รีวิว hunt ล่าคน ปลอมคน

รีวิว hunt ล่าคน ปลอมคน

ถ้าพูดถึงหนัง ที่มีคนพูดถึงอย่างมากมายในตอนนี้ หนังใหม่แนะนำ คงหนีไม้พ้น Hunt ล่าคนปลอมคน หลังจากรับชม Squid Game จบแล้ว ส ปอย หนัง เชื่อว่าหลาย ๆ คน คงจะหลงรักนักแสดงนำอย่าง อีจองแจ และไปติดตามเขากัน ดูหนังฟรี ดูหนังออนไลน์ แน่นอน ซึ่งครั้งนี้ เขามากำกับเองเป็นครั้งแรกกับเรื่อง ล่าคนปลอมคน ภาพยนตร์เรื่องใหม่จากเกาหลีใต้ ดูหนังออนไลน์ ดูหนังฟรี ที่เพิ่งเข้าฉายในไทยเมื่อ 1 กันยายนนี้ เป็นภาพยนตร์ที่ได้ไปฉายโชว์ในรอบ Midnight Screen ที่เทศกาลหนังเมืองคานส์ ได้รับเสียงปรบมือ (Standing Ovation) ยาวนานกว่า 7 นาที และ เมื่อเปิดตัวในเกาหลีเมื่อวันที่ 10 สิงหาคม ก็ทำรายได้เป็นอันดับ 1 สามสัปดาห์ซ้อน จนไต่ขึ้นไปอยู่อันดับ 3 ของภาพยนตร์เกาหลีที่ทำรายได้สูงสุดแห่งปีอย่างรวดเร็ว

แน่นอนว่ากระแสความแรงนี้มาจากนักแสดงระดับแม่เหล็กอย่าง อีจองแจ กับ จองอูซอง สองเพื่อนซี้ในชีวิตจริงที่โคจรมาร่วมจอกันอีกครั้งในรอบ 23 ปีนับจากเรื่อง City of the Rising Sun (1998) สมทบด้วย จอนฮเยจิน, ฮอซองแท, โกยุนจอง, คิมจงซู, จองมันชิก ไม่เพียงเท่านั้น ยังมีนักแสดงหน้าคุ้นเคยอีกหลายคนมาเป็น Cameo ในเรื่องนี้

ชื่อเรื่อง : Hunt ล่าคนปลอมคน
ผู้กำกับ: อีจองแจ
ความยาว : 110 นาที
ช่องทางการรับชม : ในโรงภาพยนตร์
ระบบเสียง : เสียงไทย และ บรรยายไทย
แนว : ระทึกขวัญ, อาชญากรรม, สืบสวนสอบสวน

รีวิว hunt ล่าคน ปลอมคน

รีวิว hunt ล่าคน ปลอมคน

รีวิว hunt ล่าคน ปลอมคน ล่าคนปลอมคน ผลงานการกำกับครั้งแรกของ hunt 2022 ซับไทย อีจองแจ พระเอกจากซีรีส์ยอดฮิต Squid Game ที่เจ้าตัวยังนั่งแท่นอำนวยการสร้าง และ แสดงนำเองอีกด้วย นี่คือหนังที่ควรรู้น้อยที่สุด และ จะดูสนุกที่สุด เราจะบอกเล่าเรื่องย่อ ๆ ว่าเกี่ยวกับอะไร และ จะไม่สปอยล์จุดไหนเลย คือตัวหนังบอกเล่าเรื่องราวของหัวหน้าหน่วยสืบราชการลับ

ระหว่างประเทศ พัคพยองโฮ (อีจองแจ) และ หัวหน้าหน่วยข่าวกรองแห่งชาติ คิมจองโด (จองอูซอง) ที่ถูกมอบหมายให้ตามล่ากระชากหน้ากากสายลับหนอนบ่อนไส้ที่แฝงตัวอยู่ในองค์กรพวกเขา ทั้งสองจึงเริ่มสืบกันเอง โดยมีชีวิตของประธานาธิบดี และประชาชนของเกาหลีใต้เป็นเดิมพัน

เรื่องย่อ

รีวิว hunt ล่าคน ปลอมคน

เรื่องราวของ 2 เจ้าหน้าที่ประจำหน่วยรักษาความมั่นคงแห่งชาติอย่าง พัคพยองโฮ (อีจองแจ) และ คิมจองโด (จองอูซอง) แต่แล้วอยู่มาวันหนึ่ง พวกเขาได้รับข้อมูลลับมาว่ามีสายลับจากฝั่งเกาหลีเหนือแอบแฝงตัวเข้ามาที่ฝั่งเกาหลีใต้ ซึ่งหัวหน้าของทั้ง 2 คนนี้ได้สั่งให้เขาออกเดินหน้าตามหาความจริงว่าสายลับที่ว่านี้เป็นใคร และ เกาหลีเหนือมีแผนการร้ายอะไรอยู่

ด้วยเหตุนี้พวกเขาจึงต้องชิงไหวชิงพริบ และ ห่ำหั่นกันเอง เพื่อสืบหาความลับทั้งหมด สุดท้ายแล้วเรื่องราวของพวกเขาทั้งคู่จะลงเอยอย่างไร พวกเขาจะต้องเจอกับอุปสรรคอะไรบ้าง ทุกคนต้องไปรับชมด้วยตาตัวเอง Hunt (ล่าคนปลอมคน) วันนี้ในโรงภาพยนตร์

ความรู้สึกหลังรับชม

รีวิว hunt ล่าคน ปลอมคน

เรื่องนี้บอกเลยว่าดีเกินคาดพอสมควรเลย Hunt 2022 แต่ไม่ใช่หนังที่ทุกคนจะดูแล้วสนุก เพราะเนื้อหาค่อนข้างหนัก และ เข้มข้นแบบสุด ๆ ออกแนวการเมืองสืบหาความจริง ซึ่งถ้าคนไม่ได้ชอบแนวนี้อาจจะเบื่อและ หลับไปได้เลย แต่ถ้าคนที่ชอบ และ พอรู้เรื่องการเมืองของเกาหลีในยุค 80 น่าจะอินกับหนังได้ไม่ยาก ทุกอย่างออกมายอดเยี่ยมจริง ๆ

สิ่งที่อยากพูดถึงเป็นอย่างแรก และ เป็นสิ่งที่ผมชอบมาก ๆ คือบท บทเรื่องนี้ค่อนข้างซับซ้อน และ ไม่ได้เฉลยอะไรมากมาย มีความคล้ายเคียงกับเรื่อง 2 คน 2 คม คล้ายกันแค่เรื่องที่ว่ามีตัวเอก 2 คน และ ห่ำหั่นเฉือนคมกัน แต่ตำแหน่ง และ การทำงานไม่เหมือนกัน หนังจะเริ่มแบบไม่ให้เรารู้อะไรเลย และ ให้เดินตามตัวละครไปเรื่อย ๆ จากนั้นค่อยเฉลยความจริงออกมา

สิ่งที่ผมชอบคือจุดยืนของตัวละครหลัก มันมีที่มาที่ไป และ มีเหตุผลกันทั้งคู่ คนหนึ่งอยากหยุดเผด็จการ อีกคนหนึ่งก็คิดว่าการหยุดเผด็จการอาจนำมาซึ่งสิ่งที่แย่ยิ่งกว่า อย่างไรก็ตาม แม้ว่าบทจะทำออกมาได้อย่างดี แต่การดำเนินเรื่องก็ดูจะเป็นปัญหา

เพราะดำเนินเรื่องได้ไม่ค่อยหน้าติดตามมากนัก เขาซ่อนปมตอนต้นเรื่องไว้เยอะเกินไป จนคนดูจับจุดไม่ถูก และ ทำให้คนไม่อยากดูต่อ ส่วนตัวตอนต้นเรื่องผมก็งง ๆ และ รู้สึกเบื่อ ๆ แต่พอปมเริ่มเปิดเผยความจริงออกมาเท่านั้นแหละ เข้าใจทุกอย่าง และ อินขึ้นมาทันที

ต่อมาด้านการแสดง เรื่องนี้นี่คือการรวมนักแสดงตัวท็อปของเกาหลีมาไว้ด้วยกัน ในส่วนนี้ผมไม่มีอะไรจะติจริง แสดงได้ดีดีสมบทบาทกันทุกคน 2 นักแสดงหลักก็สามารถเอาหนังได้อย่างอยู่หมัดทั้งเรื่อง แถมสิ่งที่อยากชมมาก ๆ เลยคือการทำให้ตัวละครหลัก 2 ตัวนี้มีความรู้สึกทัดเทียมกัน คือตอนดูผมไม่รู้สึกเลยว่าใครเหนือกว่าใคร หรือใครดีกว่าใคร คือมันเฉือนคมกันจริง ๆ

โดยการจะทำให้ตัวละครหลัก 2 ตัวมีเสน่ห์ทัดเทียมกันนั้นถือเป็นเรื่องยากมาก ๆ เพราะหากนักแสดงคนใดคนหนึ่งทำได้ไม่ดี จะทำให้เสน่ห์ของตัวละครดรอปไปเลย แต่กับเรื่องนี้ไม่ใช่แบบนั้น พวกเขาเอาอยู่กันจริง ๆ ส่วนนักแสดงสมทบคนอื่น ๆ ก็ทำได้ดี และ ยอดเยี่ยมไม่แพ้กัน หากใครเป็นคอซีรีส์หรือหนังเกาหลีอยู่แล้วก็น่าจะเพลิดเพลินกับหนังเรื่องนี้ได้ไม่ยากนัก

ส่วนสุดท้ายคือด้านงานภาพ และ การแสดง ส่วนนี้ก็ทำได้ดีมาก ๆ เช่นกัน แม้ว่าจะมีบางฉากบางซีนที่ซีจีดูลอย ๆ บ้างนิดหน่อย แต่ก็ไม่ได้ติดอะไร งานภาพถ่ายออกมาได้อย่างสวยงาม ฉากแอ็คชั่นก็ออกแบบได้อย่างดี เทคนิคการถ่ายทำต่าง ๆ ก็ทำออกมาได้ยอดเยี่ยมเช่นกัน และ เนื่องด้วยหนังเล่าอยู่ในช่วงยุค 80 ทำให้งานสร้างต้องยากขึ้นไปอีก แต่เรื่องนี้ทำออกมาดีมากดูเป็นยุค 80 จริง ๆ ฉากแอ็คชั่นก็จัดชุดใหญ่ใส่เต็มเอามาก ๆ

ยิ่งฉากท้ายเรื่องนี่คือสเกลมันใหญ่พอตัวเลย ไม่คิดว่าจะระเบิดระเบ้อขนาดนี้ ทำได้ถึงใจเอามาก ๆ การตัดต่อ ซาวน์ประกอบฉาก เสื้อผ้าหน้าผมตัวละคร โลเคชั่นในการถ่ายทำ ทุกอย่างทำออกมาได้อย่างดี สรุปโดยรวมคือ เป็นหนังเฉือนคมแบบการเมืองเข้ม ๆ ที่มาพร้อมกับแอ็คชั่นแบบจัดเต็ม ใครที่ชอบดูอะไรแนวนี้ผมว่าน่าจะหลงรักเรื่องนี้ได้ไม่ยากนัก ยังไงก็ตามผมอยากให้ทุกคนไปพิสูจน์ด้วยตาตัวเองมากกว่า

รีวิว hunt ล่าคน ปลอมคน

รีวิว hunt ล่าคน ปลอมคน หนังน่าชื่นชมในทุกภาคส่วน Hunt 2022 ล่าคน ปลอมคน พากย์ไทย ความยาว 2 ชั่วโมงกว่า ที่เล่าเรื่องรวดเร็ว ฉับไว คุ้มค่าทุกวินาที เริ่มตั้งแต่ตัวบท กับการสืบสวนสอบสวนตามล่ากระชากหน้ากากสายลับ ที่ทำออกมาได้ชวนสงสัย หนังสร้างสถานการณ์ให้คนดูอย่างเราไม่ไว้ใจใครเลยออกมาได้เป็นอย่างดี ทำให้คนดูได้ฉุกคิด ชวนให้ติดตามได้ตั้งแต่ต้นจนจบ พาร์ทการสืบสวนก็ลุ้นระทึก กดดัน พลิกไปพลิกมา ไต่ระดับความพีคไปเรื่อย ๆ

ถ้าใครลุกไปเข้าห้องน้ำหรือก้มหน้ากินป๊อปคอร์นนี่อาจตามหนังไม่ทัน พลาดอะไรไปไม่มากก็น้อยเลยทีเดียว แถมประเด็นการเมืองในเรื่องก็เข้มข้น น่าชื่นชมเกาหลีที่กล้าเล่นประเด็นเหล่านี้อย่างตรงไปตรงมา จี้ปมถึงผู้นำประเทศ และ ความล้มเหลวของการปกครองด้วยความรุนแรงที่น่าสมเพช ถ้าเป็นในกะลาแลนด์คงไม่มีวันได้ออกฉายเป็นแน่แท้ ส่วนทางด้านฉากแอ็คชันถึงไม่ได้มีเยอะ

แต่พอมาทีก็เดือดใช่เล่น ยิงกันสนั่นโรงเลยทีเดียว ที่น่าแปลกก็คือตัวหนังเกิดในเกาหลีใต้ยุค 80s แต่ทำไม๊ทำไมสถานการณ์ยังกะกะลาแลนด์แดนมหัศจรรย์ที่เราคุ้นเคยก็ไม่รู้ ตอนนี้บ้านเค้าพัฒนาไปไกลกว่าเผด็จการณ์ แต่กะลาแลนด์ยังโดนเผด็จการณ์อยู่เลย…

นักแสดงนำต้องขอปรบมือให้สุด ๆ ทั้ง อีจองแจ และ จองอูซอง ที่รับผิดชอบบทของตัวเองได้โคตรดี การเข้าฉากปะทะวาจา และ ร่างกายของทั้งคู่คือยอดเยี่ยม ดุเดือด สร้างบรรยากาศตึงเครียดระหว่างกันให้คนดูรู้สึกถึงได้เลย เหมือนมันพร้อมจะซัดกันได้ทุกเมื่อ และ ทั้งคู่ก็เล่นได้ไม่น่าไว้ใจเลยสักนิด รวมถึงทีมนักแสดงสมทบก็แสดงได้ดีไม่แพ้กันเลย

บทสรุป

แน่นอนว่า Hunt ล่าคนปลอมคน เป็นหนังที่ทรงอิทธิพลไม่น้อย Hunt rotten tomatoes เพราะว่าใคร ๆ ก็อยากมาร่วมแจม การดูหนังเรื่องนี้จึงกลายเป็นความบันเทิงอีกแบบหนึ่ง เพราะเราจะได้เห็นทัพนักแสดงตัวเป้ง ๆ ของเกาหลี โผล่มาขอมีซีนอยู่หลายคนทีเดียว มีทั้งน่าจดใจบ้าง และ ใส่เข้ามาทำไมบ้าง ก็นับว่าเป็นอีกหนึ่งสีสันที่ได้เห็นคนวงการบันเทิงเกาหลี พร้อมใจกันอยากจะมาเล่นหนังให้กับเพื่อนในวงการอย่าง อีจองแจ

เอาเป็นว่าโดยภาพรวมแล้วนั้น Hunt ล่าคนปลอมคน ถือว่าเป็นหนังแอคชั่นเชือดเฉือนที่ค่อนข้างสร้างความเอ็นจอยให้กับผู้ชมอยู่ไม่น้อยเลย หนังอาจจะมีกลิ่นอายความเป็น Internal Affairs อยู่บ้าง แต่ก็มีเรื่องราวที่เอกเขนกเป็นของตัวเองเช่นเดียว ฉากแอคชั่น และ ซีนบู๊ดุเดือดเหลือเกิน

กลายเป็นหนัง 2 ชั่วโมงที่แทบจะเอียนฉากเหล่านี้ แต่ทุกฉากทำออกมาได้ดี และ น่าประทับใจจริง ๆ นับว่าเป็นย่างก้าวใหม่ของนักแสดงสู่ผู้กำกับหนังที่ถือว่า…ใช้ได้เลยกับผลงานเรื่องแรกของเขา

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *