รีวิว ip man4

รีวิว ip man4

หนังใหม่แนะนำ หากพูดถึงหนังต่อสู้สไตล์ศิลปะป้องกันตัวผมก็คงอยากจะยกให้เรื่องนี้เลยครับ เนื้อเรื่องสนุก ฮาบ้างตลกมาก แต่ก็ไม่เสียอารมเลย เพราะฉากต่อสู้คือสุดจริง หนังเรื่องนี้เป็นภาคจบของยิปมัน ซึ่งถ้าใครเคยดูภาคเก่าทั้ง 3 ภาคแล้ว คงรู้ถึงแนวหนัง และ ความสนุกของยิปมัน

แต่ถ้าใครยังไม่เคยดูผมแนะนำได้เลยว่าถ้าคุณชอบหนังเกี่ยวกับการต่อสู้หรือศิลปะการต่อสู้ ผมแนะนำเรื่องนี้เลยครับหนังภาคนี้ผมคิดว่าทำออกมาได้ดีมากครับ ไม่ว่าจะเป็นฉากบู๊ถึงแม้จะมีไม่มากแต่ก็มีความสนุก และ มันส์มาก ส่วนเรื่องของฉากอารมณ์ในหนังที่สะท้อนเรื่องพ่อกับลูกก็สามารถทำให้ออกมาเข้าถึง และ อินไปด้วยครับ รวม ๆ แล้วเป็นหนังที่ดีเรื่องหนึ่งเลยครับ

ส ปอย หนัง ภาคนี้เป็นภาคสุดของยิปมันจริง แบบไม่ต้องมีค้างคาอะไรกันอีก เพราะหนังเล่าช่วงเวลาสุดท้ายของยิปมันในขณะที่เขาได้รับการตรวจพบว่าเป็นมะเร็งในลำคอที่เป็นผลจากการสูบบุหรี่ ซึ่งในขณะเดียวกันบรู๊ซลีลูกศิษย์คนดังของยิปมัน ได้ไปเปิดสอนมวยจีนในอเมริกาให้กับฝรั่ง และ แปลตำราจีนเป็นภาษาอังกฤษ ซึ่งนำความไม่พอใจมาสู่สมาคมชาวจีนหัวโบราณในอเมริกาที่ไม่อยากเผยแพร่กังฟูให้กับชาติตะวันตก แต่ยิปมันเลือกที่จะปกป้องเขา จนทำให้บรรดาอาจารย์มวยจีนในไชน่าทาวน์ไม่ยอมรับทั้งคู่ ดูหนังออนไลน์ ดูหนังฟรี

รีวิว ip man4

รีวิว ip man4

รีวิว ip man4 หนังเว้นช่วงห่างจาก Ip Man 3 (2015) ถึง 4 ปี จนแฟน ๆ ต่างคิดว่าปิดฉากอาจารย์ยิปมันไปแบบไตรภาคแล้ว เพราะเนื้อหาเริ่มออกทะเลแล้ว ขนาดเอาไมค์ ไทสัน มาใส่เป็นตัวร้ายในภาค 3 แต่เมื่อผู้สร้างออกข่าวว่าจะมีภาค 4 ออกมาในชื่อว่า Finale ก็เท่ากับประกาศอย่างเป็นทางการว่านี่คือภาคสุดท้ายจริงแท้แน่นอน

ก่อนดูก็คิดว่าจะเอาอะไรมาเล่าอีกนะในภาคนี้ แต่แค่ผ่านไปครึ่งชั่วโมงแรก ก็นึกชื่นชมกับบทภาพยนตร์ของภาคนี้ ที่เลือกเปิดฉากแบบดราม่าเข้มข้น หนังเล่าเรื่องราวในบั้นปลายชีวิตของอาจารย์ยิปมันที่กลายเป็นพ่อเลี้ยงเดี่ยว ต้องดูแลจิน ลูกชายเพียงลำพัง นับว่าเป็นภาระที่ยิปมันเป็นกังวลอยู่เรื่องเดียว

เพราะกิจการโรงเรียนสอนมวย ก็มีลูกศิษย์รุ่นเก่ารับช่วงงานสอนไป ยิปมันอยากส่งเสียลูกให้เรียนจบก่อนที่ตัวเองจะเป็นอะไรไป เพราะตรวจพบว่าเป็นมะเร็งที่คอขั้นรุนแรง แต่ความต้องการของจินกลับสวนทางกับยิปมัน เพราะเขารักที่จะเป็นครูฝึกมวยอย่างพ่อ แต่พ่ออยากให้ลูกเรียนจบมีการศึกษา

ปี 2008 ดอนนี่ เยน หรือเจิ้น จื่อตัน เริ่มรับบทบาทเป็นอาจารย์ยิปมัน ใน Ip Man ชื่อหนังที่ใคร ๆ ก็อ่านว่า ไอพี แมน หนังกำกับโดย วิลสัน ยิป ผู้กำกับคู่บุญที่ประสบความสำเร็จร่วมกันมาจาก SPL (2005) ถึงวันนี้ก็ 12 ปีแล้ว ที่ดอนนี่ เยน ได้สวมบทบาทเป็นอาจารย์ยิปมัน ถ้านับเวลาก็พอ ๆ กับช่วงเวลาที่โรเบิร์ต ดาวนีย์ จูเนียร์ ได้สวมเกราะ Iron Man นั่นล่ะ ก็นับว่าสมควรแก่เวลา แม้ว่าภาพลักษณ์ของ ดอนนี่ เยน ยังดูฟิตเปรี๊ยะ แต่อายุแกก็ปาไป 57 ปีแล้วนะ

ภาคนี้นับว่าเป็นภาคที่มีสัดส่วนทางด้านดราม่ามากขึ้น ตั้งแต่ปัญหาไม่เข้าใจกันระหว่างยิปมันกับลูกชาย และ ประธานหว่าน จงหัว ที่อยากให้โยนาห์ ลูกสาวรับถ่ายทอดวิชามวยจีนต่อจากตน แต่โยนาห์อยากเต้นเชียร์ลีดเดอร์ และ ปัญหาใหญ่คือการที่อาจารย์ยิปมันไม่ได้รับการต้อนรับจากบรรดาครูฝึกมวยในไชนาทาวน์ เหตุเพราะยิปมันเห็นชอบที่ บรู๊ซ ลี ศิษย์ของตนนำวิชามวยจีนไปเขียนตำราเป็นภาษาอังกฤษ และ ถ่ายทอดให้กับชาวอเมริกัน

ซึ่งบรรดาครูมวยคิดว่าวิทยายุทธจีนควรที่จะถ่ายทอดให้กับลูกหลานชาวจีนเท่านั้น แต่ด้วยเส้นเรื่องดราม่าก็นำพาไปหาฉากประมือได้อย่างลงตัว ไม่ดูเหมือนพยายามยัดเยียดฉากต่อสู้ลงไปในหนังดราม่า ที่ชอบมาก ๆ อีกอย่างว่า แม้หนังจะปูดราม่าพ่อลูกมาตั้งแต่ต้นเรื่อง แต่สุดท้ายพอถึงจุดพีกหนังก็ไม่ได้นำเสนอออกมาเป็นฉากดราม่าขยี้อารมณ์คนดู เป็นแค่การบอกเล่าผ่าน ๆ แค่นั้นพอ

เรื่องย่อ

รีวิว ip man4

หนังภาคนี้ได้เล่าถึงเรื่องราวของอาจารย์ยิปมัน รับบทโดย Donnie Yen(ดอนนี่ เยน) ที่เปิดสำนักสอนมวยจีนแต่ไม่ค่อยมีรายได้ และ ลูกชายของเขากำลังจะเข้าเรียนโรงเรียน อาจารย์ยิปมันอยากให้ลูกชายเข้าโรงเรียนที่ต่างประเทศ ประกอบกับลูกศิษย์ของเขาคือบรู๊ซ ลี ได้ส่งบัตรเชิญ และ ตัวเครื่องบินให้ไปชมการแสดงคาราเต้ที่อเมริกา

อาจารย์ยิปมันจึงใช้โอกาสนี้ไปหาโรงเรียนให้ลูกชายแต่การที่จะเข้าโรงเรียนที่อเมริกาได้ต้องได้รับใบอนุญาติจากสมาคมคนจีนในอเมริกา เหตุการณ์ที่ไม่คาดคิดก็เกิดขึ้นเมื่อสมาคมคนจีนในอเมริกาไม่พอใจที่บรู๊ซ ลี ไปถ่ายทอดวิชามวยจีนให้กับชาวต่างชาติ รวมถึงวิชามวยจีนถูกดูถูกจากทหารอเมริกา จะเป็นอย่างไรเมื่อยิปมันต้องกอบกู้ชื่อเสียง และ ไม่ให้ใครมาดูถูกวิชามวยจีนได้ ยิปมัน 4 เดอะไฟนอล

ความรู้สึกหลังรับชม

รีวิว ip man4

ภาคนี้เอาจริง ๆ ก็เดินเรื่องคล้าย ๆ กับ ภาคก่อน ๆ ที่ว่าด้วยเรื่องการต่อสู้เพื่อการยอมรับ ขจัดคนพาล ทำเพื่อความยุติธรรมของอาจารย์ยิปมัน โดยรวมเส้นเรื่องในแง่อารมณ์การดูก็ไม่ต่างกับภาคก่อน ๆ มากนัก แต่ประเด็นที่หยิบยกมา ก็อาจจะต่างบริบทกันออกไป โดยภาคนี้เรื่องราวไปเกิดที่อเมริกา ใครชอบภาคก่อน ๆ น่าจะชอบภาคนี้ได้ไม่ยาก

แม้ว่าหนังจะปูดราม่าเยอะกว่าฉากแอ็กชั่นก็ตาม แต่หนังก็ใส่ฉากต่อสู้ขนาดยาวมาทดแทน ซึ่งทุกฉากก็ยังดูสนุกตื่นเต้นสวยงามด้วยคิวบู๊จากการออกแบบของหยวนวูปิงเจ้าเก่า โดยคราวนี้แบ่งให้คิวบู๊ให้กับลูกศิษย์บรู๊ซลี ที่แสดงโดย “เฉิน กั๋วคุน“ ที่ก่อนนี้ก็ได้แสดงเป็นบรู๊ซลีมาแล้วเพราะหน้าตาเขาเหมือนมากในหนัง “บรู๊ซ ลี ตำนานนักสู้สะท้านโลก” (ดูได้ผ่านเน็ตฟลิกซ์คลิกที่นี่)

สำหรับในเรื่องนี้เขาได้มีซีนแสดงฝีมือตามสไตล์บรู๊ซลียาว ๆ จนครบอย่างหมัด 1 นิ้ว ท่ากระโดดเตะประจำตัว หรือการใช้กระบองสองท่อนอันเป็นเอกลักษณ์ แต่ว่าน่าเสียดายที่ทำออกมาแค่ฉากเดียวแล้วจบเเลย หนังใช้ตัวบรู๊ซลีเพื่อมาเปิดเรื่องให้ยิปมันมาอเมริกาเท่านั้น ยังไม่ได้เข้ามาร่วมต่อสู้หลักในเรื่องราวภาคนี้

ซึ่งก่อนดูคาดหวังว่าจะได้เห็นเขากับยิปมันได้แสดงฉากบู๊ร่วมกัน กลายเป็นผิดหวังเหมือนกันที่หนังเปิดหน้ามาด้วยเรื่องบรู๊ซลี แต่กลับกันตัวบรู๊ซลีออกจากเรื่องราวหลักไปทั้งหมด ซึ่งแม้จะเข้าใจได้ว่าเพื่อให้บทหลักยังคงอยู่ที่ยิปมันกับช่วงสุดท้ายของชีวิต แต่อย่างน้อยก็น่าจะมีสักฉากใส่มาให้แฟน ๆ ได้สมใจบ้างก็ยังดีครับ แต่นี่ไม่มีเลยจริง ๆ ยิ ป มัน ภาค 6

รีวิว ip man4

รีวิว ip man4 หนังมีความยาว 1 ชั่วโมง 45 นาที มีฉากต่อสู้แค่ 5 ครั้งเท่านั้น แต่เป็น 5 ฉากที่คุณภาพอัดแน่น เป็นการต่อสู้ตัวต่อตัวที่ลากยาวทุกฉาก รุนแรง หนักหน่วง ซึ่งต้องยกความดีความชอบให้กับ หยวน วูปิง อีกครั้งปรมาจารย์ทางด้านนี้จริง ๆ ที่ไปร่วมงานเรื่องไหน เราก็ได้ชมผลงานสร้างสรรค์ฉากต่อสู้ที่สนุกตื่นตาทุกเรื่องไป ปีนี้หยวน วูปิง 75 ปีแล้ว

แต่ฝีมือไม่แก่ตามอายุเล้ย รอบนี้เราก็ได้เห็นทั้งฉากต่อสู้ด้วยมือเปล่า และ ทั้งใช้อาวุธ ที่ชอบมาก ๆ คือการเลือกให้คู่ต่อสู้รอบนี้เป็นปรมาจารย์คาราเต้ เราก็เลยได้เห็นวิชามวยจีนปะทะคาราเต้จากญี่ปุ่น แล้วไม่ใช่มีแต่มวยหย่งชุนเท่านั้น แต่ยังมีมวยตั๊กแตน มวยกระเรียน มวยไทเก๊ก แล้วใส่ความแตกต่างกันอย่างเห็นได้ชัด มวยจีนจะพลิ้วไหว นุ่มนวล ว่องไว ส่วนคาราเต้เน้นเตะต่อยเป็นหลัก และ จับทุ่ม แม้ช้ากว่าแต่รุนแรงกว่า ไม่ปล่อยหมัดเยอะ แต่ถ้าโดนไม่กี่ครั้งก็ร่วง นับเป็นคู่ต่อสู้ที่มีพิษสงจนอดเป็นห่วงยิปมันไม่ได้ แม้จะรู้ว่าอย่างไรพระเอกก็ต้องชนะอยู่แล้ว

ภาคนี้ได้สก็อตต์ แอดคินส์ พระเอกนักบู๊ในแวดวงหนังฮอลลีวูดเกรด B มารับบทเป็น บาร์ตัน เกดส์ นายทหารที่เป็นผู้ฝึกสอนคาราเต้ประจำกองทัพ เป็นตัวละครที่วางตัวมาให้ร้ายตั้งแต่วินาทีแรกที่ปรากฏตัว เป็นตัวละครที่แบนราบสุด มีมิติเดียวคือกูไม่ชอบคนจีน ไม่เอามวยจีน จะปราบมันให้หมด แต่ถ้าไม่มองในเรื่องแบกกราวนด์ ก็นับว่า บาร์ตัน เกดส์ เป็นตัวร้ายที่เก่งทำให้หนังภาคนี้ดุเดือดมากขึ้น

ด้วยภาพลักษณ์บ้าดีเดือดของ บาร์ตัน ก็ทำให้ฉากต่อสู้ดูสมจริง โดนแต่ละหมัดแล้วรู้สึกรุนแรง เจ็บจริง แล้วที่ชอบคือหนังไม่ได้วางบทบาทให้ยิปมันเป็นเทพเกินไปนัก มีพลาดท่าโดนทั้งต่อยทั้งเตะแบบหนักหน่วง และ ใครที่ชื่นชอบท่ารัวหมัดของมวยหย่งชุน ไม่ผิดหวังครับ ได้ดูฉากรัวหมัดอย่างสะใจ และ ใช้เป็นท่าไม้ตายเท่านั้นไม่ใช่พร่ำเพรื่อ ฉากที่ประทับใจมาก คือฉากที่อาจารย์ยิปมันกระโดดขึ้นไปประลองกับครูฝึกคาราเต้ ยิปมันเปิดตัวแบบวีรบุรุษผู้ปกป้อง แบบว่า…โคตรเท่ ถ้าดูที่บ้านนี่ต้องตบมือ เป่าปากปรี๊ดกันเลย ยิ ป มัน 4 ดอน นี้ เยน

บทสรุป

ภาคสุดท้ายของหนังกังฟูชื่อดังยิปมันกับมวยหย่งชุน ที่คราวนี้ลัดฟ้าไปอเมริกาหาลูกศิษย์คนดังบรู๊ซลี ที่กลายมาเป็นอาจารย์มวยจีนที่นี่ ซึ่งทำให้ทั้งคู่ต้องเข้ามาขัดแย้งกับทหารอเมริกาที่ไม่ต้องการให้มวยจีนแทรกเข้ามาในแผ่นดินแห่งนี้ IP Man 4 ยังรักษามาตรฐานภาคหลัง ๆ ไว้ได้ ทั้งดราม่าที่ช่วยเติมเต็มเรื่องราว

ซึ่งคราวนี้มีเยอะกว่าเดิมสักหน่อย แต่ก็ไม่ได้ถึงขั้นลึกมาก แค่มีหลายเรื่องเข้ามาในช่วงชีวิตสุดท้ายของยิปมัน ไปพร้อมกับฉากแอ็กชั่นไม่มากแต่พอดี แล้วก็ยิงยาวให้ได้ดูนาน ๆ ซึ่งก็ยังคงทำได้ตามมาตรฐานความสนุกมันส์แบบที่แฟนยิปมันพอใจ แต่ถ้าถามว่าประทับใจไหมกับภาคสุดท้ายก็ยังต้องบอกว่า “ไม่ครับ” เพราะหนังยังคงสูตรเดิมมากไปตั้งแต่ต้นจนจบ ยิปมัน 2022

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *