รีวิว the gentlemen สุภาพบุรุษมาหากัญ
อย่างที่รู้กันดีครับว่าบ้านเรานั้นได้ปลดล็อคพืชมึนเมาอย่าง หนังอินดี้มาแรง กัญชา ไปแล้ว เชื่อว่าหลาย ๆ คน ที่เป็นสายนี้แค่เห็นชื่อเรื่องคงจะตาเบิกโตกันแน่นอน 555 โดยหากใครยังจำผู้กำกับ ส ปอย หนัง กาย ริตชี ได้ที่ได้สร้างหนังไว้มากมายจนเป็นที่รู้จัก ดูหนังออนไลน์ ดูหนังฟรี ครั้งนี้เขาหวนกลับมาสู่หนังแนวถนัดมือของเขาอีกครั้งครับ ดูหนังฟรี ดูหนังออนไลน์ และหลังจากที่เบนเข็มท้าทายอาชีพด้วยการไปกำกับ “Aladdin” ให้กับดิสนีย์ จนประสบความสำเร็จอย่างล้นหลามมาแล้ว ครั้งนี้ก็ยังกลับมาสู่ “หนังสายผู้ชาย” เป็นการรวมพลของเหล่านักแสดงชายชั้นแนวหน้าของวงการใน “The Gentlemen สุภาพบุรุษมาหากัญ” กับชั้นเชิงในการเล่าเรื่องอย่างมีสไตล์อีกเช่นเคย กลายเป็นความสนุกระดับมหากาฬอีกระลอก
ชื่อภาพยนตร์: the gentlemen สุภาพบุรุษมาหากัญ
ผู้กำกับภาพยนตร์: Guy Ritchie
ผู้เขียนบทภาพยนตร์: Guy Ritchie
นักแสดง: Matthew McConaughey, Charlie Hunnam, Michelle Dockery, Jeremy Strong, Colin Farrell, Henry Golding, Hugh Grant, Tom Wu
แนว/ประเภท: Action, Crime
รีวิว the gentlemen สุภาพบุรุษมาหากัญ
รีวิว the gentlemen สุภาพบุรุษมาหากัญ นี่คือหนังรวมก๊วนตัวป่วนที่ไม่ใช่คนดี The Gentlemen อันเป็นสูตรชายที่ชื่อ Guy Ritchie ค่อนข้างทำถนัด และ ทำได้ดี จากที่เคยเล่าเรื่องปล้นเพชร คราวนี้หันมาเล่าเรื่องกิจการปลูก และ ขายกัญชา อันเป็นกิจการใหญ่โตทำรายได้มหาศาล ในวันที่รอวันถูกกฎหมาย มิกกี้คนดีก็กลับอยากจะปล่อยวางขายกิจการ แต่ดูเหมือนกิจการที่ทำเงินก้อนโตเช่นนี้จะกลายเป็นชนวนของปัญหาอันยุ่งเหยิงไปเสียแล้ว
เมื่อแมทธิว (Jeremy Strong) เป็นนักธุรกิจผู้สนใจมาซื้อกิจการ แต่ไป ๆ มา ๆ ก็กลับเกิดเหตุที่ไม่คาดฝัน มีคนบุกถึงรังทั้งยังขโมยกัญชาไป ไม่พองานนี้ยังมีคนตามขุดคุ้ย งานนี้มีคนมาพัวพันกับกัญชาเยอะ…หาย ไม่ว่าจะเป็น เฟล็ทเชอร์ นักข่าวหัวเหี่ยว (Hugh Grant), ดรายอาย เจ้าพ่อรุ่นใหม่หน้าเอเชีย (Henry Golding), เรย์ ชายผู้อยู่เคียงข้างมิกกี้มาตลอด (Charlie Hunnam), โค้ชค่ายมวยที่ไม่น่าจะมาเอี่ยวแต่ก็เอี่ยวไปแล้ว
แม้จะมีเนื้อหาที่ค่อนข้างหนักอึ้ง และ เข้มข้น แต่ปรากฏว่าการเล่าเรื่อง และ นำเสนอของหนังได้ทำให้ถูกมองข้ามไปอย่างสิ้นเชิง กลายเป็นหนังเชือดเฉือนหักเหลี่ยมที่สนุกอีกเรื่อง และ น่าจะถูกใจคอหนัง…โดยเฉพาะคุณผู้ชายรักความสะใจ ถือเป็นอีกหนึ่งผลงานมีชั้นเชิงตามแบบฉบับ กาย ริตชี ที่ดูแล้วจะติดใจได้ไม่ยาก
ส่วนสำหรับนักแสดงในเรื่องนี้ที่ชื่นชอบสุด ก็คงจะเป็น Hugh Grant ที่ค่อนข้างพลิกจากหลาย ๆ เรื่องที่มักเล่นเป็นชายสุขุมอบอุ่นในหนังดราม่ารักโรแมนติก มาคราวนี้เล่นเป็นนักเขียนบทผสมนักแบล็กเมล์ พูดมาก และ ยียวนดีไม่เบาเลย แถมยังมีความเป็นเกย์จีบผู้ชายอีกต่างหาก
เรื่องย่อ
เรื่องราวอันซับซ้อนแต่ไม่ยากเกินจะเข้าใจของวงการมืดที่ซ่อนตัวอยู่บนเกาะอังกฤษ มิกกี้ เพียร์สัน เจ้าพ่อกัญชาผู้ทรงอิทธิพล กำลังจะตัดสินใจวางมือจากวงการ แต่การผละตัวไม่ใช่เรื่องง่าย ๆ เขาตกเป็นเป้าหมายที่นำพาไปสู่ชนวนความขัดแย้ง และ หักเหลี่ยมกัน ระหว่างแก๊งมาเฟีย, องค์กรยาเสพติด, สำนักข่าวยักษ์ใหญ่ และ เหล่าไฮโซชนชั้นสูง ที่ล้วนแต่เป็นเครือข่ายธุรกิจมืดของเขา
เรื่องนี้กลายเป็นหนังที่มีลายเซ็น และ เอกลักษณ์โดดเด่นของ กาย ริตชี ได้กลิ่นอายจากผลงานเก่า ๆ ของเขา ไม่ว่าจะเป็น “Snatch” หรือ “Lock, Stock…” ที่มีความดิบเถื่อนแบบกลุ่มแก๊งสไตล์ฮูลิแกนส์ที่เคยสร้างชื่อให้กับเขามาก่อน แต่ยังเสริมด้วยชั้นเชิงในการเล่าเรื่องที่มีช่วยกระตุ้นอรรถรสได้เป็นอย่างดี ร่วมด้วยทีมนักแสดงที่ช่วยเติมเต็มให้หนังทั้งเรื่องได้อย่างสมบูรณ์
ความรู้สึกหลังรับชม
เป็นหนังที่เห็นโทนสีของโปสเตอร์หนังครั้งแรก The Gentlemen Netflix แล้วนึกว่าหนังสปินออฟของ Kingsman ซะเฉย ๆ แต่หนังเรื่องนี้ไม่ได้ไปในแนวแอคชั่นเท่ ๆ แบบนั้นเลย เพราะนี่เป็นหนังแอคชั่น อาชญากรรมที่มีความตลกร้ายแบบร้ายกาจ ซึ่งหนังก็จัดเต็มฉากโหด ๆ ให้เราได้เห็นกันบ้าง ทั้งผ่านฉากแอคชั่น และ ฉากตลก แบบโหด ๆ
หนังมีความกวนตีนสูงมาก และ อาศัยความตกกระไดพลอยโจนสูงมากด้วย แต่แม้จะใช้ความบังเอิญเยอะ แต่ผมก็ไม่รู้สึกขัดใจนะ กลับกันผมมองว่ามันทำให้หนังบันเทิงมาก เพราะท่ามกลางความโหดร้ายของฉากอาชญากรรม มันก็มีความอลเวงอลวน ของตัวละครต่าง ๆ ที่แบบ…คิดได้ยังไง ว่าจะให้หนังมีฉากนี้ แล้วความบ้าบอ (ชมนะ) ของหนังเรื่องนี้ พาเราไปสุดมาก
บางอย่างที่เราคิดว่าเดาได้แล้ว แต่หนังก็พร้อมจะมีลูกล่อลูกชนให้เราลุ้นไปกับมันตลอดเวลา ความน่าสนใจอีกอย่างของหนังก็คือ วิธีการเล่าที่แทรกใส่ฉากเล็กฉากน้อยอันเป็นความกวนอย่างหนึ่งของผู้กำกับ ผู้เขียนบท โปรดิวเซอร์ ที่เป็นคนเดียวกัน
โดยรวมนี่เป็นหนังอีกเรื่องที่ชอบมาก ใครชอบหนังมาเฟียหักเหลี่ยมเฉือนคมกัน หรือหนังตลกร้าย เรื่องนี้คือแนะนำสุด ๆ เป็นหนังที่มีความจัดจ้าน และ ลงตัวมาก ๆ
รีวิว the gentlemen สุภาพบุรุษมาหากัญ
รีวิวthe gentlemen สุภาพบุรุษมาหากัญ ถึงแม้หนังจะชื่อ The Gentlemen อันสามารถแปลตรงตัวว่า the gentlemen พากย์ไทย เต็มเรื่อง “สุภาพบุรุษ” แต่บรรดาวีรกรรมของตัวละครแต่ละคนในเรื่อง ไม่ว่าจะหล่อ เท่ ราศีจับแค่ไหน เมื่อพวกเขาต้องเลือกทำในสิ่งที่พวกเขาต้องการแล้ว ดูเหมือนว่าทุกคนเลือกที่จะทำทุกวิถีทาง โดยไม่สนใจความผิดชอบชั่วดี หรือความเป็นสุภาพบุรุษที่ต้องให้เกียรติผู้อื่นสักเท่าไหร่
การติดสินบนเด็กวัยรุ่นอันธพาลข้างถนนของเรย์ การลอบตีซี้ภรรยามิกกี้อันเป็นทางผ่านเพื่อเข้ามาคุยธุรกิจของดรายอาย (เฮนรี่ โกลดิ้ง) โค้ชค่ายมวย (โคลิน ฟาเรล) ที่ต้องวางหัวโขนเพราะนักมวยในสังกัดตัวเองไปก่อวีรกรรมบุกฟาร์มกัญชาของมิกกี้กลายเป็นคลิปดังในโลกออนไลน์
หนังอาศัยวิธีการเล่าเรื่องราวผ่านบทสนทนาระหว่างเรย์ และ แฟลตเชอร์ (แต่ดูเหมือนว่าเหตุการณ์ทั้งหลายจะเกิดขึ้นจากจินตนาการของแฟลตเชอร์ซะมากกว่า) ซึ่งผู้ชมจะได้ไปทำความรู้จักจุดเริ่มต้นธุรกิจของมิกกี้ ตั้งแต่เริ่มเข้ามาในธุรกิจกัญชา การไต่เต้าสู่การเป็นผู้ครองตลาด วิธีการบริหารจัดการธุรกิจสีเทา การพึ่งพาอาศัยชนชั้นสูงในสังคมเพื่อการเติบโต และ เป็นหลักประกันในธุรกิจ
แต่เมื่อหนังนำเสนอจุดพลิกผันของเรื่องให้ผู้ชมเห็นตั้งแต่แรกว่า เกิดความวุ่นวายอะไรขึ้นเมื่อมิกกี้ตัดสินใจจะวางมือจากธุรกิจของตัวเอง ปมปริศนาดังกล่าวได้ทำให้ผู้ชมตั้งคำถามว่าเหตุการณ์อิรุงตุงนังทั้งหมดทั้งมวล นำไปสู่บทสรุปดังกล่าวได้อย่างไร
สิ่งที่ The Gentlemen ได้นำเสนอออกมาคือ ต่อให้เราจะเป็นคนมีหน้ามีตาในสังคมแค่ไหน เมื่อเราต้องต่อสู้เพื่อรักษาธุรกิจ ความรัก สิ่งที่เราศรัทธาแล้ว นิยามของคำว่า “ศักดิ์ศรี” เราอาจจะต้องวางมันลงชั่วครั้งชั่วคราว (หรือตลอดไป) ก็เป็นได้
บทสรุป
The Gentlemen เป็นหนังที่ภายนอกดูสุภาพบุรุษ The Gentlemen 2 หล่อ ดูดี ไฮคลาส น่าเกรงขาม โปรดักชั่นดี นักแสดงคุณภาพคับจอ ประกอบกับไดอะล็อกที่จัดจ้านคมคาย แต่ภายในก็เต็มไปด้วยความเกรียน ฮา เมากาว และ ความชุลมุนอลหม่านไม่จบสิ้น
ซึ่งผิวเผินมันก็ดูสนุกดีอยู่หรอกนะแต่ปัญหาคือ นอกจากหนังจะเต็มไปด้วยผู้ชายแล้ว (ก็เนาะ ชื่อหนังก็บอกอยู่แล้วว่าเป็นหนังแมน ๆ บอย ๆ) หนังยังมีมุก racist จำนวนมาก ทั้งมุกเหยียดสีผิว เหยียดเชื้อชาติ เหยียดภาษา ฯลฯ
ซึ่งบางคนดูแล้วคงจะขำไม่ออก ดังนั้น ถึงแม้เค้าจะเล่าเรื่อง และ ดำเนินเรื่องสนุกแค่ไหน มันก็ไม่ใช่หนังที่ทุกคนไปดูแล้วจะ enjoy ไปกับมันอยู่ดี
