รีวิวหญิงสาวกับนักบินอวกาศ ซีรีส์ แนวไซไฟระทึกขวัญ ผสมผสานดราม่าโรแมนติก

รีวิวหญิงสาวกับนักบินอวกาศ ซีรีส์ แนวไซไฟระทึกขวัญ ผสมผสานดราม่าโรแมนติก

ฉันมี รีวิวหญิงสาวกับนักบินอวกาศ เรื่องนี้เป็นซีรีส์แนวไซไฟที่ค่อนข้างเละเทะเปะปะ ผสมผสานทุกอย่างลงไปได้แบบงง ว่า เอ๊ะสรุปเรื่องนี้จะออกแนวไหนกันแน่ 555 เพราะมีทั้งเรื่องรักสามเส้าน้ำเน่า และความระทึกขวัญหน่อย ๆ แถมยังมีความไซไฟด้วย

และที่สำคัญมีฉาก SEX กามค่อนข้างเยอะ โชว์เนื้อนมไข่จนเหมือนหนังอีโรติกมากกว่า พล็อตไซไฟลึกลับมีแค่ไว้แปะ ๆ หลอกรั้งคนดูไว้เท่านั้น แต่แทบทั้งเรื่องก็วนไปกับโลกยุคปัจจุบัน 2022 มากกว่าอนาคตที่ใส่ไว้กระจุ๋มกระจิ๋มเพราะงบไม่มี แต่ก็ยังอยากทำ ซึ่งมันไม่รู้ว่ามันเวิร์คไหม อันนี้ทุกคนต้องม่ช่วยกันดู สามารถเข้าชมหนังฟรีได้เลยที่ ดูหนังออนไลน์

รีวิวหญิงสาวกับนักบินอวกาศ ซีรีส์ แนวไซไฟระทึกขวัญ ผสมผสานดราม่าโรแมนติก

รีวิวหญิงสาวกับนักบินอวกาศ ซีรีส์ แนวไซไฟระทึกขวัญ ผสมผสานดราม่าโรแมนติก

รีวิวหญิงสาวกับนักบินอวกาศ ของทาง Netflix

เรื่องนี้เป็นซีรีส์ หญิงสาวกับนักบินอวกาศ Netflix โปแลนด์ 6 ตอน แนวไซไฟผสมรัก เรื่องราวผู้หญิงที่ต้องตกอยู่ในวังวนรักสามเส้า ของนักบินอวกาศที่พยายามแข่งกันขึ้น ไปเป็นตัวจริง ในภารกิจอวกาศ แต่แล้วหนึ่งในนั้นกลับสูญหาย ในภารกิจนอกโลกนาน 30 ปี เขากลับมายังโลกโดยที่ไม่แก่ลง และพบว่าคนรักของเขามีครอบครัวไปแล้วกับคู่แข่งทางหัวใจอดีต อันนี้คือเจ็บจิ้ดดดดดเลย5555

ถ้าจะให้พูดถึงความพยายามทำซีรีส์ไซไฟ ที่ไม่ได้เน้นฉากในอนาคต อาจจะเพราะด้วยงบที่น่าจะจำกัดด้วยแหละมั้งที่ดูเหมือนเรื่องนี้ยังไฮเทคมากไม่พอ จึงทำให้บทของเรื่องนี้ที่เริ่มในปี คศ.2052 กับฉากการกลับมาของนักบินอวกาศที่เป็นปริศนาว่า 30 ปี เขาไม่แก่ลงเลยได้อย่างไร และทางโครงการรายงานว่ายานของเขาระเบิดไปแล้วเมื่อ 30 ปีก่อนด้วย

ซึ่งการเปิดด้วยเรื่องลึกลับก็ เพื่อแค่ดึงให้เรื่องน่าสนใจ แต่ด้วยงบประมาณที่จำกัดตัวเรื่องจึงเล่าย้อนอดีตกลับมาปัจจุบันปี 2022 แทบทั้งเรื่อง 6 ตอน ทุกอย่างคือเพื่อเล่าว่านักบินอวกาศคนนี้ผ่านอะไรมาบ้างก่อนขึ้นไปปฏิบัติภารกิจนั้น ถ้าหากสนใจที่จะรับชมเรื่องนี้เข้าที่ ดู A Girl and an Astronaut

รีวิวหญิงสาวกับนักบินอวกาศ ของทาง Netflix

ฉันคิดว่าหลัก ๆ แล้วนี่ก็เหมือนหนังแนวบุกเบิกอวกาศ หน่อย ๆ นะ แต่ย้ายมาเป็นชาติโปแลนด์ โดยเอารัสเซียเข้ามาเกี่ยวข้องด้วย เพื่อให้สมเหตุผลขึ้นว่าชาติโปแลนด์มีโครงการใหญ่ระดับนาซ่านี้ได้อย่างไร

ซึ่งขั้นตอนการทดสอบหานักบินอวกาศ ก็เหมือนไปถอดบทจากพวกหนังแนวชีวิตนักบินนาซ่ามาทั้งนั้น อย่างการหาคนจากนักบินรบ เอาเข้าเครื่องเหวี่ยงทดสอบแรง G การฝึกใต้น้ำให้รับรู้ถึงสภาพไร้แรงโน้มถ่วงบลา ๆ ต่าง ๆ

โดยที่ทั้งหมดก็เป็นไปแบบธรรมดาเหมือนที่เคย ๆ ดูกันมาทั้งหมด ไม่มีอะไรแปลกใหม่ มีแค่แง้ม ๆ ไว้นิด ๆ ตรงที่ว่าฉากเปือยกายมันโผล่มาเยอะไปไหม 5555 และว่านี่เป็นการโครงการทดลองของรัสเวียที่มาใช้คนโปแลนด์เท่านั้น ซึ่งก็เป็นความลับว่าทำไมนักบินตัวเอกถึงไม่แก่ลง แต่อย่าหวังว่าจะได้เฉลยอะไร เพราะเรื่องแทบจะไม่ได้เปิดเผยให้เข้าใจในจุดนี้เลยสักนิด อย่าลืมติดตามการรีวิวหนังนอกกระแสเรื่องอื่น ๆ ได้เลยที่ หนังอินดี้มาแรง

เรื่องราวของนักบินอวกาศหญิงล้วนครั้งแรก

ที่ฉันมาเล่าเกี่ยวกับเรื่อง หญิงสาวกับนักบินอวกาศ นักบินอวกาศหญิงล้วนนี้เพราะว่าอยากให้การรีวิวในครั้งนี้มีความน่าสนใจมากขึ้น ซึ่งเริ่มที่ใน16 มิถุนายน 1963 นักบินอวรกาศหญิงวาเวนตินา เทเรสโคฟวา เป็นหญิงคนแรกที่ได้โคจรรอบโลก ตามาด้วย แซลลี่ ไรด์ นักบินอวกาศหญิงอเมริกันคนแรกที่เดินทางขึ้นไปกับกระสวยอวกาศในปี 1983

แต่ใน 14 ปีให้หลัง อพอลโล 11 และ 20 ปี หลังเทเรสโคฟวา แล้วหลังจากนั้นสเวทลานา สาวิทสกายา ก็กลายเป็นผู้หญิงคนแรกที่ได้ออกไปนอกยานด้วยการทำ สเปซวอล์ค ในปี 1984 ตามมาด้วย ความสำเร็จขั้นต่อคือการที่นักบินอวกาศหญิงออกไป สเปซวอล์ค ด้วยกันสองคนครั้งแรกในวันที่ 18 ตุลาคม 2019 เอ๊ะ ได้เหรอ ได้แหละมั้ง 5555

และก่อนอื่นต้องบอกก่อนที่ฉันจะเล่าต่อว่า การที่ผู้หญิงถูกส่งไปเป็นอันดับสองเสมอเป็นเพราะว่า ณ ตอนนั้นสังคมสร้างช่องว่างระหว่างเพศร่างกายชาย และหญิงให้ต่างกันสูง ถูกต้อง แน่นอน แต่อีกหนึ่งปัจจัยที่กลายเป็นผสมควบคู่กันไปอย่างแยกไม่ออกก็ คือข้อจำกัดทางด้านร่างกาย และเมื่อเราพูดถึงหัวข้อแนว ๆ นี้

เราไม่ได้จะบอกว่าผู้หญิงอ่อนแอกว่าผู้ชาย แต่เราจะพูดถึงความจริงในทางสรีรศาสตร์ว่าร่างกายผู้ชายกับผู้หญิงมันแตกต่างกันจริง ๆ รวมถึงผู้หญิงมีประจำเดือน ในและผลกระทบต่าง ๆ ที่ตามมา และ ๆ ขนาดร่างกายที่เล็กกว่า

เรื่องราวของนักบินอวกาศหญิงล้วนครั้งแรก

หรือ ความสามารถด้านกล้ามเนื้อในทางสถิติ และอีกหลาย ๆ ความแตกต่างที่นำไปสู่ความจริงที่ว่า การส่งผู้หญิงขึ้นไปอวกาศท้าทายกว่าการส่งผู้ชาย และการส่งผู้ชายก็ไม่ได้ง่ายอยู่ดี ดังนั้น เราลองแยกประเด็นออกเป็น 2 ปัจจัยได้แก่ ปัจจัยทางสังคม รวมถึงเศรษศาสตร์ และ ปัจจัยทางชีววิทยา

แต่ถามว่านั่นก็ไม่ใช่ข้อห้ามที่ห้ามไม่ให้ผู้หญิงขึ้นสู่อวกาศ สุดท้ายผ้าอนามัยก็กลายเป็นหนึ่งไอเทมสำคัญบนสถานีอวกาศนานาชาติ การที่เราเห็นนักบินอวกาศผู้หญิงอยู่บน ISS ก็ไม่ใช่เรื่องแปลกอะไรอีกแล้ว การทำสิ่งที่ ง่ายกว่า ก่อนก็ดูจะสมเหตุสมผลโดยเฉพาะในเชิงการบริหารจัดการงบประมาณ และ การขนส่ง ทั้งหลายด้วย

ซึ่งร่างกายของมนุษย์ถูกพัฒนาขึ้นมาตามกระบวนการทางวิวัฒนาการ โดยความหลากหลายทางชีววิทยานี้ทำให้เราสามารถสืบเผ่าพันธุ์ และพัฒนาต่อไปในรุ่นที่ดีขึ้น ได้โดยการคัดเลือกโดยธรรมชาติ แต่อย่าลืมว่ามนุษย์นั้น เป็นสิ่งมีชีวิตที่ท้าทายศักยภาพด้านร่างกายมาตลอด

A Girl and an Astronaut ถ้าจากส่วนตัวฉันมองว่าอย่างน้อยก็คือมากกว่าสัตว์ประเภทอื่น ๆ อาจจะด้วยปัจจัยด้านสังคมประกอบเข้าด้วย เอเลียด คิปโชเกก็เพิ่งจะทำลายสถิติการวิ่งมาราธอนต่ำกว่าสองชั่วโมงไป  ดังนั้นถ้ามนุษย์จะต้องเผชิญ กับขีดจำกัดด้านร่างกายในการทำอะไร ก็อย่าได้ไปน้อยเนื้อต่ำใจว่าทำไมคิปโชเกทำได้แต่เราทำไม่ได้ แต่ควรจะยินดีกับเพื่อนมนุษย์ที่ได้บันทึกการทำลายข้อจำกัดนี้เพื่อท้าทายให้คนอื่นทำอีก

ทางธรรมชาติไม่ได้ใจร้ายให้ผู้หญิงไปอวกาศได้ยากขึ้นหรอก เพียงแต่มันไม่เคยอยู่ในตัวแปรของการเลือกสรรโดยธรรมชาติต่างหาก ธรรมชาติไม่ได้คิดว่าการมีประจำเดือนในอวกาศมันเลอะเทอะเพราะธรรมชาติไม่ได้ออกแบบมาให้ขึ้นไปอวกาศ การทำสิ่งที่ท้าทายขีดจำกัดของธรรมชาตินั้นจึงต้องค่อยเป็นค่อยไป

นักบินอวกาศหญิง เฉยมีดราม่า

รีวิวA Girl and an Astronaut ซึ่งในก่อนหน้านี้มีประเด็นว่า NASA ยกเลิกการทำ สเปซวอล์ค โดยนักบินอวกาศหญิงล้วนในเดือนมีนาคม ซึ่งเราก็เอามาเล่าในบทความ ทำไมการยกเลิก EVA โดยนักบินอวกาศหญิงล้วน ไม่ควรเป็นประเด็นดราม่า ให้อธิบายคร่าว ๆ ก็คือตอนนั้นคุณ แอนน์ แมคเคลน เธอใส่ชุด EVA ที่ต้องใส่ออกไปนอกยานแล้วหลวม ทำให้ปฏิบัติงานได้ไม่สะดวกนั่นเอง ซึ่งก็ได้สร้างกระแสด้านลบบน สื่อสังคม ว่า

แล้วทำไมไม่มีชุดไซส์ผู้หญิง ซึ่งเหตุผลก็คือชุด EVA นั้นถูกพัฒนาขึ้นมาโดยอ้างอิงทางสถิติ และบริหารจัดการภายใต้ NASA ISS Payload Operation Center ที่ต้องคำนึงถึงค่าใช้จ่าย ในการส่งขึ้นไป ทำให้ ISS ไม่สามารถมีชุดทุกไซส์สำหรับทุกคนได้ เรื่องนี้จึงไม่ควรเป็นดราม่าเลย

นักอวกาศหญิงทีมแรกของโลกใน 18 ตุลาคม 2019 ซึ่งก็ปกติที่นักบินอวกาศจะมีการออกไปนอกยานเพื่อทำการซ่อมแซมระบบต่าง ๆ ของสถานีอวกาศนานาชาติ ตารางวันนี้ คริสติน่า คอช และ เจสสิก้า เมียร์ สองนักบินอวกาศหญิงก็ได้ถูกลงตารางให้ไป สเปซวอล์ค

เพื่อเปลี่ยนแบตเตอร์รี่ BCDU นอกตัวสถานี ปกติแล้ว NASA จะออกมาให้ข้อมูลกับภารกิจการ Spacewalk แต่ละครั้งโดยละเอียดอยู่แล้ว แต่ในครั้งนี้เราคาดว่าเนื่องจากมีประเด็นเรื่อง Female เข้ามา ทำให้ได้รับความสนใจเป็นพิเศษ แต่เดี๋ยวจะบอกว่าทำไมเราให้ความสำคัญผิดประเด็น

นักบินอวกาศหญิง เฉยมีดราม่า

แต่ ๆ เรายังมีอีกหลายข้อจำกัดที่ต้องก้าวข้าม ดังนั้นการรู้ว่า สเปซวอล์ค ครั้งนี้ไม่ได้มีอะไร โดยเฉพาะปัจจัยด้านร่างกายให้ก้าวข้ามก็ทำให้เราเข้าใจธรรมชาติที่มันเป็นจริง ๆ แม้การ สเปซวอล์ค โดย Koch และ Meir จะพิสูจน์ว่าการปฏิบัติภารกิจหญิงเดี่ยวในอวกาศนั้นเป็นไปได้ แต่มันก็ถูกพิสูจน์มาในหลายกรณี หลายครั้ง หลายรูปแบบแล้ว

A Girl and an Astronaut Netflix โดยมีการอ้างอิงจากข้อมูลของ NASA Press Relase ในทางสถิติ การ สเปซวอล์ค ครั้งนี้เป็นการทำ สเปซวอล์ค ครั้งที่ 43 ที่มีผู้หญิงในทีม และ Meir เองเธอก็เป็นหญิงคนที่ 15 ในโลกที่ได้ออกไป สเปซวอล์ค การ สเปซวอล์ค ครั้งนี้ จึงไม่ได้มีนัยอะไรในแง่ของการปลดล็อกข้อจำกัดด้านการสำรวจอวกาศของผู้หญิง หรือเป็นการบันทึกประวัติศาสตร์มากกว่าเป็น บันทึกความสำเร็จกันนะ

แต่ที่แน่ ๆ เราไม่ปฏิเสธว่าคำว่า การ สเปซวอล์ค โดยหญิงเดี่ยวครั้งแรก เป็นคำที่ฟังดูดีและอาจจะกระตุ้นความเท่าเทียมทางเพศ แต่สำหรับเราแล้ว การยอมรับความเท่าเทียมทางเพศคือการยอมรับในความหลากหลายและมองมันเป็นเรื่องปกติ สำหรับกรณีนี้เป็นเพียงแค่ ความหลากหลาย ในทางสถิติอย่างเดียวเท่านั้น

เพราะสุดท้าย ถ้าเรายังต้องมาแบ่งว่าภารกิจไหนเพศชายหรือหญิงก็แปลว่าเรายังต้องแบ่งเพศกันอยู่ดี เราไม่ไม่ได้ไม่เห็นด้วยกับการเฉลิมฉลองต่อการ สเปซวอล์ค โดยนักบินอวกาศหญิงทีมแรก แต่การเฉลิมฉลองด้วยเหตุผลที่ดี และตรงกับประเด็นที่เราอยากเฉลิมฉลองก็น่าจะเสริมกระบวนการคิดอย่างเป็นเหตุเป็นผลของเรามากขึ้น เพราะอย่างนี้ที่ความเป็นตำนานของนักบินอวกาศหญิง มีความดราม่า น้อย ๆ เลยช่วยเสริมให้เรื่องนี้ดูน่าสนใจมากขึ้นไปอีก

สิ่งที่ฉันชอบในเรื่องนี้

ถ้าถามว่าฉันชอบอะไรในเรื่องนี้ ซีรีส์ หญิงสาวกับนักบินอวกาศ สิ่งที่ฉันชอบก็คือ ฉันชอบเพลงประกอบภาพยนตร์ ซึ่งมีเพลงย้อนยุคดีๆ อยู่ในนั้น เช่น เพลงรักในอวกาศของ Flock of Seagulls และฉันก็มีความอินกับพวกรถคลาสสิกด้วย และเครื่องเล่นเทป ฉันคิดว่าถึงแม้เรื่องนี้จะม่ความผิดพลาดอะไรบ้างแต่ก็ไม่ได้เป็นปัญหาอะไรมากในการดู เพราะงั้นที่จะแนะนำก็คือ ดูแบบไม่ต้องคิดอะไรมาก มันจะสนุกเอง

แต่ฉันรู้สึกขอบคุณพวกเขา และผู้คนก็สวมชุดย้อนยุคตลอดเวลา ซึ่งมันทำให้เรื่องนี้ดูมีความคลาคสิคไปเลย และฉันก็สนุกกับแนวคิดบางอย่างสำหรับในอนาคต ที่มีทางข้าม AI ในครัวเรือน และฉันชอบเทคโนโลยีแบบซ่อนตัว มันดูลุ้นดี เมื่อกระสวยอวกาศปรากฏขึ้นอีกครั้งจากโหมดซ่อนตัว มันทำให้รู้สึกว่าเออเรื่องนี้มันก็มีฉากเจ๋ง ๆ อยู่นะ

แถมโดรนเคลื่อนย้ายตู้คอนเทนเนอร์ มันมีความเกินเบอร์ การตรวจสุขภาพ หัวใจจากระยะไกล และอวัยวะเทียมแบบปรับได้ 5555 อันนี้ฉันทึ่งจริง ๆ เรื่องนี้มีเทคโนโลยีที่น่าสนใจและสร้างสรรค์ และการถ่ายทำบางส่วนยอดเยี่ยมมาก ฉันไม่รู้ว่าถ่ายทำโดยโดรนหรือสร้างได้อย่างไร แต่ท้องฟ้าเกือบและฉากอวกาศเป็นอะไรที่ปลื้ม แถมเรื่องนี้มีตัวร้ายที่น่าสนใจ

สิ่งที่ฉันชอบในเรื่องนี้

ฉันชอบภาพที่ออกแนวทูโทนที่สำนักงานใหญ่ของคณะเผยแผ่ ซึ่งแสดงภาพชายคนหนึ่งถอยหลังไปในอวกาศ อาจจะเลยดาวเคราะห์ดวงหนึ่งไป ฉากนี้บอแกเลยว่าต้องตะลึงแน่นอน แล้วฉันคิดว่านักแสดงหญิงทั้งสองคนที่เล่นเป็น มาร์ทา เธอสวย เธอแซ่บ แต่สิ่งนี้ทำให้ฉันครุ่นคิดแบบงง ๆ ก็คือ ฉันเคยดูงานสร้างของโปแลนด์แค่สองเรื่องเท่านั้น เรื่องนี้และหนัง 365DNI ทั้งสามเรื่อง

และในผู้หญิงโปแลนด์ร่วมสมัยทั้งสองเรื่องก็แสดงภาพว่าได้ออกมาเซ็กซี่ทั้งหมด มีความ ลามก ปล่อยตัวมากเกินไป และดื่มสุรา เสพยาทางเพศ สื่อได้ถึงความมืดมึนบางอย่าง ฉันยอมรับเลยว่าพวกเธอเก่งจริง ๆ

ในฐานะผู้หญิง ฉันหวังว่านั่นจะไม่ใช่สิ่งที่หญิงสาวชาวโปแลนด์ร่วมสมัยชอบจริง ๆ เพราะมันแรงมากนะแก 5555 นอกจากนี้ สิ่งที่ชาวโปแลนด์หลงใหลในมอเตอร์ไซค์มาก เหมือนพวกเขาคือว่าการขี่มอเตอร์ไซค์เท่กว่ารถยนต์หรือมันมีความท้าทายหรือยังไง

ฉันชอบซีรีส์นี้ หญิงสาวกับนักบินอวกาศ สปอย แต่ ๆ ยกเว้นตอนจบจริง ๆ ซึ่งฉันรู้สึกว่าไม่จำเป็น และไม่เหมาะสม ฉันยังคิดว่ามันรวบรัดเกินไป เหมือนงบหมดอ่ะ และฉันคิดว่ามันพวกเธอเซ็กซี่โดยเฉพาะดวงตาของพวกเธอฉันชอบมีเสน่ห์ดี ในส่วนของเรื่องราวก็มีจุดสะดุดเล็กน้อย เช่น ในตอนจบ แต่ฉันมองข้ามมันไปได้เพราะฉันสนุกกับส่วนที่เหลือพอ ๆ ก็พอ

รีวิวหญิงสาวกับนักบินอวกาศ ตัวเรื่องหลัก ๆ เน้นความรัก

และตัวเรื่องหลักจริง ๆ เน้นเล่าเรื่อง A Girl and an Astronaut เรื่องย่อ ความสัมพันธ์รักสามเส้าของนักบินอวกาศ ที่แย่งสาวคนเดียวกัน แต่ก็ไม่ใช่หนังรักโรแมนติกอะไรอย่างที่คิด กลับรู้สึกว่าเป็นแนวหนังอีโรติกมากกว่า เพราะทั้งเรื่องเน้นนำเสนอฉาก SEX ซีนโจ๋งครึ่มมาก ระดับที่เรียกว่าเอากันทุกที่ สารพัดบรรยากาศ ใครที่กำลังมองหาซีรีส์แนวนี้เรื่องนี้ก็เหมาะนะ

รีวิวหญิงสาวกับนักบินอวกาศ ตัวเรื่องหลัก ๆ เน้นความรัก

แม้แต่ม้าหมุนในสวนสนุกก็ไม่เว้น หรือกระทั่งตัวเอกที่กลับมาโลกมาเจอคนรักตัวเองไปแต่งงานมีครอบครัวแล้วก็ยังจะให้มีฉากนอกใจต่างวัย 30 ปี กันอีก แล้วไม่ใช่แค่ครั้งเดียวยังมีตามมาซ้ำ ซึ่งก็ไม่เข้าใจเหมือนกันว่าทำไมต้องเน้นฉากพวกนี้หนักกันขนาดนี้ ถ้าเน้นฉากอีโรติกแต่แรกแล้วบอกว่าเป็นแนวนี้ก็อาจจะดีกว่าไม่ทำให้คนเข้าใจผิดแบบนี้ด้วยเลยอะเธอ

ฉากในอนาคต

A Girl and an Astronaut สปอย และส่วนฉากในอนาคตที่มีกะจุ๋มกระจิ๋ม ในเรื่องก็พยายามจำลองเมือง ในอนาคตแบบที่ดูแล้ววิสัยทัศน์ก็ยังไม่ได้แบบนั้น อย่างการที่ตัวละครยังใช้อุปกรณ์แบบมือถือทำโน่นนี่ หรือโดรนที่ ในเรื่องใช้บ่อยก็ยังหน้าตาดูเป็นโดรน

ในยุคนี้แหละ ฉากในห้องทดลองก็เหมือนถ้ำใต้ดินมากกว่าจ ะเป็นห้องทดลองโครงการนักบินอวกาศนี้จริง ๆ ซึ่งทั้งหมดนี้ก็ไม่ได้ทำให้รู้สึกเชื่อได้เลยว่านี่คืออนาคตปี 2052 อย่างที่เรื่องวางไว้

ฉากในอนาคต

อะสรุปเลยว่า นี่เป็นซีรีส์แนวไซไฟที่ค่อนข้างเละเทะเปะปะไปกับเรื่องรักสามเส้าน้ำเน่า โดยมีฉาก SEX กามค่อนข้างเยอะ โชว์เนื้อนมไข่จนเหมือนหนังอีโรติกมากกว่า พล็อตไซไฟลึกลับมีแค่ไว้แปะ ๆ หลอกรั้งคนดูไว้เท่านั้น แต่แทบทั้งเรื่องก็วนไปกับโลกยุคปัจจุบัน 2022 มากกว่าอนาคตที่ใส่ไว้กระจุ๋มกระจิ๋มเพราะงบไม่มี

แต่ก็ยังมีสิ่งดี ๆ สองสามอย่างที่ฉันสามารถพูดได้เกี่ยวกับซีรีส์นี้ การถ่ายทำที่ดี การออกแบบงานสร้างที่ดี และดนตรีประกอบที่ดี ฉันจึงชอบวิธีที่พวกเขาออกแบบว่าวอร์ซอว์จะมีหน้าตาเป็นอย่างไรในอีก 30 ปีข้างหน้า และสร้างเมืองย้อนยุคแห่งอนาคตจากช่วงตึกที่มีอยู่จากคอมมีไทม์

ซึ่งในพล็อตเรื่องรักสามเส้าไม่ใช่เรื่องใหม่ ถ้าลองนึกภาพดี ๆ มันก็เหมือนในเรื่อง Pearl Harbor ในปี 2023 และคุณสามารถแสดงรายการภาพยนตร์ ซีรีส์ 157 เรื่องที่เกี่ยวข้องกับบริษัทรัสเซียอันตรายที่ทำงานในโครงการอวกาศลับสุดยอด แม้จะเขียนได้ดี โครงเรื่องเหล่านี้ก็ยังน่าสนใจ ก็ถือได้ว่าเรื่องนี้ไม่ได้แย่และไม่ได้ดี อยู่ตรงกลางก็อย่างที่เคยบอกว่า ถ้าใครที่ชอบดูแนวรัก แซ่บ ๆ เร้าร้อน เรื่องนี้ก็น่าจะเหมาะเหมือนกันนะ

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *