รีวิวหนัง Choose or Die เลือกหรือตาย เชื่อว่าหลายคนก็คงชอบที่จะ “เล่นเกม” โดยเฉพาะเกมที่มีความท้าทาย แถมยังมีของรางวัลมูลค่าสูงมาเป็นสิ่งที่ล่อตาล่อใจ เชื่อว่าหากคุ้มค่ามากเพียงพอหลายคนก็จะพยายามทำทุกวิถีทางเพื่อที่จะสามารถพิชิตเกมดังกล่าวกันอย่างแน่นอน
เกมชวนสยองจากยุค 80 ที่มีรางวัลใหญ่เป็นสิ่งล่อใจ แต่เหรียญที่ใช้ในการหยอดตู้เพื่อเริ่มเล่นเกมนั้น ราคาที่ต้องจ่ายอาจเป็น “ชีวิตของผู้เล่น” หรือบุคคลอันเป็นที่รัก เรื่องราวต่อจากนี้จะเป็นอย่างไร เชิญติดตามรับชมรีวิวได้ที่ด่านล่างนี้ได้เลยค่ะ ช่องทางการรับชม ดูหนังออนไลน์
ทุกคนเล่นได้ถ้ากล้า! ใช้ชีวิตเป็นเดิมพัน!!!
![](https://doonung4k.com/wp-content/uploads/2023/07/รีวิวหนัง-Choose-or-Die-6.webp)
รีวิวหนัง Choose or Die เรื่องย่อ
Choose or Die เรื่องย่อ ว่าด้วยเรื่องราว ของนักศึกษา ที่กำลังแสวงหาโชค เพื่อยกระดับชีวิตความเป็น อยู่ให้กับตัวเอง และคนรอบข้าง ก่อนที่เธอจะได้ค้นพบเกมคอมพิวเตอร์ที่ชื่อว่า
‘เคอร์เซ่อร์’ เป็นเกมแนวเอา ชีวิตรอดสุดคลาสสิก จากในช่วงยุคปี 1980s และเกมนี้ผู้เล่น ที่ชนะจะได้รับเงินรางวัลถึง 1 แสนเหรียญ แต่เมื่อเธอได้ดำดิ่ง เดินหมากเข้าสู่ห้วงของเกมนี้
ในไม่ช้าก็ได้ค้นพบว่า เธอไม่ได้เล่นเกม เพื่อเงินรางวัลอีกต่อไป แต่กลายเป็น เล่นเกมเพื่อเอาชีวิตให้รอด!
คือจริง ๆ คอนเซ็ปต์ของหนัง เรื่องนี้ก็เป็นหนังสยองขวัญ แนวเดิม ที่ไม่ได้มีพื้นฐานที่แปลกใหม่อะไรเท่าไหร่ เป็นหนังแนวเล่น เกมสุดท้าทาย แบบด่านต่อด่านไป
โดยมีคอมพิวเตอร์ลึกลับเป็นผู้กำหนดโจทย์ และผู้เล่นก็ต้องเลือกเล่นเกมตามหน้าที่ของพวกเขา เพื่อให้ผ่านเลเวลนั้น ๆ ให้จงได้ เป็นไอเดียที่ไม่ได้มีความสดใหม่ แต่ก็สามารถสร้างเป็นกิมมิกที่สนุกออกมาไม่ยากเช่นกัน
![](https://doonung4k.com/wp-content/uploads/2023/07/รีวิวหนัง-Choose-or-Die-1.webp)
นี่คือผลงานการกำกับหนังเรื่องแรกของ “โทบี้ มีกินส์” ที่ถือว่าเป็นหนังยาวเรื่องราวของเขา หลังจากที่สั่งสมประสบการณ์จากการทำหนังสั้นมาหลายเรื่อง
เขายังร่วมเขียนบทหนังเรื่องนี้เองด้วย กลั่นกรองออกมาเป็นหนังดราม่าเขย่าขวัญที่สร้างด่านแต่ละด่านได้บีบคั้นใจคนดูได้ทีละเรื่อย ๆ
การสอดแทรกประเด็นดราม่าและปมชีวิตเข้ามาเป็นองค์ประกอบเสริมถือว่าเป็นจุดเสริมที่เรียกความสนใจได้ดี และยังเร่งเร้าอารมณ์ที่มีต่อตัวหนังได้ดีในระดับน่าพอใจด้วย
แค่ฉากเปิดเรื่องของ Choose or Die ก็ถือว่าเป็นการปูเรื่องเปิดเอาไว้ได้ค่อนข้างน่าสนใจ เมื่อนำมาขยายความออกมาเป็นเรื่องราว ผ่านการแสดงของ “ไอโอล่า อีแวนส์”
นักแสดงสาวหน้าใหม่ที่มีโอกาสได้เล่นหนังเรื่องนี้เป็นหนังเรื่องแรก ที่ถือว่าเธอดีไซน์ตัวละครของตัวเองออกมาได้ค่อนข้างใช้ได้ สร้างมิติในคาแรกเตอร์ของตัวเองได้น่าสนใจ เป็นดาราดาวรุ่งที่มีลีลาการแสดงที่น่าประทับใจอยู่ไม่เบา
การดำเนินเรื่อง
ในขณะที่ “เอซา บัตเตอร์ฟีลด์” ที่แน่นอนว่าเรารู้จักเขาเป็นอย่างดี เขาถือว่าเป็นอีกหนึ่งองค์ประกอบที่มาช่วยเติมเต็มให้กับหนังเรื่องนี้ แม้ว่าคาแรกเตอร์ของเขาแทบจะไม่มีอะไรเลย
เป็นเพียงตัวละครตามหลังตัวละครหลักธรรมดา ๆ แต่ด้วยความเป็นมืออาชีพของเขาก็สามารถช่วยพยุงหนังเรื่องนี้เอาไว้ได้ตลอดทางได้ดี
เมื่อทั้งคู่ต้องมาเผชิญหน้าสถานการณ์เดียวกันในหนังเรื่องนี้ ถือว่าเป็นการจับคู่ในเกมที่ทำให้คนดูต้องตาติดจอเอาไว้ได้ดี
โปรดักชั่นดีไซน์ของหนังเรื่องนี้ก็นับว่าเป็นอีกหนึ่งองค์ประกอบที่ค่อนข้างทำได้ดี ไม่ว่าจะเป็นการดีไซน์เกมเข้ากับด่านแต่ละด่านที่เป็นงานง่าย ๆ
แต่แฝงเอาไว้ด้วยลวดลายที่น่าสนใจ ไม่ว่าจะออกมาในรูปแบบของภาพกราฟฟิกและเสียงปลุกประสาทหู เป็นจุดที่ช่วยกระตุ้นอารมณ์ให้กับผู้ชมได้เป็นอย่างดี เป็นอีกหนึ่งไฮไลต์ที่หนังเรื่องนี้ทำออกมาได้ค่อนข้างใช้ได้อีกจุด
![](https://doonung4k.com/wp-content/uploads/2023/07/รีวิวหนัง-Choose-or-Die-2.webp)
หนังใหม่แนะนำ Choose or Die ก็ยังเต็มไปด้วยช่องโหว่และหลายจุดที่ยังไม่ค่อยสมเหตุสมผลสักเท่าไหร่นัก แน่นอนว่าเรื่องบทของหนังที่มีไอเดียค่อนข้างน่าสนใจ
แต่การนำเสนอ และถ่ายทอด ยังไม่ค่อยไหล ลื่นได้ดีสักเท่าไหร่ การดำเนินเรื่องอาจ จะค่อนข้างกระชับดี แต่หลายปมก็ ยังไม่สามารถทำให้ ผู้ชมได้เข้าใจถึงแก่นแท้ของจุดประสงค์ที่หนังต้องการจะสื่อสารออกมาได้แจ่มแจ้งมากนัก
แน่นอนว่า หนังเรื่องนี้ยังสามารถ นำเอาไปต่อยอดสร้างออกมา เป็นหนังแฟรนไชส์ได้สบาย ๆ เพียงแต่จุดเริ่มต้นของ Choose or Die ซับไทย ยังไม่ถึงขนาดแข็งแรงในองค์ประกอบของโครงเรื่องขนาดนั้น การเล่าเรื่องที่เหมือนจะไม่ยาก แต่ก็ถ่ายทอดออกมาให้ง่ายไม่ได้ถึงที่สุดอยู่ดี
แม้จะทิ้งทวนด้วยการใส่ตอนจบแบบปลายเปิดเอาไว้ แต่จากใจจริงก็ต้องสารภาพว่า…หนังเพียงแค่เรื่องนี้เรื่องเดียวก็น่าจะเพียงพอแล้ว ไม่ถึงขั้นที่มีแพสชั่นที่อยากจะดูเกมนี้ต่ออีกสักเท่าไหร่
พล็อตเรื่อง
เลือกหรือตาย ตัวละครหลัก ของหนังจริง ๆ เป็นฝั่งตัวละครสาวอย่าง เคย์ลา ที่ได้นักแสดงหน้าและชื่อไม่คุ้นอย่าง ไอโอลา อีแวนส์ (Iola Evans) เสียมากกว่า เธอต้องรับบทหญิงสาวที่ตะเกียกตะกายหาชีวิตที่ดีกว่าแต่ด้วยสภาพฐานะทางบ้านที่อาศัยในแฟลตสลัมย่านค้ายาเสพติด
เธอจึงเลือกได้แต่เป็นพนักงาน ทำความสะอาดจนวันหนึ่งได้มาพบ เกมเก่าที่เพื่อนชายอย่าง ไอแซก (อาซา บัตเทอร์ฟิลด์) ไปเหมายกกระบะมา
เธอเอามาเล่นเพราะไอแซกบอกว่าบางครั้งเกมเก่าพวกนี้ก็ซ่อนพวกรางวัลที่เป็นเงินไว้ ด้วยภูมิหลังตัวละครที่มีดราม่าในครอบครัวค่อนข้างมากทำให้ตัวละครนี้ดูมีชีวิตมากที่สุดไปตามระเบียบ แต่ถามว่าอีแวนส์โดดเด่นเป็นที่จดจำได้ไหม ก็ต้องตอบว่ายังไม่ได้
![](https://doonung4k.com/wp-content/uploads/2023/07/รีวิวหนัง-Choose-or-Die-3.webp)
สิ่งที่แฟนหนังสยองขวัญอาจจะตื่นเต้นได้มากหน่อยสำหรับเรื่องนี้คือการได้เสียงของ โรเบิร์ต อิงลันด์ (Robert Englund) หรือ เฟรดดี ครูเกอร์ จากแฟรนไชส์หนังนิ้วเขมือบ ‘A Nightmare on Elm Street’ มาพากย์เสียงในตัวเกมด้วย ดังนั้นใครดูเรื่องนี้ก็แนะนำเลยว่าดูเสียงดั้งเดิมดีกว่าพากย์ไทยแน่นอน
ข้อมูลภาพยนต์
หนังพยายามที่จะสร้างความแตกต่างให้มากขึ้นด้วยการนำเอาเกมที่มีประวัติอันแสนคลุมเครือจากยุค 80 มาปัดฝุ่นให้คนรุ่นหลังที่เกิดไม่ทันได้รู้จักกันอันเป็นการสร้างความหลอนได้ในอีกรูปแบบหนึ่งเช่นกัน
และแน่นอนว่าเสียงของเกมในยุคนั้นที่ถูกนำเสนอหลายต่อหลายครั้งมันทำให้คนที่เกิดในยุคนั้นเกิดความรู้สึกโหยหาอดีตได้เป็นอย่างดี
ฉากสยองขวัญหลายครั้งที่เกี่ยวกับการเล่นเกม ถึงแม้จะถูกสร้างออกมาแล้วดูไม่ได้น่ากลัวนัก แต่มันกลับสามารถที่จะทำให้เกิดความรู้สึกเสียวไส้ให้กับคนดูได้พอสมควร
![รีวิวหนัง Choose or Die](https://doonung4k.com/wp-content/uploads/2023/07/รีวิวหนัง-Choose-or-Die-4.webp)
ข้อมูลเกี่ยวกับหนัง Choose or Die เลือกหรือตาย
ประเภท: ดราม่า / สยองขวัญ
ผู้กำกับ: โทบี้ มีกินส์
นำแสดงโดย: เอซา บัตเตอร์ฟีลด์, ไอโอล่า อีแวนส์, เอ็ดดี้ มาร์สัน
ความยาว: 84 นาที
กำหนดฉายในไทย: 15 เมษายน 2022 (ที่ Netflix)
รีวิวหนัง Choose or Die บทสรุป
เลือกหรือตาย สรุป ด้วยความที่เป็นหนังทุนต่ำ อาศัย เอซา บัตเตอร์ฟีลด์ มาขายนำแสดง แต่ที่จริงเขาเป็นแค่บทสมทบช่วงหนึ่งในเรื่องเท่านั้น ซึ่งก็อาจจะทำให้คนดูผิดหวังได้พอสมควร
เพราะตัวเรื่องจริงๆ คือโฟกัสไปที่นางเอกเคย์ล่า ซึ่งเป็นคนเริ่มเล่นเกมนี้เพื่อต้องการเงินมาช่วยแม่ที่ป่วยด้วยฐานะทางบ้านยากจน แถมยังมีชายหื่นที่หวังเคลมเธออยู่ที่นั่นด้วย เอซา ก็เป็นเพื่อนชายที่ชอบเธอ แล้วก็เป็นนักสร้างเกมอินดี้ด้วยตัวเอง
![รีวิวหนัง Choose or Die](https://doonung4k.com/wp-content/uploads/2023/07/รีวิวหนัง-Choose-or-Die-5.webp)
ซึ่งตัวเรื่องปูเนื้อหาส่วนนี้ไว้เพียงนิดหน่อย แล้วก็เข้าเนื้อหาหลักเล่นเกมในเวลาไม่นาน ซึ่งตัวหนังก็ยาวแค่ 1 ชั่วโมง 18 นาที (ไม่รวมเครดิต) ซึ่งสั้นมากๆ เนื้อเรื่องจึงดำเนินไปค่อนข้างไวต่อเนื่องด้วยการใช้ฉากสยองขวัญทีละเลเวลแบบเกม
ซึ่งฉากเหล่านี้ก็ไม่ได้ถึง กับสยองอะไรมาก เน้นหวาดเสียวนิดๆ แค่นั้น แล้วก็ออกแนวหนัง คัลท์ด้วยการทำฉาก วิดีโอเกมล้วนๆ แทนฉากสยองของจริงที่เกิดในตอนนั้น หรือฉากสยองขวัญแบบแปลกๆ ให้ตัวละครเป็นเหมือนวิดีโอเกมดิจิตอล
ซึ่งเข้าใจว่าต้องการเซฟงบลดต้นทุนมากกว่าจึงเลือกการสร้างฉากออกมาแนวๆ นี้ ซึ่งมันไม่เวิร์คเท่าไหร่ถ้าคนตั้งใจมาดูหนังสยองขวัญอาจจะงงๆ
แทนด้วยว่าฉากพวกนี้มันสยองอีท่าไหน แต่ถ้ามองว่านี่เป็นหนังคัลท์ทุนต่ำมันก็เสนอไอเดียฉากสยองขวัญที่แปลกพิลึกดีเหมือนกันครับ
ความรู้สึกหลังรับชม
นอกจากการเดินเรื่อง ด้วยฉากสยองขวัญแล้ว ตัวเรื่องมีพล็อตรองว่าด้วยคำสาปในเกมที่อาจจะไม่ใช่สิ่งเลวร้ายที่เกิดกับผู้เล่นเสมอไป
ซึ่งตัวเรื่องผูกโยงอาถรรพ์ของเกมนี้เข้ากับพลังวิเศษในแบบหนึ่ง ซึ่งตรงนี้ถือเป็นไอเดียน่าสนใจ มากกว่าการเล่นเกมแล้วเน้นฉากสยองขวัญซะอีก
แต่ตัวผู้สร้างก็เหมือน อยากเกริ่นไว้แค่นี้ก่อน เพื่อดูผลตอบรับของเรื่องนี้ไว้เพื่อทำภาคต่อที่ทิ้งไว้ในตอนจบตรงๆ ว่ามีต่อแน่ๆ (หรือเน็ตฟลิกซ์อาจจะไฟเขียวสร้างไว้แล้วก็ได้)
สรุปโดยรวมว่าเป็นหนังสยองขวัญขายไอเดียสั้นๆ ที่ดูผ่านๆ พอได้ แต่อาจจะไม่ตอบโจทย์คอหนังแนวนี้โดยตรง
![รีวิวหนัง Choose or Die](https://doonung4k.com/wp-content/uploads/2023/07/รีวิวหนัง-Choose-or-Die-7.webp)
เอาเป็นว่าในภาพรวมนั้น Choose or Die เต็มเรื่อง ถือว่าเป็นเขยาขวัญสไลต์เล่นเกมไปเป็นด่าน ๆ ที่พล็อตโดยรวมออกจะเชยไปสักหน่อย แต่เนื้อในของหนังนั้นก็มีกิมมิกบางอย่างซ่อนเอาไว้
ผู้เล่นที่ไม่ใช่แค่เหยื่อยอมจำนนเล่นให้จบเกมเพียงอย่างเดียว แต่การสู้ชีวิตกับชีวิตที่พยายามสู้กลับของหนังเรื่อง นี้เป็นเสน่ห์ที่ชวนให้ติดตามไปตลอดทั้งเรื่อง
แม้ว่านี่จะยังไม่ใช่หนังสยองที่ทำออกมาได้สมบูรณ์แบบอะไร แต่ก็เป็นหนังที่สามารถดูได้เพลิน ๆ ไม่ขี้ริ้วขี้เหร่ใด ๆ เพียงแต่อาจจะมี ความน่าจดจำยังไม่เยอะ สักเท่าไหร่ก็ตาม สุดท้ายเราขอฝากรีวิว รีวิวหนัง Hypnotic จิตบงการปล้น ภาพยนต์แนวแอคชั่น มันส์ หักมุม