รีวิว prey

รีวิว prey

นี่คือหนังที่ ณ เวลา นี้ชาวคอหนังทั้งหลายไม่ว่าจะต่างประเทศหรือบ้านเรากำลังจับตามองอยู่ หนังจากค่าย Disney กลายเป็นอีกหนึ่งตัวละครในตำนานที่หยิบมากินได้เรื่อย ๆ แบบไร้จุดสิ้นสุด เป็นอีกครั้งที่ทำการปัดฝุ่นรีบูตตำนานของพรานล่าอวกาศในรูปแบบใหม่ และนี่คือ “Prey” หนังแอคชั่นเขย่าขวัญที่เป็นการจับต้นชนปลายใหม่ ด้วยการเอาเรื่องราวของชนเผ่าพื้นเมืองแต่โบราณกาลมาผสมผสานเข้ากับความไซไฟของนักล่าผู้เหี้ยมโหดอย่าง พรีเดเตอร์ ที่แฟนหนังรู้จักกันดี กลายมาเป็นหนังผจญภัยสุดระทึก! ดูหนังออนไลน์ ดูหนังฟรี

ส ปอย หนัง มารอบนี้ได้ผู้กำกับ แดน ทราชเตนเบิร์ก (Dan Trachtenberg) ที่มีผลงานประทับใจคนดูอย่าง ’10 Cloverfield Lane’ (2016) มา ก่อนจะห่างหายไปหลายปี มีโผล่ไปชิมลางกับซีรีส์ ‘Black Mirror’ ตอน Playtest (2016) กับ ‘The Boys’ ตอน The Name of the Game (2019) อยู่บ้าง มารอบนี้ก็ถือว่าใช้ฝีมือของเขาในแนวทางธริลเลอร์ได้เข้ากับตัวหนัง ซึ่งเรื่องราวก็เป็นไอเดียของทราชเตนเบิร์กกับ แพตทริก ไอซอน (Patrick Aison) ที่มีผลงานเขียนบทในซีรีส์เดินเรื่องชวนสงสัยปนลุ้นระทึกใน ‘Wayward Pines’ (2015) และแนวธริลเลอร์เข้มข้นอย่าง ‘Jack Ryan’ (2018) ดูหนังฟรี ดูหนังออนไลน์

รีวิว prey

รีวิว prey

รีวิว prey ภาพยนตร์จากแฟรนไชส์ ‘Predator’ เรื่องล่าสุดที่มาลงสตรีมมิงทาง Disney+ Hotstar โดยอาจกล่าวได้ว่าเป็นมรดกตกทอดจากการควบรวมค่าย 20th Century Fox เข้ามาร่วมชายคา และคงต้องบอกว่าเป็นการเอาเผ่าพันธุ์ยวตจา (Yautja) กลับมาสู่จอได้อย่างเหมาะสมเสียที หลังจากหลงทางและพยายามรีบูตแฟรนไชส์โดยไม่ใช้เลขภาคต่อใน ‘Predators’ (2010) และ ‘The Predator’ (2018) ที่กลายเป็นหนังที่มีแนวทางเฉพาะ คือถ้าใครไม่เข้าใจสไตล์จนชอบก็คงเกลียดกันไปเลย

ถ้ามองอย่างผิวเผินเรื่องราวใน ‘Prey’ นั้นเรียบง่ายแต่แจ่มชัดอย่างยิ่ง มันคือการหวนคืนสู่นิยามตั้งต้นของคำว่า ผู้ล่าและเหยื่อในห่วงโซ่อาหารที่มีลำดับชั้น แต่มีนัยถึงเรื่องศักดิ์ศรีการยอมรับของนักรบอยู่ในตัว ซึ่งเป็นสิ่งที่กินใจผู้ชมที่ชื่นชอบหนังแอ็กชันหรือแนวนักสู้ได้ง่าย ในหนังแนวนี้ยิ่งมีความห่างชั้นระหว่างผู้ล่าและเหยื่อมากเท่าใด คนดูก็ยิ่งจะลุ้นเอาใจช่วย และจะยิ่งปลาบปลื้มได้มากขึ้นเมื่อฝั่งมวยรองพลิกเอาชนะหรือเอาชีวิตรอดมาได้

มันจึงนำมาสู่วิธีคิดที่ว่าให้นักล่าต่างดาวที่โหดเหี้ยม พละกำลังมหาศาล มีสติปัญญาสูงส่ง แถมมีอาวุธล้ำสมัยทั้งระยะประชิดและระยะไกล รวมถึงหายตัวได้อีก ต้องมาสู้กับเหยื่อที่อารยธรรมต้อยต่ำกว่า มีเครื่องไม้เครื่องมือเอาชีวิตรอดในธรรมชาติไปวัน ๆ ยังดูยากลำบากอย่างชนเผ่าพื้นเมืองโคแมนชี (Comanche) ของอเมริกาที่มีวัฒนธรรมของการล่าอยู่ด้วยนี่เอง

เรื่องย่อ prey

รีวิว prey

ปี 1719 คือการพบกันครั้งแรกของเผ่าชนพื้นเมืองในทวีปอเมริกากับสิ่งมีชีวิตต่างดาวเผ่าพันธุ์นักล่า Prey เล่าเรื่องราวที่เกิดขึ้นบนโลกเมื่อ 300 ปีก่อน นารู เป็นเด็กสาวชนเผ่าพื้นเมืองของอเมริกา ในยุคที่ชีวิตยังต้องดำรงอยู่ด้วยการล่าประทังชีพ แต่ปรากฏว่าเธอได้สังเกตและค้นพบว่ามีสิ่งมีชีวิตประหลาด ๆ ที่แอบแฝงอยู่ในพื้นที่ ขณะที่กำลังออกตามล่าหาหมีใหญ่อยู่ เธอจึงต้องใช้ทักษะการเอาชีวิตรอดและต่อสู้เพื่อปกป้องชนเผ่าของตัวเอง โดยที่แทบจะไม่รู้เลยด้วยซ้ำว่าสิ่งที่ล่าเธออยู่นั้นคือพรานล่าสุดเหี้ยมจากอวกาศ..พรีเดเตอร์

ตัวหนังให้เรามองผ่านสายตาของ นารู น้องสาวของว่าที่นักรบหนุ่มของเผ่า แม้เธอจะมีความเฉลียวฉลาดช่างสังเกตแต่ก็ยังถูกดูแคลนในความเป็นเพศหญิงที่พละกำลังในการล่าต่ำกว่าผู้ชาย เธอจึงฝึกฝนและแสวงหาการยอมรับผ่านพิธีล่าสัตว์ดุร้ายอย่างสิงโต และแน่นอนว่าบัดนี้ในป่าไม่ได้มีเพียงแค่สัตว์ร้ายอย่าง งูพิษ หมาป่า สิงโต หรือหมีเท่านั้น เพราะมีนักฆ่าต่างดาวออกมาเดินหาคู่ต่อสู้ที่สมศักดิ์ศรีอยู่ด้วย และในเวลาใกล้เคียงกันพวกคนยุโรปที่อพยพก็เริ่มรุกรานใช้ปืนฆ่าชนเผ่าพื้นเมืองด้วยเช่นกัน

และต้องชื่นชมด้วยว่า นักแสดงสาวอย่าง แอมเบอร์ มิดธันเดอร์ (Amber Midthunder) ที่มารับบท นารู นั้นมีเสน่ห์ทั้งด้านรูปลักษณ์และการแสดงที่สามารถตรึงสายตาไปกับเธอตลอดเรื่องได้จริง ๆ ไม่ว่าจะตอนสวย ๆ หรือผ่านนาทีชีวิตจนโทรมไปทั้งตัว แม้ตอนดูตัวอย่างยังหวั่น ๆ ว่าเธอไม่ค่อยดึงดูดสายตานักแต่ของจริงเธอฉายออร่าได้แรงไม่เบาทีเดียว prey 2022 ดู

พล็อตหนัง prey ที่น่าสนใจ

รีวิว prey

มาถึงตรงนี้มันจึงได้เห็นว่าหนังมีการนำเสนอนัยของประวัติศาสตร์การล่าอาณานิคมและฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ชนพื้นเมืองอเมริกา รวมถึงการพูดเรื่องความเท่าเทียมทางเพศแบบที่เราไม่รู้สึกยัดเยียดอยู่ด้วย ทำให้หนังมีมิติเชิงลึกให้พูดคุยกันต่อได้ แต่มันก็ไม่ทิ้งหน้าที่ในการสร้างความบันเทิง ต้องบอกว่าผู้สร้างไล่ระดับความตื่นเต้นไปได้อย่างเหมาะสม จากการประจันหน้ากับสัตว์ร้าย จนถึงคู่มือที่เกินเอื้อมแค่เอาชีวิตรอดมาได้ก็บุญ ก่อนที่ทุกอย่างจะบีบบังคับให้ฝั่งตัวเอกจนตรอกต้องสู้กลับเท่านั้น กลายเป็นศึกสุดท้ายที่บีบหัวใจอย่างยิ่ง

พล็อตของเรื่องไม่ได้มีอะไรมากมาย มันคือ การที่หญิงสาวในเผ่าคนหนึ่งที่อยากจะผันตัวเป็นนักล่า แม้ครอบครัวและคนอื่นจะมองว่าไม่ใช่เพราะความเป็นผู้หญิงก็ตาม

และในความเป็นหนึ่งในหนังที่พยายามเชื่อมโยงกับแฟรนไชส์ ผู้สร้างก็หาวิธีการสร้างสะพานกลับไปโยงใบผ่านหนังเรื่อง ‘Predator 2’ (1990) แบบน่าประหลาดใจพอสมควร ด้วยการใช้สิ่งของชิ้นหนึ่งที่มีความสำคัญในหนังเรื่องนั้น ให้มาปรากฏก่อนหน้าหลายร้อยปีในหนังเรื่องนี้

ยิ่งสำหรับคอเดนตายของฉบับหนังสือการ์ตูนด้วยแล้ว จะพบว่าหนังได้ใช้รายละเอียดจากเรื่องสั้นชื่อ ‘Predator: 1718’ ที่ตีพิมพ์ในปี 1996 เล่าถึงเผ่ายวตจาที่ชื่อ เกรย์แบ็ก (ตัวเดียวกับที่มาปรากฏในท้ายหนังภาค 2 ในปี 1990) ซึ่งได้ลงมาพบมนุษย์เป็นครั้งแรกในจังหวะสถานการณ์ที่ ราฟาเอล อะโดลินี กัปตันเรือโจรสลัดลำหนึ่งกำลังถูกทรยศจากลูกเรือ และนำมาซึ่งการต่อสู้ร่วมกันและยอมรับกันในฐานะนักรบ ถึงขั้นได้แลกอาวุธของกันและกันไว้ด้วย prey รีวิว

รีวิว prey

รีวิว Prey เราอาจจะรู้กันว่าหนังมันชื่อ ‘Prey’ ที่แปลว่า เหยื่อ แต่แท้ที่จริงแล้ว หนังยังมีอีกชื่อหนึ่งด้วยว่า ‘Predator’ ซึ่งแปลว่า ผู้ล่า และในหนังก็เช่นกัน ดูแล้วก็อาจจะสงสัย ตกลงใครเป็นเหยื่อ ใครเป็นผู้ล่า

เรื่องราวที่เกิดขึ้นในเผ่าอินเดียนผู้มีชีวิตอยู่การล่า บ้างก็ล่าเพื่อเป็นอาหาร บ้างก็ล่าเพื่อความอยู่รอด และในทุกการล่าจะมีเจ้าหมาน้อยซารีร่วมอยู่ด้วยเสมอ เธอจำคำของพี่ชายอย่างทาเบที่บอกกับเธอเอาไว้ว่า “เจ้าอยากจะล่าบางสิ่งที่กำลังตามล่าเจ้าสินะ” ใช่แล้ว ในคนๆ เดียว สามารถเป็นได้ทั้งผู้ล่าและผู้ถูกล่า ขึ้นอยู่ว่า เราจะพลิกชะตาจากที่ถูกล่าอยู่ให้กลับขึ้นมาเป็นผู้ล่าได้อย่างไรเท่านั้นเอง

ด้วยทัศนียภาพของโลเกชันที่เป็นทุ่งหญ้า มีภูเขา ลำธาร และต้นไม้ จัดงานภาพสวยๆ มาให้ได้ไม่ยากเย็น ผสมผสานด้วยเครื่องดนตรีที่ออกแนวคาวบอยเพลินๆ นำเสนอชีวิตชนเผ่าอินเดียนที่เครื่องมือต่างๆ ยังไม่ทันสมัยนัก ซึ่งแตกต่างกับพรีเดเตอร์ต่างดาวผู้มาเยือนที่ล้ำหน้ากว่า จึงน่าสนใจว่า ชนเผ่าอินเดียนจะพลิกผันให้ตนกลายเป็นผู้ล่าได้อย่างไรนี่แหละ

แต่ในความเป็นจริงแล้ว นารู เป็นหญิงที่เชี่ยวชาญในหลายสิ่ง ทั้งรู้เรื่องยา ทั้งตามรอยได้เก่งกาจ ช่างสังเกต แถมยังพยายามฝึกฝนการใช้อาวุธอย่างสม่ำเสมอ ถึงเธอจะไม่ได้มีพละกำลังมากเท่าผู้ชายแต่เธอก็มีฝีมือในการเอาตัวรอดอยู่ไม่น้อยเช่นกัน

ไอเดียการล่าของพรีเดเตอร์ในภาคนี้อาจจะไม่ได้อลังการมากนัก ส่วนใหญ่เป็นเหมือนการเรียนรู้ห่วงโซ่อาหารของโลกเสียมากกว่า ส่วนฉากการต่อสู้ระหว่างมันกับมนุษย์เผ่าอินเดียนก็อาจจะไม่ได้ดูแปลกใหม่ แต่ดูสะอาดหมดจดตามแบบฉบับเผ่าอินเดียน เป็นหนังที่บทพูดน้อยต่อยหนักแทน หลายช็อตก็จัดว่าโหดเอาการอยู่ ติดที่มันเป็นหนังที่ต้องรับชมทางทีวีเนี่ยแหละ ถ้าเป็นบนจอใหญ่ ระบบเสียงกระหึ่ม ก็คงจะตื่นตาไม่หยอก แต่เหนืออื่นใด ต้องบอกว่าเจ้าหมาซารีเนี่ย ขโมยซีนได้น่าเอ็นดูได้ไม่น้อยเลย prey ดู

สรุป prey

โดยรวมต้องบอกว่า ‘Prey’ เป็นหนังที่ตีโจทย์การสร้างได้ขาด สามารถป้อนปากผู้ชมที่ต้องการเรื่องราวดิบ ๆ เข้าใจง่าย ๆ แต่ขอให้สนุกก็พอซึ่งเป็นผู้ชมกลุ่มใหญ่ ใส่นัยความขัดแย้งเชิงประวัติศาสตร์และข้อถกเถียงถึงกระแสของโลกปัจจุบันลงไปแบบเห็นชัดแต่ไม่ขัดตาเพื่อผู้ชมกลุ่มที่อยากได้อะไรที่เป็นสาระบ้างได้เอาไปถกกันต่อ รวมถึงยังไม่ทิ้งแฟนของ ‘Predator’ ทั้งฉบับหนังและฉบับหนังสือให้เจออีสเตอร์เอ้กอย่างน่าชื่นชม ได้พ่วงจูงใจให้คนที่สงสัยว่ามันคืออะไรไปค้นหาต่อด้วย และที่ว่ามาทั้งหมดหนังพาคนดูไปได้หลายระดับการดูโดยที่ไม่มีกลุ่มไหนที่รู้สึกน่ารำคาญเลยด้วย นี่คือสุดยอดความสำเร็จจริง ๆ ของหนังเรื่องนี้

และถ้าจะมีจุดด้อยจริง ๆ ที่พอนึกออกคือการรับชมผ่านจอที่บ้าน ทำให้เห็นรายละเอียดซีจีที่มันดูปลอม ๆ ไปนิด หรืออาจด้วยโปรดักชันที่ชัดเจนว่าจะเป็นหนังสำหรับฉายสตรีมมิงทำให้บางฉากซีจีดูยังไม่เนี้ยบเท่าที่ควรก็เป็นได้ และความรู้สึกแปลก ๆ ระหว่างดูที่มีอีกอย่างคือเผ่าพันธุ์นักฆ่าที่ภูมิใจในศักดิ์ศรีตัวเองขนาดนั้นจะหายตัวสู้ทำไมทั้งที่เหนือกว่าอีกฝ่ายเยอะอยู่แล้ว prey เต็ม เรื่อง

ชื่อภาพยนตร์ Prey
กำกับ Dan Trachtenberg
เขียนบท Patrick Aison
แสดงนำ Amber Midthunder, Dakota Beavers, Dane DiLiegro, Stormee Kipp, Michelle Thrush
แนว/ประเภท Action, Drama, Horror, Sci-Fi, Thriller
ความยาว 99 นาที
ปี 2022

 

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *