รีวิวหนัง Catch Me If You Can (จับให้ได้ถ้านายแน่จริง)

รีวิวหนัง Catch Me If You Can (จับให้ได้ถ้านายแน่จริง)

สวัสดีค่ะและในวันนี้เราจะมา รีวิวหนัง Catch Me If You Can (จับให้ได้ถ้านายแน่จริง) เป็นภาพยนตร์ที่ผลิตขึ้นโดยได้รับแรงผลักดันมาจากความจริง เข้าฉายในปี 2002 หรือก็ประมาณ 18 ปีที่ผ่านมา เป็นเก่ามากมายแต่เป็นหนังที่ดี มองเพลิดเพลิน ดูหนังชนโรง 

หนังเก่ายอดนิยม ที่บางคนอาจจะไม่ทราบจะแต่ว่ายืนยันได้เลยว่าประสิทธิภาพไม่เก่าแน่ๆ ถ้าหากคนไหนที่อยากรู้ว่าหนังเรื่องนี้ จะจบลงแบบไหน ? บทสรุปสุดท้ายจะลงเอยอย่างไร ? มาติดตามรับชมการแนะนำรีวิวไปพร้อม ๆ กันในบทความนี้ได้เลยค่ะ catch me if you can รีวิว

รีวิวหนัง Catch Me If You Can (จับให้ได้ถ้านายแน่จริง)

รีวิวหนัง Catch Me If You Can (จับให้ได้ถ้านายแน่จริง) ผลงานผู้กำกับ สตีเวน สปีลเบิร์ก

ผู้กำกับเจ้าของรางวัลออสการ์ 3 ครั้ง ที่สร้างหนังดัง ๆ ระดับตำนานมาแล้วหลายเรื่อง ไม่ว่าจะเป็น หนังสงคราม อย่าง Saving Private Ryan หรือ หนังแฟนตาซี ไซไฟ เรื่องดังอย่าง E.T. the Extra-Terrestrial นอกจากนี้สปีลเบิร์ก ยังได้ชื่อว่าเป็นผู้กำกับ 22 Jump Street 

รีวิวหนัง Catch Me If You Can (จับให้ได้ถ้านายแน่จริง)

ที่สามารถที่สร้างหนัง ที่หนังรายได้มากที่สุดในโลกอีกด้วย ด้วยตัวเลขสูงถึง 10,504 ล้านดอลลาร์สหรัฐ จากการนับรวม เอารายได้ทั้งหมด จากภาพยนตร์ที่ตัวเขากำกับ ด้านบทของภาพยนตร์นั้น นับได่ว่าเป็น หนังดัดแปลงจากหนังสือ ที่ใช้ชื่อเดียวกับภาพยนตร์

ซึ่งเขียนโดยตัวของ แฟรงก์ อบาเนล ซึ่งเป็นตัวละครหลักในเรื่องเอง ซึ่งก็ได้นักแสดงนำ ชื่อดังแห่งวงการ มาร่วมแสดงมากมาย ไม่ว่าจะเป็น ลีโอนาร์โด ดิคาปริโอ นักแสดงนำจาก หนังโรแมนติก ระดับตำนานเรื่อง Titanic catch me if you can เรื่องย่อ

เรื่องย่อ

แฟรงค์ ดับเบิ้ลยู อบาเนล (แสดงนำ โดย ลีโอนาโด) เป็นผู้ร้ายที่มีอายุเพียงแต่ 16 ปีแค่นั้น มองเห็นอายุน้อยแบบงี้แต่ว่าแฟรงค์ไม่ใช่แค่เด็กเกเรก่อปัญหาจนถึงโดนจับไปวันๆ ในขณะที่เป็นเด็กกลับมีชื่อในกลุ่มผู้ร้ายที่ FBI รวมทั้งตำรวจสากลอีกหลายประเทศอยากตัวมากมายคนหนึ่งอย่างยิ่งจริงๆ 

เรื่องราวอาชญากรของแฟรงค์เริ่มต้นจากการที่เขาเข้าห้องผิดและทำเนียนหลอกเด็กคนอื่น ๆ ในห้องนั้นว่าเป็นอาจารย์ที่มาสอนแทนอาจารย์ที่ลาป่วยเป็นเวลาเกือบสัปดาห์จนทุกคนเชื่อกันหมด จะว่าเขาค้นพบพรสวรรค์ของตัวเองเลยก็ว่าได้  catch me if you can pantip

รีวิวหนัง Catch Me If You Can (จับให้ได้ถ้านายแน่จริง)

แน่นอนว่าเส้นทางชีวิตของคนที่จะเป็นอาชญากรในอนาคตย่อมต้องไม่โรยด้วยกลีบกุหลาบ พ่อกับแม่ของเขามีปัญหาและหย่ากัน แฟรงค์ต้องเลือกว่าจะอยู่กับใครและเมื่อตัดสินใจไม่ได้เขาจึงเลือกที่จะหนีออกจากบ้านแทน และนั่นถือเป็นจุดที่เปลี่ยนชีวิตธรรมดา ๆ ของเด็กชายวัย 16 ปีไปตลอดกาล

หลังจากหนีออกจากบ้านแฟรงค์ต้องการที่จะเดินทางไปยังที่ไหนสักแห่งแต่แค่เงินซื้อตั๋วรถไฟเขายังไม่มีเลย สิ่งที่เขาคิดออกคือการปลอมเช็คเพื่อนำไปขึ้นเงิน ครั้งแรกไม่ได้ ครั้งที่สองถูกปฏิเสธ  แต่ความพยายามอยู่ที่ไหนความสำเร็จอยู่ที่นั่น ใช่แล้ว! ในที่สุดเขาก็ปลอมเช็คไปขึ้นเงินได้สำเร็จ

ซึ่งแน่นอนว่ามันไม่ใช่แค่ครั้งเดียว หลังจากที่รู้วิธีเขาก็หาเงินจากการปลอมแปลงเช็คอีกหลายต่อหลายครั้ง ปลอมจนได้เป็นนักบิน เป็นหมอ เป็นทนายความ คิดดูว่าคนเราจะสามารถโกหกและหลอกคนอื่นจนเป็นเรื่องเป็นราวได้อะไรขนาดนั้น

การดำเนินเรื่อง

ด้วยการกวาดรายได้ทั่วโลก สูงมากถึง 352,114,312 ดอลลาร์ จากทุนสร้างเพียง 52,000,000 ดอลลาร์ จึงทำให้ภาพยนตร์เรื่องนี้ เป็นภาพยนตร์ที่ถือได้ว่า ประสบความสำเร็จในด้านของรายได้ เป็นอย่างสูง

ซึ่งภาพยนสตร์เรื่องนี้เอง ก็ได้รับเรท PG13 ในการเข้าฉาย โดยอาจจะมีเนื้อหา เกี่ยวกับเรื่องเพศ และภาษาบ้างเล็กน้อย แต่ก็ถือได้ว่าเป็นภาพยนตร์ ที่เหมาะสำหรับผู้ชมทุกคน เพราะตัวหนังเอง ก็ได้ให้ข้อคิด และมุมมองต่าง ๆ ที่ดีอยู่เช่นกัน The Uninvited

นับได้ว่าเป็นภาพยนตร์อีกหนึ่งเรื่องที่ airheads.net บอกได้เลยว่า ไม่ควรที่จะพลาดอย่างเด็ดขาด เพราะสามารถพูดได้ว่า ภาพยนตร์เรื่องนี้นั้น เป็นหนึ่งในหนังชีวประวัติ ที่ดีที่สุด ที่เคยมีมาเลยทีเดียว catch me if you can netflix

รีวิวหนัง Catch Me If You Can (จับให้ได้ถ้านายแน่จริง)

ไม่เพียงแต่เฉพาะเรื่องของบท และเนื้อหาในภาพยนตร์ ที่น่าสนใจ มีครบทั้งเรื่องตลก และดราม่า แต่ยังรวมไปถึงนักแสดง ที่สามารถแสดงได้ถึงบทบาท โดยเฉพาะตัวดิคาปริโอ ที่สามารถแสดงบทบาทของแฟรงค์ อบาเนล ได้อย่างยอดเยี่ยม มีเสน่ห์ และมีความโดดเด่น Mad max Fury road

นอกจากนี้การดีไซน์ฉาก คอสตูมต่าง ๆ และงานโปรดักชั่น ให้เห็นถึงภาพในช่วงยุค 60 นั้น ยังสามารถทำออกมา ได้เป็นอย่างดีอีกด้วย โดยถึงแม้เนื้อหาในภาพยนตร์ จะเป็นเรื่องเกี่ยวกับความคลุมเครือ ทางด้านศีลธรรม

แต่กลับสามารถนำมาดัดแปลง จนกลายเป็นจุดที่น่าสนใจ ได้ตลอดทั้งเรื่อง นอกจากนี้อีกสิ่งหนึ่ง ที่น่าสนใจเป็นอย่างมากในหนัง ที่ตัวหนังต้องการจะสื่อออกมา ก็คือด้านทัศนคติ และวิธีการคิดต่าง ๆ ของตัวละครหลัก อย่างแฟรงค์

ที่สามารถทำให้เรานำมาปรับ และใช้พัฒนาตัวเองได้ จึงทำให้โดยรวมแล้ว นี่เป็นภาพยนตร์ที่มีความสนุก และทำออกมาได้อย่างดี ซึ่งอาจจะไม่ได้เป็นผลงานชิ้นเอก เท่าภาพยนตร์เรื่องอื่น ของสปีลเบิร์ก แต่ก็ยังนับได้ว่าเป็นอีกภาพยนตร์ที่ยอดเยี่ยม

หนังเรื่องนี้เหมาะกับใคร

สำหรับ Catch Me if You Can นั้น จะเหมาะกับคอหนังที่ชอบหนังสายต้มตุ๋น หลอกลวง ชิงไหวชิงพริบ พลิกผันไปมาอยู่มาก ด้วยเรื่องราวที่สร้างมาจากเรื่องจริงอยู่แล้ว ก็ยิ่งเพิ่มความน่าดึงดูดใจให้กับตัวหนังเข้าไปใหญ่ และเมื่อมาอยู่ในมือของผู้กำกับที่มีพรสวรรค์ในการเล่าเรื่อง catch me if you can ซับไทย

ดูหนังชนโรง

อย่าง Steven Spielberg ก็เป็นเครื่องการันตีชั้นดี ว่าหนังน่าจะออกมาสนุกได้อยู่แล้ว ด้วยเวลากว่า 2 ชั่วโมงครึ่งของหนังก็เลยเปลี่ยนเป็นความรื่นเริงใจที่ผ่านไปอย่างเร็ว แล้วก็มองบันเทิงใจได้ตลอดทั้งเรื่องเลยจริงๆคนไหนกันที่ถูกใจแนวๆต้มๆตุ๋นๆอย่างงี้ อย่าง The Wolf of Wall Street, Focus อะไรอย่างงี้แล้ว ประทับใจกันแน่นอน 

รีวิวหนัง Catch Me If You Can (จับให้ได้ถ้านายแน่จริง) บทสรุป

สำหรับเรื่องราวจะกล่าวถึงอาชญากรระดับโลกที่สร้างความเสียให้ให้กับสถาบันการเงินและอีกหลายธุรกิจ โดยเขาจะใช้วิธีการปลอมแปลงเช็ค และนำไปขึ้นเงินในธนาคารสาขาต่างๆ ในหลายประเทศ

ซึ่งมูลค่าความเสียหายในตอนนั้นอยู่ที่ประมาณ 4 ล้านเหรียญสหรัฐฯ และเขายังเป็นที่ต้องการตัวในหลายประเทศ เช่น สหรัฐอเมริกา, ฝรั่งเศส, สวีเดน, อิตาลี, เยอรมัน, อังกฤษ, สวิตเซอร์แลนด์, กรีซ, เดนมาร์ก, นอร์เวย์, ตุรกี, อียิปต์, เลบานอน และ ไซปรัส

ดูหนังชนโรง

นอกจากนี้ในระหว่างที่ยังเป็นอิสระ แฟรงค์ยังเข้าไปประกอบอาชีพระดับแนวหน้าอีกหลายอาชีพ ไม่ว่าจะเป็น นักบิน, หมอ, ทนายความ อัยการ และ อาจารย์ มีบางอาชีพที่เขาสามารถสอบเขาได้ด้วยตัวเอง

ซึ่งเอาเข้าจริงๆ พื้นฐานเขาเป็นคนเก่งและมีไหวพริบดีอยู่แล้ว เพียงแค่ว่านำมาใช้ในทางที่ผิดเท่านั้นเอง เป็นหนังดีอีกเรื่องที่น่าดู ถึงแม้จะเก่าไปหน่อย แต่ก็ยังครบทุกอรรถรส ที่สำคัญหยิบมาปัดฝุ่นดูตอนนี้ก็ยังชวนให้ติดตามเช่นเดิม

ความรู้สึกหลังรับชม

แม้ว่าเรื่องราวของหนังจะดูหวือหวาเสมือนมาจากนิยาย แต่จริงๆ แล้ว Catch Me If You Can ก็สร้างมาจากหนังสือชีวประวัติของบุคคลดังอย่าง แฟรงก์ อบาเนล นักต้มตุ๋นระดับตำนานที่กลายมาเป็นเศรษฐีได้ในวัยแค่เพียง 21 ปีเท่านั้น จนไม่แปลกใจนัก ว่าด้วยเรื่องราวที่น่าสนใจเช่นนี้ จะทำให้หนังสือขายดีจนติด Best Seller ของหลายสำนักมากว่า 10 ปี  

จนกระทั่งมาเข้ามือของผู้กำกับพ่อมดแห่งวงการฮอลลีวู้ด อย่าง Steven Spielberg ที่ถ่ายทอดมันออกมาได้อย่างมีสีสัน สนุก ชวนติดตามจนเป็นหนังในดวงใจของใครหลายๆ คนได้อีกเรื่อง เพราะเขาได้ทำเรื่องราวที่ไม่ธรรมดา ได้ออกมามีมนต์เสน่ห์ได้มากจริงๆ

ดูหนังชนโรง

การเลือกเอานักแสดงอย่าง Leonardo DiCaprio มารับบทของ อบาเนล ก็เป็นอะไรที่เหมาะสมมาก  ด้วยคำบรรยายถึงตัวตนจริงๆ ว่าเป็นคนที่หล่อเหลา มีปฏิภาณไหวพริบที่ดี ฉลาดเป็นกรด และช่างสังเกต ก็เรียกได้ว่ามีครบถ้วนทุกอย่างในนักแสดงคนนี้ 

รวมถึงการเอาดาราเกรด A อย่าง Tom Hanks มารับบท Carl Hanratty ก็ดูเพิ่มความอบอุ่นให้กับหนังอยู่ไม่น้อย ด้วยสไตล์ของเขาที่ดูไม่มีความโหดหรือรุนแรงแต่อย่างใด ทำให้ในมุมไล่ล่าของตำรวจในเรื่องนี้ ออกมาเป็นศึกชิงไหวชิงพริบที่น่ารักดีมากๆ

การดำเนินเรื่องของหนังเต็มไปด้วยความสร้างสรรค์ กับการได้เห็นตัวละครทำอะไรบ้าๆ ได้อย่างเต็มที่ อย่างการไปประกอบสายอาชีพต่างๆ ทั้งๆ ที่ไม่ได้มีความรู้ในส่วนนั้นจริงๆ รวมถึงความฉลาดเป็นกรดก็ทำให้แผนการต้มตุ๋น และการหลบหนี วัดกึ๋นกับตำรวจจึงเต็มไปด้วยชั้นเชิง และด้วยความที่เขาใช้ความกะล่อน catch me if you can จับให้ได้ ถ้านายแน่จริง

โดยที่ไม่ได้มีการฆ่าหรือทำร้ายร่างกายใคร หรือยุ่งเกี่ยวกับเรื่องที่ร้ายแรงไปกว่านี้ เลยทำให้คนดูพร้อมเชียร์และเอาใจช่วยตัวละครนี้อยู่มาก แม้ว่าเราจะรู้จุดหมายปลายทางของเขาแล้วก็ตาม ก็ไม่ได้ทำให้เรื่องราวในหนังสนุกน้อยลงแต่อย่างใด 

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *