไม่เข้าใจว่าจะเพิ่มมาทำไม และนั่นก็นำพาให้เกิดคำถามว่านอกจากการที่ดิสนีย์พยายามไถ่โทษเรื่องการสร้างภาพจำของเจ้าหญิงผิวขาว คุณค่าที่แท้จริงของภาพยนต์ฉบับนี้อยู่ตรงไหนกันแน่

ใครพากย์เสียงภาษาไทยในภาพยนต์

เดอะ วอลท์ ดิสนีย์ ประเทศไทย ได้เปิดตัวผู้ให้เสียงพากย์ภาษาไทย Disney’s เงือกน้อยผจญภัย โดยได้ โบกี้ไลอ้อน พิชญ์สินี วีระสุทธิมาศ เงือกน้อยผจญภัย 2023 พากย์ไทย

มาให้เสียงเจ้าหญิงแอเรียล และ แกงส้ม ธนทัต ชัยอรรถ ให้เสียงเจ้าชายอีริค ร่วมด้วยสาวกดิสนีย์ตัวยงอย่าง อูน ชนิสรา วงศ์ดีประสิทธิ์ หรือ อูน Diamond Grains

และ รัชยาวีร์ วีระสุทธิมาศ หรือว่าน วันวาน ที่มาให้เสียงพี่สาวของเจ้าหญิงแอเรียล รวมไปถึงนักร้องเสียงดี เจี๊ยบ นนทิยา จิวบางป่า ร่วมให้เสียงเออร์ซูล่า วายร้ายขวัญใจแฟน ๆ

ข้อมูลเกี่ยวกับภาพยนต์

ประเภท: โรแมนติก / แฟนตาซี / มิวสิคัล

ผู้กำกับ: ร็อบ มาร์แชล

นำแสดงโดย: ฮัลลี เบลีย์, โจนาห์ ฮาวเออร์-คิง, เมลิสซา แม็กคาร์ธี

ความยาว: 153 นาที

กำหนดฉายในไทย: 25 พฤษภาคม 2023 (ในโรงภาพยนตร์)

The Little Mermaid เงือกน้อยผจญภัย บทสรุปหนัง

ส่วนตัวผู้เขียนเคยชมเวอร์ชั่นการ์ตูนมาแล้ว แต่นานมากจนไม่ได้จำรายละเอียดต่างๆ ได้อย่างแม่นยำมากขนาดนั้น แต่จำไฮไลต์ของเรื่อง และเนื้อเรื่องตั้งแต่ต้นจนจบได้ว่าเกิดอะไรขึ้น

พบว่าตัวเองสามารถดูภาพยนตร์เรื่องนี้ได้อย่างเพลิดเพลินกว่าที่คิด เมื่อวางอคติเรื่องหน้าตาของแอเรียล โดยมองว่าแอเรียล (แสดงโดย ฮัลลี เบลีย์)

เป็นแค่เงือกน้อยธรรมดาๆ คนหนึ่ง ที่สงสัยใคร่รู้เกี่ยวกับโลกมนุษย์ ตกหลุมรักมนุษย์หนุ่มคนแรกที่เจอ ผู้ซึ่งมีอุดมการณ์คล้ายกันกับเธอ

จนยอมสละเสียงของตัวเองเพื่อให้ได้ขาเดินเยี่ยงมนุษย์ แต่ด้วยความไร้เดียงสาและไม่คิดไตร่ตรองให้ถ้วนถี่ดีพอ

ทำให้รู้ว่าการสละเสียงเพื่อขาไม่ได้ทำให้เรื่องง่ายอย่างที่ใจเธอคิด ทุกอย่างนี้ในภาพยนตร์ถ่ายทอดออกมาได้เข้าใจง่ายและกระชับฉับไวไม่น่าเบื่อ

แต่สิ่งที่ไม่พูดถึงไม่ได้คือเหล่าสารสัตว์ผู้พยายามช่วยให้ภารกิจจุมพิตกับเจ้าชายประสบความสำเร็จ

ฉากที่คอยช่วยเหลือทั้งสองคนอยู่เบื้องหลังเป็นหนึ่งในช่วงของภาพยนตร์ที่สนุกที่สุดในความเห็นของผู้เขียน

สนุกจนคิดว่าถ้าไม่มีตัวละครเหล่าเพื่อนของแอเรียลเหล่านี้ ภาพยนตร์เรื่องนี้คงไม่สนุกเท่านี้ (น่าจะตรงกับเวอร์ชั่นการ์ตูนด้วย)

รวมไปถึงตัวละครออกโรงใหญ่โตอย่างแม่มดทะเลเออร์ซูลา สูตรสำเร็จตัวร้ายที่เล่นได้น่าหมั่นไส้ดีทีเดียว

ด้านงานภาพก็สวยงามตกแตกถึงขั้นว่าคนที่เรียนหรือทำงานด้านกราฟิกหรือด้านภาพยนตร์คงต้องคาระวะ ภาพใต้น้ำช่วงร้องเพลง “Under the Sea”

สีสดสวยงามและเป็นไฮไลต์ของภาพยนตร์เช่นกัน รวมถึงฉากอื่นๆ ที่มีกราฟิกเข้ามาช่วย การเคลื่อนไหวของผมใต้น้ำ ทำได้ดีเป็นธรรมชาติดูแล้วไม่ขัดตา

The Little Mermaid ความรู้สึกหลังรับชม

อย่างไรก็ตาม ในส่วนของกราฟิกที่ผู้เขียนว่าสวย บางคนอาจไม่ชอบกราฟิกลักษณะนี้ ซึ่งอาจเป็นไปได้เช่นกัน มันกึ่งๆ ว่าจะทำให้ดูเรียลเหมือนของจริง

หรือจะยังคงเป็นการ์ตูนอยู่ ครึ่งๆ กลางๆ รวมถึงเนื้อเรื่องคำพูดการกระทำของตัวละครที่เมื่อมาดูในยุคนี้ก็อาจจะมองว่าล้าสมัยไปบ้าง

ฉากที่ควรซึ้งกลับทำให้ผู้เขียนและผู้ชมบางส่วนในโรงภาพยนตร์รอบสื่อมวลชนขำออกมามากกว่า สิ่งเหล่านี้อาจเกิดขึ้นได้ไม่ว่าคุณจะเป็นหรือไม่ได้เป็นแฟน Disney

ถึงกระนั้น ยังเห็นสปิริตของนักแสดงที่แสดงได้ดีไม่มีขาดตกบกพร่อง เสียงร้องเพลงของแอเรียลและตัวละครอื่นๆ ทั้งเจ้าชาย (แสดงโดย โจนาห์ ฮาวเออร์-คิง)

ปูเซบาสเตียน นกสกิตเติ้ล แม่มดเออร์ซูลา (แสดงโดย เมลิสซา แม็กคาร์ธี) ทุกตัวละครร้องเพลงได้ดีมากจนไม่มีที่ติ ถ่ายทอดความฟีลกู้ดของภาพยนตร์ออกมาได้ดี

ไม่เศร้าจนร้องไห้เหมือนตอนที่ดูการ์ตูนเงือกน้อยผจณภัยตอนเด็กๆ ถือว่าเป็นภาพยนตร์ที่ไม่เน้นดราม่าดูแล้วอารมณ์ดีเพลิดเพลินกับเสียงร้องเพลงของนักแสดงแต่ละคนได้ดีพอตัว

เอาเป็นว่าโดยภาพรวมแล้ว เงือกน้อยผจญภัย ฉบับคนแสดงของดิสนีย์ในปี 2023 อาจจะยังมีผลลัพธ์ไม่ได้ตามที่คาดหวังสักเท่าไหร่ แต่หนังก็ไม่ได้เลวร้ายแต่อย่างใด

หลายองค์ประกอบยังไมได้สมบูรณ์แบบ แต่ก็ยังมีอีกหลายองค์ประกอบที่น่าพอใจและสร้างความบันเทิงอิ่มเอมใจให้คนแฟน ๆ ได้ดี

แม้ว่าการเคารพต้นฉบับจะทำให้โครงเรื่องค่อนข้างล้าสมัยไปหน่อย นั่นเป็นจุดที่ทำให้เงือกน้อยผู้นี้..อาจจะยังแหวกว่ายเข้ามากลางใจคนดูยังไม่ได้ลึกมากนัก

หากใครอ่านมาถึงบรรทัดนี้แล้วยังไม่เชื่อว่าภาพยนต์เรื่องนี้จะดีงามตามที่เล่า สามารถพิสูจน์ได้ด้วยตาของคุณเองตั้งแต่ 25 พ.ค. เป็นต้นไปที่โรงภาพยนตร์ทั่วประเทศ

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *