รีวิว justice league

รีวิว justice league

หนังเก่ายอดนิยม สวัสดีครับ ผมมีหนังฮีโร่อีกหนึ่งเรื่องที่ส่วนตัวแล้วผมยกให้อยู่ระดับเดียวกับหนังฮีโร่อย่าง avengers เลยครับ ที่เป็นการรวมตัวกันของเหล่าฮีโร่จากทั่วทุกมุมโลก เขาว่ากันว่ายอดวีรบุรุษหรือวีรสตรี ต่างก็จะมีอุปสรรคที่ยิ่งใหญ่กันทั้งนั้น เพื่อเป็นเรื่องราวให้สร้างตำนานเล่าขาน เรื่องนี้ก็มีก้าวยากลำบากนามว่า ดราม่าในงานสร้าง มาให้ได้เป็นระยะ ๆ จนน่าเป็นห่วงคุณภาพหนังเลยทีเดียว แม้ว่าหนังจากวิสัยทัศน์ของ แซก ชไนเดอร์ ที่คุมทิศทางของเหล่าฮีโร่ให้ค่ายดีซี และ วอร์เนอร์ มาถึงปัจจุบันจะสร้างเสียงทั้งชื่นชม และ ก่นด่าออกเป็นสองฝั่งอย่างชัดเจน ก็ต้องยอมรับว่างานด้านภาพของชไนเดอร์นั้นโดดเด่นกว่าหนังฮีโร่จากอีกค่ายอยู่หลายช่วงตัว ดูหนังออนไลน์ ดูหนังฟรี

ส ปอย หนัง จากความตื่นตัวเรื่องการกอบกู้ศรัทธาจากมนุษย์ และ ด้วยแรงบันดาลใจจากความเสียสละของซูเปอร์แมน บรูซ เวย์นจึงขอความช่วยเหลือจากเพื่อนใหม่ ไดอาน่า ปรินซ์ เพื่อผนึกกำลังไปเผชิญหน้ากับศัตรูด้วยกัน แบทแมน และ วันเดอร์วูแมนต้องรวมทีมยอดมนุษย์เพื่อต่อสู้กับมหันตภัยร้ายครั้งใหญ่ที่กำลังจะมาถึง แต่การรวมทีมเหล่าฮีโร่ที่ไม่เคยมีมาก่อนอย่างแบทแมน วันเดอร์วูแมน อะควาแมน ไซบอร์ก และ เดอะแฟลช อาจสายเกินไปสำหรับการกอบกู้โลกจากกลุ่มเหล่าร้ายที่บุกจู่โจม ดูหนังฟรี ดูหนังออนไลน์

รีวิว justice league

รีวิว justice league

รีวิว justice league สำหรับ Justice League ก็เป็นหนังรวมฮีโร่ของทางค่ายฝั่ง DC ที่เพิ่งมีแค่ใหม่กี่ตัว แต่จากความสำเร็จของอีกค่ายก็เลยทำให้ต้องรีบเข็นมาแข่งบ้าง แต่ด้วยความที่จักรวาลยังไม่แข็งเท่า การรวมฮีโร่ในรอบนี้เลยดูกระท่อนกระแท่นอยู่ไม่น้อย ทั้งตัวบท และ ฉากแอคชั่น ที่ยังไม่ค่อยถึงใจเท่าไร ส่วนนึงอาจจะเป็นการแทรกแซงของทางสตูดิโอ ทำให้ใครที่เป็นแฟนคลับค่าย DC อาจจะผิดหวังอยู่ไม่น้อย ส่วนใครที่มาดูแบบผ่านไปผ่านมาก็อาจจะรู้สึกว่ามันดูเพลิน ๆ อยู่ก็ได้ เอาเป็นว่าใครชอบหนังค่าย DC จากเรื่องก่อน ๆ อย่าง Aquaman, Superman หรือ Wonder Woman มาก่อน ยังไงก็คงไม่อยากพลาดการรวมฮีโร่กลุ่มนี้กันแน่ ๆ

ทั้ง ๆ ที่ก่อนหน้านี้ DC อาจจะเริ่มต้นการรวมจักรวาลซูเปอร์ฮีโร่ของตัวเองผ่านหนังอย่าง Batman v Superman: Dawn of Justice มาแล้ว แถมยังเป็นการเปิดตัวซูเปอร์ฮีโร่หญิงอย่าง Wonder Woman ได้อย่างงดงาม แต่ก็น่าเสียดายที่ภาพรวมของหนังนั้นยังไม่เป็นเนื้อเดียวกัน และ แน่นอนว่าการตัดต่อของหนังก็เรียกได้ว่าเข้าขั้นวิกฤติจนนักวิจารณ์ และ ผู้ชมสวดกันยับเยิน

ส่วนที่น่าสนใจคือการสร้างตัวละครได้น่าสนใจดี แม้จะทำให้นึกถึงทีมอย่างอเวนเจอร์สอยู่บ้างแต่ก็ถือเป็นการหยิบยืมในทางที่ดี (ฉากที่เหล่าฮีโร่เถียงกันเองนี่มันอเวนเจอร์สแบบชัด ๆ เลย) แบทแมน มีปมในการเป็นหัวหน้าทีมที่ยังไม่ดีพอ และลึก ๆ เขารู้สึกผิดที่ทำให้โลกนี้ขาดซูเปอร์แมนไป (มีส่วนผสมของไอออนแมนกับกัปตันอเมริกา)

รวมถึงแนวทางที่จะรักษาโทนมืดมนให้จักรวาลหนังก็เป็นอะไรที่ทำให้มันมีที่ยืนแตกต่างจากแนวการ์ตูนจ๋าวาไรตี้แบบอีกค่ายหนึ่งชัดเจนเช่นกัน แต่ในอีกทางหนึ่งนั้นการเล่าเรื่องที่กระท่อนกระแท่น รวมถึงบทที่มีวัตถุดิบปริมาณมากที่อยากให้นำมาใส่จนล้นเวลของหนังก็กลายเป็นตัวขัดขวางการเล่าเรื่องไปในตัวอีกด้วย แน่นอนว่าเหมือน เด็กเนิร์ดที่อยากเล่าเรื่องคอมมิคที่ชอบโดยไม่สนใจคนทั่วไปจะรู้เรื่องด้วยมั้ย

เรื่องย่อ

รีวิว justice league

หลังจากเหตุการณ์ที่ทั้งโลกสูญเสียซุปเปอร์ฮีโร่คนสำคัญอย่าง ซุปเปอร์แมน ไปจากการต่อสู้กับดูมส์เดย์ การตายของเขาส่งผลให้กล่อง Motherbox ขุมพลัง 3 กล่องที่ซ่อนอยู่ในที่ต่าง ๆ ได้ส่งสัญญาณออกมาอีกครั้ง จนไปถึง สเตฟเฟนวูฟ วายร้ายที่หวังรวบรวม Motherbox ให้กับ ดาร์กไซด์ นายของเขา เหล่าฮีโร่ในแต่ละพื้นที่ต่างต้องปกป้อง Motherbox ในแดนของตัวเอง แต่ก็ไม่เป็นผลสำเร็จ เลยทำให้ บรูซ เวย์น และ ไดอาน่า ต้องออกตามหาบรรดาซุปเปอร์ฮีโร่คนอื่น ๆ เพื่อมาปกป้องโลกด้วยกัน Justice League (2017)

จุดสังเกต

รีวิว justice league

หนังซูเปอร์ฮีโร่ภาคนี้ยังคงเป็นหน้าที่ของ แซ็ค สไนเดอร์ กำกับภาพยนตร์ แต่ลดความยาวของหนังลงมาเป็น 2 ชั่วโมงพอดิบพอดี พยายามจะทำให้หนังไม่ดูเยิ่นเย้อเกินไป ทั้งยังถูกตบให้อยู่ในร่องในรอย และ ทำให้รู้สึกว่า มันมีความสนุกแบบพอดิบพอดี

แน่นอน แม้ว่าหนังมันจะมีพล็อตที่ดูเป็นไปไม่ได้ในโลกจริง หรือแม้แต่ในโลกแฟนตาซีก็ตามทีเถอะ หนังสร้างตัวร้ายตัวใหม่ที่กลับมาเยือนด้วยไอเดียที่ไม่น่าเชื่อถือสักเท่าไหร่ พลังของมัน ถือว่าสูงมากพอดูท่าซูเปอร์ฮีโร่สู้แบบเดี่ยว ๆ ไม่ได้

อาจจะไม่ค่อยเข้าใจเท่าไหร่ ถึงเหตุผลที่ทำไมเมื่อซูเปอร์แมนตายไป เหล่าซูเปอร์ฮีโร่ถึงค่อย ๆ หายหน้าไม่มาปรากฏตัว และ อาจจะไม่เก็ตมากนักที่เมื่อแบทแมนพบเจ้าลูกสมุนมีปีกออกมาสอดแนม มันทิ้งร่องรอยบางอย่างที่เขาเองก็ไม่ค่อยเข้าใจ แต่กลับรับรู้ว่ามันคือมหันภัยรุนแรงของโลกมนุษย์จนต้องรวบรวมสมัครพรรคพวก

แต่ขนาดของทีมจัสติซลีกในภาคนี้ ถือว่า ยังคงมีความย่อม ๆ อยู่ และ มีส่วนผสมที่ทำให้ได้ซูเปอร์ฮีโร่ที่ดูแตกต่างกัน ทั้งตัวเข้มบื้อที่ไร้พลังพิเศษ ทั้งหนุ่มตัวกวนประสาทที่คิดว่าตัวเองไวที่สุดในโลก ทั้งสาวพลังสูงที่สุดจะสวยสะกดทุกอณูวิญญาน ทั้งหนุ่มที่ใกล้ตายแต่กลับได้มีชีวิตอีกครั้งโดยไม่ได้ต้องการ แล้วก็ยังมีนายบึ้กที่เก่งเรื่องน้ำ Justice League 2 full movie

รีวิว justice league

รีวิว justice league หนังซูเปอร์ฮีโร่ภาคนี้ยังคงเป็นหน้าที่ของ แซ็ค สไนเดอร์ กำกับภาพยนตร์ แต่ลดความยาวของหนังลงมาเป็น 2 ชั่วโมงพอดิบพอดี พยายามจะทำให้หนังไม่ดูเยิ่นเย้อเกินไป ทั้งยังถูกตบให้อยู่ในร่องในรอย และ ทำให้รู้สึกว่า มันมีความสนุกแบบพอดิบพอดี

บางทีบรรดาหนังของค่าย DC COMICS ก็น่าสงสารกว่าหนังค่าย Marvel อยู่เหมือนกัน เพราะทุกครั้ง (หลังจากการเริ่มต้นรวมจักรวาล DC) บรรดานักวิจารณ์หรือผู้ชมก็มัวจะมาตั้งป้อมเป็นกังวลกันอยู่แต่เรื่องคะแนน และ เกรดภาพรวมของหนังค่ายนี้เสียจนหลงลืมไปว่า บางครั้งการดูหนังสักเรื่องก็ไม่จำเป็นที่จะต้องหมกมุ่นอยู่กับตัวเลขเพียงอย่างเดียวเสมอไป หลายครั้งหนัง DC ก็มีสไตล์ มีวิธีการเล่าเรื่องราว หรือ “เอกลักษณ์” ของตัวละครที่หนังค่ายอื่น ๆ ไม่มีเช่นกัน ดังนั้นการเปรียบเทียบหนังด้วยการตัดเกรด หรือ ให้ตัวเลขเพียงอย่างเดียว รวมไปถึงการบลัฟกันระหว่างค่าย ก็ดูว่าจะไม่ยุติธรรมสักเท่าไหร่ เช่นเดียวกันกับกรณีที่เกิดขึ้นกับหนังรวมฮีโร่ของค่ายดีซีอย่าง Justice League

และ แน่นอน แม้ว่าหนังมันจะมีพล็อตที่ดูเป็นไปไม่ได้ในโลกจริง หรือแม้แต่ในโลกแฟนตาซีก็ตามทีเถอะ หนังสร้างตัวร้ายตัวใหม่ที่กลับมาเยือนด้วยไอเดียที่ไม่น่าเชื่อถือสักเท่าไหร่ พลังของมัน ถือว่าสูงมากพอดูท่าซูเปอร์ฮีโร่สู้แบบเดี่ยว ๆ ไม่ได้

อาจจะไม่ค่อยเข้าใจเท่าไหร่ ถึงเหตุผลที่ทำไมเมื่อซูเปอร์แมนตายไป เหล่าซูเปอร์ฮีโร่ถึงค่อย ๆ หายหน้าไม่มาปรากฏตัว และ อาจจะไม่เก็ตมากนักที่เมื่อแบทแมนพบเจ้าลูกสมุนมีปีกออกมาสอดแนม มันทิ้งร่องรอยบางอย่างที่เขาเองก็ไม่ค่อยเข้าใจ แต่กลับรับรู้ว่ามันคือมหันภัยรุนแรงของโลกมนุษย์จนต้องรวบรวมสมัครพรรคพวก

แต่ขนาดของทีมจัสติซลีกในภาคนี้ ถือว่า ยังคงมีความย่อม ๆ อยู่ และ มีส่วนผสมที่ทำให้ได้ซูเปอร์ฮีโร่ที่ดูแตกต่างกัน ทั้งตัวเข้มบื้อที่ไร้พลังพิเศษ ทั้งหนุ่มตัวกวนประสาทที่คิดว่าตัวเองไวที่สุดในโลก ทั้งสาวพลังสูงที่สุดจะสวยสะกดทุกอณูวิญญาน ทั้งหนุ่มที่ใกล้ตายแต่กลับได้มีชีวิตอีกครั้งโดยไม่ได้ต้องการ แล้วก็ยังมีนายบึ้กที่เก่งเรื่องน้ำหากหนังก็ไม่ลืมใส่แง่มุมดราม่าของแต่ละตัวมาให้ Justice League Dark: Apokolips War

สรุป

เรื่องที่น่าเสียดายไม่ได้มีแค่นั้น เพราะในแง่ของฉากแอคชั่นที่ปกติแล้วจะเน้นความดุดันรุนแรงด้วยวิชวลสวย ๆ สไตล์ Zack Snyder ก็ดูเบา ๆ ลงไปด้วย ไม่ว่าจะเป็นการต่อสู้กับตัวลูกน้อง หรือตัวบอสก็ดูเป็นอะไรที่เบาบางมาก ๆ และไม่สมศักดิ์ศรีสักเท่าไร ยิ่งเมื่อเทียบกับความอิพิคของอีกค่ายก็นับว่ามีความห่างชั้นกันอยู่เหลือเกิน

ซึ่งที่เป็นแบบนี้อาจเป็นเพราะส่วนตัวมีการตั้งความหวังเอาไว้สูงอยู่เหมือนกัน เลยรู้สึกผิดหวังไปซะหมด เพราะหากมองแบบกลาง ๆ แล้วสุดท้ายหนังอาจจะไม่ได้แย่มาก และก็ค่อนข้างทำได้ตามมาตรฐานแอคชั่นฮีโร่ทั่ว ๆ ไป ถ้าไม่ได้คาดหวังมาก มันอาจจะเป็นหนังที่สนุกของใครหลาย ๆ อยู่ก็ได้

ส่วนตัวผมว่าคุณภาพโดยรวมของเรื่องนี้พอ ๆ กับ Batman v Superman เลย โอเค มันดูสนุก ฉากแอ๊คชั่น ต่อสู้อะไรต่าง ๆ มันส์สะเด่าในระดับหนึ่งแต่ขนาดดูแบบไม่ค่อยได้คิดอะไรมากแล้วเพราะก็ไม่ได้เป็นแฟนคลับเดนตายซูเปอร์ฮีโร่มากเท่าไหร่

โดยรวมของหนัง อาจจะไม่ใช่หนังที่ลงตัวที่สุดสำหรับฝั่ง DC Comics หรอกครับ แต่ก็ถือว่าไม่ยืดไม่ย้วย ชวนงงงวยในวิธีการแก้ปัญหาของตัวละคร หนังมีมุกตลกมาเป็นส่วนผสมที่ทำให้ดูได้บันเทิงขึ้น ฉากแอ็คชั่นอาจไม่อลังการเท่าบางช่วงใน BvS แต่มีความเป็นหนังซูเปอร์ฮีโร่ที่ดูเอาสนุกได้อยู่ justice league snyder cut ดูยังไง

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *