รีวิวหนัง The Takedown เดอะเทคดาวน์ แนวแอ็คชั่นคอมเมดี้

รีวิวหนัง The Takedown

มาในวันนี้มีเรามีหนังกระแสดีเรื่อง รีวิวหนัง The Takedown เดอะเทคดาวน์ หนังแนวแอ็คชั่นคอมเมดี้จากฝรั่งเศส มาฝากค่ะ และหนังได้นักแสดงนำผิวสีหุ่นล่ำ Omar Sy (โอมาร์ ซี) หรือจอมโจรลูแปง จากซีรีส์ยอดฮิต Lupin (2021) แหมกระแสดีนักแสดงนำปังอย่างนี้ต้องลองดูสักหน่อย แต่พอได้ดูแล้ว สนุกอย่างที่คิด ควรค่าแก่การดูจริงไหม ไปติดตามกับรีวิวภาพยนตร์เรื่องนี้กันค่ะ ช่องทางการรับชม ดูหนังออนไลน์

หนังแอ็กชันติดตลกจากประเทศฝรั่งเศส

รีวิวหนัง The Takedown

รีวิวหนัง The Takedown เรื่องย่อ

หนังใหม่แนะนำ ภาพยนตร์แอ็คชั่นคอมเมดี้ เรื่อง The Takedown เดอะเทคดาวน์ เรื่องย่อ  หรือชื่อฝรั่งเศส Loin du périph ผลงานของผู้กำกับหลุยส์ ลีเทอร์เรีย เจ้าของผลงาน Now You See Me (2013) และ The Transporter (2002, 2005)

บอกเล่าเรื่องราวของสองตำรวจที่มีนิสัยต่างกันราวฟ้ากับดิน เมื่อคนต่างขั้วต้องมาจับมือร่วมกันไขคดีการเสียชีวิตปริศนาของหนุ่มค้ายาในเมืองชนบทของประเทศฝรั่งเศส

เรื่องราวชวนหัวชวนฮา บู๊ระห่ำจึงเกิดขึ้น เรื่องราวจะเป็นอย่างไรต้องไปติดตามทาง Netflix หนังยาว 2 ชั่วโมง มีพากย์ไทย

รีวิวหนัง The Takedown

หนังภาคแรกของเรื่องนี้ไม่ได้ฉายในไทย แล้วก็ไม่มีในเน็ตฟลิกซ์ให้ดูด้วย แต่ผู้ชมก็สามารถดูเรื่องนี้ได้โดยไม่มีปัญหาแต่อย่างใด แค่อาจจะงงนิดๆ เวลาเนื้อเรื่องเท้าความกันนิดหน่อย

ซึ่งก็ไม่ได้สำคัญอะไรกับการเดินเรื่องนัก ด้วยพล็อตเรื่องสูตรสำเร็จที่มีทำออกมาเยอะแยะมากแล้วกับแนวคู่หูตำรวจนิสัยต่างกัน

แต่พอมาทำภารกิจด้วยกันกลับจูนเข้าขากันเป็นอย่างดี ซึ่งเรื่องนี้ก็มาในแนวคล้ายๆ กัน แต่จุดแตกต่างหน่อยก็ตรงที่ อุสมาน

พระเอกหลักคือหนุ่มผิวดำที่เล่นโดย Omar Sy คนที่เล่นซีรีส์ลูปินในเน็ตฟลิกซ์ด้วยเช่นกัน ซึ่งบทหนุ่มผิวดำในเรื่องนี้คืออิงกับปัญหาการเหยียดเชื้อชาติในฝรั่งเศสที่ยังมีมาตลอดแก้ไม่หาย

แล้วเรื่องในภาคนี้ก็หยิบจับเอาประเด็นนี้มาเล่นให้เรื่องราวใหญ่โตเข้าไปอีก โดยอาศัยความเป็นตำรวจผิวดำที่แตกต่างจากส่วนใหญ่ในฝรั่งเศสมาผูกเข้ากับเรื่องการเมืองในวงการตำรวจ รวมถึงการเมืองท้องถิ่นที่ลุกลามไปถึงระดับชาติ

ด้วยนโยบายไม่ต้องรับผู้อพยพของฝ่ายขวาที่เป็นประเด็นอยู่จริงๆ (ฝรั่งเศสมีปัญหากับการเปิดรับผู้อพยพมาก) ซึ่งฝ่ายที่ต่อต้านสิ่งเหล่านี้ก็ยึดถือว่าตัวเองคือผู้รักชาติ และคนผิวดำอย่างอุสมานเองก็คือตำรวจที่ต้องพบเจอกับเรื่องเหยียดเหล่านี้ตลอดเวลานั่นเอง

บทและการดำเนินเรื่อง

ถึงเรื่องจะมาแนวติดตลกก็จริง แต่ตัวเนื้อหาก็ค่อนข้างเข้มและโหดเอาเรื่อง อย่างฉากศพผ่าครึ่งในตอนแรกนี่ทำออกมาชวนแหวะมากๆ โดยไม่มีการเซ็นหรือหลบมุมใดๆ ทั้งสิ้น

แล้วก็ไม่ใช่แค่ฉากแบบนี้ยังมีฉากอื่นๆ อีกอย่างคนโดนปาดหัวขาดสดๆ โดยเป็นมุกตลกแบบโหดๆ ซึ่งหนังไม่มีเซ็นเซอร์อะไรเลย แบบต้องการให้คนเห็นเต็มตาแหวะๆ กันไปเลย ซึ่

งผู้ใหญ่ดูได้แต่นี่ไม่ใช่หนังครอบครัวที่เปิดให้เด็กดูด้วยแน่ๆ
นอกจากนั้นแล้วเรื่องยังหยิบเอาเรื่องโป๊เปลือยมาเป็นมุกตลกในเรื่องเยอะพอสมควร อย่างฉากพระเอกไปสอบปากคำนางระบำเปลือยในบาร์ที่เปิดนมให้ดูตลอด

หรือฉากบุกเข้าบ้านตัวร้ายไปเจอเมียอาบน้ำก็หยุดดูเห็นก้นเห็นนมกันยาวๆ เลย คงเพราะหนังฝรั่งเศสมักเล่นฉากพวกนี้อยู่แล้วเป็นปกติด้วย

ซึ่งคนที่ชอบก็คงเพลินๆ thetakedown imdb กับอะไรแบบนี้ แต่ส่วนตัวมองว่ามันยัดมาแบบเน้นๆ ไม่เกี่ยวกับเรื่องสักเท่าไหร่ เหมือนแค่อยากหาจังหวะขายอะไรแบบนี้เท่านั้น

งานภาพออกมาสวยเลย มุมกล้องดี จัดแสงได้ดี

ในส่วนที่ต้องชมจริงๆ คือฉากแอ็กชั่นมากกว่า โอเคนี่มันหนังตลกเราก็คงคาดหวังฉากแอ็กชั่นระห่ำสุดๆ แบบแนวตำรวจสายตรงเรื่องอื่นไม่ได้

แต่เรื่องนี้ก็มีการครีเอทฉากแอ็กชั่นที่ไล่จากระดับเบาไปหาหนักได้ดี โดยตัวอุสมานเองคือสายลุยตุ๊บตั่บกับเหล่าร้ายตัวเๆ เยอะ ส่วนฟรองซัวคือสายบุ๋นที่ชอบคิดวิธีการอะไรแปลกๆ ออกมาใช้เฉพาะหน้า

โดยมีฉากเบาๆ ที่ทำออกมาแล้วสนุกอย่างการไล่จับคนร้ายที่ขับรถคาร์ทหนีในซูเปอร์มาเก็ต ที่ตัวเอกก็ต้องขับรถคาร์ทไล่วิ่งตามไปด้วย แล้วก็มีกินกล้วยโยนใส่กันแบบเกมมาริโอคาร์ทที่แอบฮานิดๆ ซึ่งเรื่องหยอดแอ็กชั่นเบาๆ มาอยู่เรื่อยๆ

ทำให้หนังมีอะไรที่พอดูได้เรื่อยๆ ก่อนที่จะไปจัดหนักเอาช่วงหลังกับฉากขับรถไล่ล่ากันบนถนนเก่าริมทะเล ซึ่งหวาดเสียวใช้ได้

แล้วก็ลงทุนระเบิดรถจริงจังแบบทำให้เห็นเลยว่านี่ไม่ใช่หนังแอ็กชั่นทุนต่ำ และฉากสุดท้ายของเรื่องก็อลังการพอดูเลยกับการสร้างปมตัวร้ายเหยียดผิวที่คิดแผนใหญ่โตเกือบๆ

จะเป็นระดับน้องๆ บอส 007 ก็ไม่ปาน ซึ่งถ้าผู้ชมดูผ่านมาถึงช่วงหลังของเรื่องได้นี่คือหนังแอ็กชั่นที่ดูแล้วบันเทิงสนุกใช้ได้เลย

การแสดงและการออกแบบตัวละคร

มาที่เรื่องการแสดงกันก่อน ในส่วนนี้ถือว่าทำธรรมดาทั่วไปมากๆ แต่ก็ไม่ได้ถึงกับแย่ ก็ตามสไตบ์หนังแนวนี้ ไม่ต้องใช้เทคนิคการแสดงอะไรมากมาย แต่ส่วนตัวผมค่อนข้างชอบการแสดงของ Laurent Lafitte ที่รับบทเป็นคู่หูพระเอก สายชิว สายฮา คนนี้แสดงดีอยู่ ปั่นดี

แต่บางฉากก็มีมุขแป๊กไม่ค่อยฮาเหมือนกัน แต่โดยรวมแล้วดี ส่วนการแสดงของ Omar Sy พระเอกของเรื่อง คนนี้ก็แสดงเหมือนเดิมเลย เหมือนในซีรีส์ Lupin แบบเดียวกันเป๊ะ หน้านิ่งๆ ลุคเงียบๆหน่อย ส่วนนักแสดง the takedownmovie Netflix คนอื่นๆก็ทั่วไป แสดงได้ตามมาตรฐานของหนังแนวนี้

ต่อมาด้านการออกแบบตัวละคร ด้านนี้ถือว่าทั่วไป ผมชอบแค่ตัวละครคู่หูพระเอก ตัวละครนี้ออกแบบมาดี เป็นตัวปั่นตัวโจ๊ก มาคู่กับพระเอกที่เงียบหน่อย แต่ก็ติดฮา ก็ถือว่าทำได้ดี

François Monge (รับบทโดย Laurent Lafitte)

ภาพยนตร์เรื่อง : The Takedown เดอะเทคดาวน์ (2022)

ประเภท : ภาพยนตร์ฝรั่งเศส, แอ็คชั่น, ผจญภัย, คอมเมดี้, อาชญากรรม

ทีมผู้สร้าง : กำกับโดย หลุยส์ ลีเทอร์เรีย, เขียนบทโดย สเตฟาน คาซานด์เจียน

นักแสดง : โอมาร์ ซี, โลรองต์ ลาฟิตต์, อีเซีย อีเฌอลัง, ดีมีทรี สโตร์ฮอจ, สเตฟาน เปเซราต์, โจ เพรสเตีย, ฟลาวี เปออง, แคเธอริน ชอบอับคาริออง, ดาวิด บาน, เลอา โดแวร์ญ, ซิลเวีย แบร์เฌ

ระยะเวลาการรับชม : 121 นาที

ช่องทางการรับชม : Netflix

ภาษาในการรับชม : เสียงพากย์ : ไทย, อังกฤษ, ฝรั่งเศส | คำบรรยาย : ไทย, จีน, อังกฤษ, ฝรั่งเศส

ระดับความเหมาะสม : 18+

คะแนนจากผู้เขียน : 6/10

งานภาพและการโปรดักชั่น

ในด้านงานภาพนั้น ถือว่าทำได้ดีมากสำหรับหนังแนวนี้ เรื่องนี้น่าจะทุนสร้างเยอะพอสมควร เพราะงานภาพออกมาสวยเลย มุมกล้องดี จัดแสงได้ดี โทนสีที่ใช้ก็ดี สีสันสดใส

ทำให้บรรยากาศในหนังดูเป็นมิตรมากขึ้น แต่มันเจ๋งตรงที่บางฉากมันก็มีความสยองขวัญและติดเรท แต่สีสันของภาพกลับสดใสสวนทางกัน ส่วนนี้ผมชอบมากๆ ต่อมาส่วนสุดท้าย ด้านการโปรดักชั่นต่างๆ ทั้งเสื้อผ้าหน้าผมตัวละคร เทคนิคพิเศษ CGI เพลงประกอบ

การตัดต่อ การลำดับเสียง ในส่วนนี้ผมไม่มีอะไรจะติเลย งานโปรดักชั่นของหนังเรื่องนี้แจ่มมากๆ และถือเป็นสิ่งที่ดีที่สุดของหนังเรื่องนี้เลย คือมันอลังการเกินว่าหนังแอ็กชัน-คอมเมดี้ทั่วไป ส่วนนี้ไม่มีอะไรจะติจริงๆ ทำได้ดีมากแล้ว

Ousmane Diakité (รับบทโดย Omar Sy)

สำหรับหนังเรื่องนี้กลายเป็น หนังตลก ที่เรียกเสียงฮาได้พอสมควร เพราะได้นักแสดงนำ ที่มากฝีมืออย่าง thetakedown omar sy แต่เมื่อเข้าถึงความโหดของหนังเรื่องนี้

ก็ถือว่าโหดแบบเอาเรื่องเหมือนกัน มันจึงเป็นหนังที่เรียกได้ว่า มีทุกอารมณ์แบบจัดเต็ม ให้เราได้เข้าถึงจริง ๆ และที่สำคัญ มันไม่เหมาะสำหรับเด็กอายุต่ำกว่า 19 ปี เพราะมีฉากความรุนแรง และเรื่องโป๊เปลือย ให้เห็นในหนังแบบเต็ม ๆ อยู่เสมอนั้นเอง

รีวิวหนัง The Takedown บทสรุป

ตัวร้ายของเรื่องที่ร้ายแบบสุด ความน่าสนใจของหนัง ไม่ได้มีเพียงแค่ส่วนของตำรวจเท่านั้น แต่ว่าตัวร้ายก็ร้ายไม่เบาเลย สำหรับหนังเรื่องนี้ ร้ายแบบฉลาดตามจับตัวได้ยากอีกด้วย

แต่ที่แน่ ๆ คือมันเป็นตัวร้าย ที่เหยียดผิวอย่าชัดเจน จึงทำให้หนังยิ่งน่าติดตาม และมีหลายฉากตัวร้ายเด่นกว่าตัวเอก ในเรื่องกันไปเลยทีเดียว และสุดท้ายตัวร้ายที่ว่าแน่ จะลงเอยอย่างไร ต้องติดตาม thetakedown 2022 กันเองเท่านั้น

Laurent Lafitte ที่รับบทเป็นคู่หูพระเอก

มีเรื่องราวความรักบ้างเล็กน้อย หนังเรื่องนี้มีการใส่เรื่องราว ที่เอ่ยถึงตำรวจสาวจากชนบท ที่เป็นความรักของหนึ่งในคู่หูตำรวจ ซึ่งทำให้หนังมีความครบรสมากยิ่งขึ้น

และทำให้ทุกคนได้เห็นว่า หนังเรื่องนี้ ก็มีนางเอกของเรื่องด้วยเช่นกัน แม้ว่าจะไม่ได้โดดเด่นอะไรมากมาย แต่ก็พอมาเพิ่มความน่าสนใจให้หนัง ได้ในส่วนหนึ่งนั้นเอง

หนังที่ถูกเรียกว่าเป็นหนังแอคชันสำเร็จรูป สาเหตุที่หนังเรื่องนี้ถูกเรียกว่า เป็นหนังแอคชันสำเร็จรูป ก็เพราะว่ามันมีความเป็นแอคชัน แบบฉบับตามหนังแอคชันทั่ว ๆ ไปนั้นเอง

แม้ว่าบางฉากอาจจะโหดบ้างเบาบ้าง แต่โดยรวมเราก็สามารถหาความเป็นแอคชัน จากหนังแนวนี้ได้ไม่ยากเท่าไหร่ แต่โดยรวม… ความน่าสนใจของหนังเรื่องนี้ ก็จะอยู่ที่เรื่องราวความครบรสของหนัง ให้เราได้รับชมกันนั้นเอง

ความรู้สึกหลังรับชม

จากภาพโปสเตอร์ของภาพยนตร์ ดูแล้วบอกเลยว่าคาดหวังว่าหนังจะต้องมีความแอ็คชั่น บู๊ระห่ำ ตลอดทั้งเรื่อง รถชน ระเบิดตูมตามแน่นแน่นอน ซึ่งหนังก็มีซีนแอ็คชั่นตอนต้น

ตอนกลาง ตอนเกือบท้าย และตอนท้ายเรื่อง จะเรียกว่ามีต่อเนื่องก็ว่าได้ แต่ความสม่ำเสมอของความมันส์ลุ้นระทึก นั้นออกแนวเบาบาง เพราะแอ็คชั่นซีนส่วนใหญ่

ดูเรื่อย ๆ เฉื่อย ๆ ไม่ค่อยสมจริง จะมีก็ตอนท้ายเรื่องที่รถวิ่งริมเขา อันนั้นค่อยลุ้นมันหน่อย แต่จากนั้นก็แผ่วอีก น่าเสียดายการแสดงของนักแสดงนำ เพราะน่าจะแสดงไว้ดี แต่พอมาตัดต่อ ดูแล้วแป้ก ไม่ค่อยมันส์เท่าไร่

รีวิวหนัง The Takedown

และทั้งหมดนี้คือความน่าสนใจเพิ่มเติม ที่มีอยู่ภายในหนังเรื่องนี้ ที่ต้องบอกเลยว่า มันก็เป็นหนังที่น่าดูอีกเรื่องหนึ่ง แต่มันอาจจะต้องดูกัน เฉพาะในกลุ่มผู้ใหญ่ไม่ใช่หนังของครอบครัวอย่างแน่นอน ดังนั้นหากอยากดู แนะนำดูเป็นส่วนตัว ไม่ชวนลูกหลานมาดูด้วยจะดีกว่านั้นเอง เป็นอย่างไรกันบ้าง สำหรับหนังจากทางฝรั่งเศสอย่าง เดอะเทคดาวน์

ที่จะมาเอาใจคอหนังแอคชันกันได้พอสมควร รวมถึง หนังไทย netflix แนวต่าง ๆ ให้เราได้เข้าถึงแบบเข้าใจบ้างไม่เข้าใจบ้าง ให้ได้ติดตาม ที่ทางเว็บนำมารีวิว ให้ทุกคนในครั้งนี้ ซึ่งหาทุกคนอยากรู้ว่า หนังเรื่องนี้จะเป็นอย่างไร แนะนำเลยว่าลองเปิดเข้าดูด้วยตัวเองเท่านั้น ถึงจะดีที่สุด และในครั้งหน้า ทางเว็บจะนำเอาเรื่องราว ของหนังอะไรมารีวิวกันอีก

สามารถติดตามเว็บไว้ได้เลย หรือจะลองเปิดเข้าดูในเว็บหรือ thetakedown book ก็มีเรื่องราวของหนัง ที่ลงไว้แล้วให้เข้าถึงด้วยเช่นเดียวกัน ชอบเรื่องไหน

หลังจากอ่านรีวิวกันแล้ว ก็เปิดเข้าดูกันได้เลย หรือสามารถรับชม on the other side of the tracks (2012 watch online) หนังที่น่าสนใจอีกเรื่อง ที่มีเนื้อหาคล้าย ๆ กันได้ทาง Netflix แล้วจะรู้ว่าหนังที่ทางเว็บเลือกมารีวิวนั้น มีแต่เรื่องราวที่น่าสนใจกันอย่างแน่นอน

สุดท้ายแล้วเราขอฝากรีวิวหนัง The Time Machine กระสวยแซงเวลา (2002) จะเป็นอย่างไรถ้ามนุษย์สามารถ คิดค้นเครื่องไทม์แมทชีนได้

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *