รีวิว The Invisible Guest
หนังใหม่แนะนำ กราบสวัสดีครับวันนี้แอดมีหนังจาก NETFLIX มารีวิวให้เพื่อน ๆ พี่ ๆ น้อง ๆ มารับชมรับฟังกันครับผม และ หลาย ๆ คนอาจจะรู้จักวงการภาพยนตร์ประเทศสเปน จากชื่อเสียงในเวทีรางวัลผ่านผลงานสไตล์เมโลดราม่าอันฉูดฉาดของ เปรโด อัลโมโดวาร์ มาก่อน แต่ในอีกด้านหนึ่งก็มีหนังตลาดยอดนิยมทำเงินในประเทศ และ สร้างชื่อระดับนานาชาติเช่นกันด้วยหนังแนวสยองขวัญ-สืบสวนหักมุม ซึ่งนับเป็นตระกูลหนังแนวถนัดของคนทำหนังสเปนยุคใหม่ รวมไปถึง The Invisible Guest หรือ Contratiempo ผลงานกำกับของ โอริโอล เปาโลเรื่องนี้ รีวิว The Invisible Guest (2016) : แขกไม่ได้รับเชิญ หนังดราม่าสืบสวนสอบสวนสัญชาติสเปน ที่จะปั่นหัวคุณ แล้วทำคุณอึ้งในตอนจบ เว็บหนัง
เปาโลมีผลงานแจ้งเกิดในฐานะคนเขียนบท Julia’s Eyes(2010) หนังระทึกขวัญที่ประสบความสำเร็จทั้งเงิน และ กล่อง ก่อนจะ ได้ทำหน้าที่กำกับ และ เขียนบทหนังเรื่องแรกใน The Body เมื่อปี 2012 ซึ่งถูกนำไปรีเมคถึงสามครั้งด้วยกัน กับหนังปี 2016 เรื่องนี้แม้จะ ไม่ได้ประสบความสำเร็จในบ้านเกิดมากนัก แต่กลับทำเงินในประเทศจีนถึง 25.9 ล้านเหรียญฯ และ ก็ถูกนำไปรีเมคเป็นหนังอิตาลีในชื่อ Il testimone invisibile เมื่อปี 2018 และ หนังอินเดียถึงสองเวอร์ชั่น คือภาษาฮินดูในชื่อ Badla และ ภาษาเตลูกู ในชื่อ Evaru เข้าฉายในปี 2019 ช่วงไล่เลี่ยกัน (คลิกดูได้ผ่าน Netflix ชื่อไทย “แค้น”) ซึ่งสะท้อนให้เห็นเช่นกันถึงความสนุกแพรวพราวของบทที่ไร้พรมแดนทางวัฒนธรรม สามารถดัดแปลงให้กับคนดูชาติอื่นได้ง่าย จนผู้สร้างจากหลายประเทศเล็งเห็นซื้อลิขสิทธิ์ไปสร้างใหม่
รีวิว The Invisible Guest
รีวิวหนังใหม่ The Invisible Guest เป็นเรื่องราวของ Adrián Doria นักธุรกิจหนุ่มที่ประสบความสำเร็จอย่างก้าวกระโดด แต่กลับเป็นผู้ต้องหาในการก่อคดีฆาตกรรมแฟนสาวลับ ๆ ของเขาเองคือ Laura Vidal ซึ่งทางตำรวจก็ได้สรุปคดีว่าไม่มีทางที่จะ เป็นคนอื่นไปได้เพราะเหตุเกิดขึ้นในโรงแรม ที่ถูกล๊อคทุกอย่างภายในห้อง แต่ตัวเขาเอารู้ว่าเขาไม่ได้ทำ เขาถูกจัดฉาก ดังนั้นเขาจึงให้ Félix Leiva ทนายของบริษัทช่วยแก้ต่างในคดี แต่เนื่องจากคดีมีความซับซ้อนจนเกินไป Félix จึงไหว้วานให้ทนายมือดีที่สุดคนหนึ่งที่ไม่เคยแพ้ก็ดีเลยคือ Virginia Goodman มาช่วย ดังนั้น Adrián Doria จึงจำเป็น จะต้องเล่าทุกอย่างให้ Virginia Goodman ฟัง โดยไม่ทิ้งช่องโหว่อะไรเอาไว้เลย เรื่องราวจะดำเนินไปอย่างไร มีความสลับซับซ้อนมากแค่ไหน คงไม่สามารถเล่าได้ต้องไปชมกันใน Netflix เอาเองครับ
เนื่องจาก The Invisible Guest เป็นหนังสืบสวนสอบสวน ลึกลับ ความลับ ดังนั้นจึงไม่พ้นกลวิธีในการเล่าเรื่องแบบค่อย ๆ เปิดเผยไปที่ละขึ้นตอน เราจะรู้เรื่องราวทีละจุด ผ่านการสนทนาระหว่างทนายความ กับลูกความ ลูกความจะค่อย ๆ เล่าความจริง ให้ทนายความฟัง วิธีการเหล่านั้นจะ ทำให้เราย้อนกลับไปในอดีต ที่เกิดเหตุการณ์ขึ้น ตัดสลับไปมาระหว่างภาพ “ความจริง” ที่เกิดขึ้นกับการสนทนาของตัวละคร ทุกครั้งที่ภาพตัดกับไปในอดีตเราก็จะค่อย ๆ รู้เรื่องเราเหมือนกับการต่อจิ๊กซอว์ ไปทีละชิ้นจนเกิดภาพใหญ่ ซึ่งเราจะต้องตามตัวละครเอก 2 ตัวนี้ไปให้ถึงจนจบ แล้วเราก็ จะสามารถประติดประต่อเรื่องราวของเรื่องได้นั่นแหละ
โดยส่วนตัวผมมองว่าผู้กำกับ และ คนเขียนบทเขาวางทุกอย่าง เอาไว้ค่อนข้างดี ทำให้เราเชื่อว่า “กับดัก” ที่เขาต้องการวางไว้ในจุดที่เหมาะสม และ เมื่อถึงช่วงเวลาที่สำคัญเมื่อเราเดินเช้าไปในกับดักนั้น “กับดัก” ก็ทำหน้าที่ของมันได้อย่างถูกที่ถูกเวลาแลัค่อนมีประสิทธิภาพ สิ่งละอันพัน ละน้อยก็ไม่สามารถมองข้ามได้ เพราะสิ่งเล็ก ๆ น้อย ๆ นั่นแหละสามารถช่วยทำให้เนื้อเรื่องไม่มีช่องโหว่ไหลราบรื่น เรียกได้ว่าล่อลวงคนดูได้อย่างอยู่หมัด ซึ่งหากใครเป็นแฟนพันธุ์แท้หนังสืบสวนสอบสวน หรือแฟนพันธุ์แท้นิยายสืบสวนสอบสวน สำหรับผมมองว่าเรื่องนี้ดำเนิน ล่อลวง และ เฉลยไปได้ ตามขนบที่ควรจะเป็น ดูหนัง
หนังใช้นักแสดงน้อย แต่นักแสดงทุกคนล้วนแต่มีบทที่สำคัญ เหมือนกับเป็นชิ้นส่วนของจิ๊กซอว์ที่ไม่สามารถขาดได้เลย โดยเฉพาะการสนทนาระหว่างทนายกับลูกความ หนังได้ใช้สองคนนี้ หลอกล่อคนดูไปมาอย่างอยู่หมัด เป็นการหลอกล่อที่สร้างความสับสนมึนงงงแต่ดีงามตามขนบหนังสืบสวนสอบสวน
สรุป The Invisible Guest
รีวิวหนังใหม่ หนังยังโดดเด่นด้วยการออกแบบอาคาร ซึ่งพ้องกับอาชีพของเอเดรียน ห้องพักของเขาโปร่งใสด้วยสถาปัตยกรรมแบบสมัยใหม่สามารถเห็นภายในห้องได้ชัดเจน แต่ตัวเขากลับปกปิดความเลวร้ายของตนเอาไว้มากมายกว่าที่คาดคิด และ มั่นใจอย่างยิ่งแม้จะเห็นผู้ต้องสงสัยผ่านอาคารฝั่งตรงข้าม เพราะเชื่อในความเหนือกว่าของตน แต่มันก็ได้กลายเป็นสิ่งที่ย้อนมาหาตนเอง
นี่ยังป็นตัวอย่างช้นดีของหนังเขย่าขวัญหักมุมที่ไม่ต้องเร้าอารมณ์จนเกินไป พร้อมกันนั้นก็เป็นกลวิธีการหักมุมซ้ำแล้วซ้ำเล่าซึ่งหากพลาดขึ้นมาวิธีเช่นนี้อาจจะกลายเป็นจุดอ่อนที่ทำให้จับผิดได้ แต่ด้วยบทที่ผ่านการเขียนอย่างรัดกุม การหักมุมที่มากมายจึงไม่ล้น และ รู้สึกถึงความจงใจแบบซีรี่ส์อเมริกาหลายเรื่องที่มักหักมุมทุกช่วงเบรกโฆษณา
แต่หากถามว่า เรื่องราวทั้งหมดดำเนินมาจนถึงจุดเฉลยแล้วสร้างความประหลาดใจให้กับผมมากน้อยเพียงใด มันจะทำให้ The Invisible Guest กลายเป็นสุดยอดภาพยนต์หักมุมระดับตำนานตามที่ผมยกตัวอย่างในตอนต้นได้หรือไม่นั้น ผมคงตอบได้ว่ามันไม่สามารถไปถึงการเป็นภาพยนตร์หักมุมระดับยกมือขึ้นปิดปากทาบอกได้แน่นอน มันยัง “เบา” เกินไป แต่ผมเชื่อว่าหาใครเป็นแฟนพันธุ์แท้ภาพยนตร์สืบสวนสอบสวน หรือแฟนพันธุ์แท้นิยายสืบสวนสอบสวน มันจะมีบางจุดที่ทำให้คุณพอจะคาดเดาบางสิ่งบางอย่างได้บ้าง แต่นั่นก็เกือบท้ายเรื่องแล้วนะ
หนังได้แสดงถึงการเอาตัวรอดของมนุษย์ การทำทุกวิถีทางเพื่อทำให้ตัวเองรอด แล้วเมื่อสถานการณ์บีบบังคับไปจนถึงจุดสูงสุด สถานการณ์การบีบรัดจนตัวมากที่สุด มนุษย์เราก็จะขาดสติ สร้างช่องโหว่ให้กับตัวเองได้อย่างมากมาย ประเด็นนี้แหละที่หนังสามารถเอามาเล่นได้ค่อนข้างดีงาม เว็บดูหนัง
ความแตกต่างอย่างหนึ่งซึ่งผมถือว่าเป็นความดีของเรื่องคือ เรารู้ว่าใครเป็นคนผิด แต่เรากลับเอาใจช่วย “คนผิด” มากกว่า “คนถูก” นั้นได้เฉยเลย
เนื่องจากเป็นหนังสืบสวนสอบสวนที่เน้นเรื่องการสนทนาระหว่างตัวละคร ดังนั้นเวลาที่คุณดูจะต้องมีความตั้งใจ และ เนื่องจากเป็นหนังภาษาสเปน คุณจะต้องอ่าน subtitle ให้ละเอียดพอสมควร ไม่อย่างนั้นคุณจะพลาดบางสิ่งบางอย่างไปได้ และ บางสิ่งบางอย่างนั้นอาจใจเป็นจุดสำคัญที่สุดของเรื่องเลยทีเดียว ดังนั้นคุณจะต้องมีสมาธิ และ ไม่ทำสิ่งอื่นระหว่างชม
แต่เนื่องจากเป็นหนังที่เน้นเรื่องการสนทนาระหว่างตัวละคร มันจึงมีบางจุดที่อาจทำให้คุณรู้สึกว่าช้า อาจมีบางจุดที่ทำให้คุณรู้สึกเบื่อได้บ้าง แต่หนังก็ยังฉลาดพอที่รู้จักจะใส่ Sound ประกอบ ให้เราได้รู้สึกได้ลุ้นบางสิ่งบางอย่างขึ้นมาได้บ้าง
“ความรู้สึกส่วนตัวและอารมณ์ของภาพยนตร์ที่เรารู้สึกนึกถึง”
หนังเรื่องนี้ มีการใช้ทฤษฎี การเล่าเรื่องตามหา ความจริงแบบหนังชั้นครูอย่าง “Rashomon” คือคุณจะได้เห็นทุกมิติ ของคดีว่าสามารถออกได้ทางไหนบ้าง แต่เรื่องนี้เขามีสรุปให้ ไม่ได้เปิดให้เราไปคิดเองว่าความจริงเป็นอย่างไร ต้องบอกว่าผมสนุกมากเพราะ เออ มันออกได้ทุกมิติจริง ๆ คำให้การของผู้ร้ายนี่เชื่อไม่ได้เลย ทนายก็เก่งเกินไล่ตอนจนเจอ 555
ในขณะที่รับชม The Invisible guest อยู่นั้น ผมก็นึกถึงการหักเหลี่ยม เฉือนคม ไล่ต้อนฆาตกรแบบนี้ ที่ไหนมาก่อนและก็นึกออกว่าอารมณ์ความเข้มข้น ของหนังเรื่องนี้มันคล้าย ๆ กับ ภาพยนตร์เรื่อง Sleuth (2007) ที่ Jude law และ Michael Caine แสดงไว้แต่เรื่องนั้น เขาเล่นกันสองคนเพรียว ๆ เลย แต่อารมณ์การฟาดฟันกันด้วยมันสมองคล้าย ๆ กับ The invisible guest ครับ
ข้อมูลภาพยนตร์
The invisible guest เข้าฉายครั้งแรกที่ประเทศสเปน 6 มกราคม 2017
ความยาว 1 ชั่วโมง 46 นาที
ชื่อต้นฉบับ Contratiempo
สามารถรับชมได้ทาง Netflix