รีวิว insurgent

รีวิว insurgent

หนังเก่ายอดนิยม สวัสดีครับจกาที่ได้มีโอกาสกลับไปดูหนัง เรื่อง insurgent ใหม่อีกครั้ง ดูหลายต่อหลายรอบเลยแหละครับ ซึ่งก็เพื่อเก็บรายละเอียดนั้นแหละครับ ซึ่งถึงจะเก่าแต่ก็ไม่ได้เก่าอะไรมากเพราะหนังก็ฉายครั้งแรกที่ปี 2015 สำหรับผมนั้นหลังจากได้ดูไม่ต่ำกว่า 5 รอบ ผมก็รู้สึกว่าหนังไม่ได้ดีกว่าภาคแรกเลย หลังจากที่ดูหลายรอบเอามากๆก่อนที่ผมจะมาเขียนบทความนี้ ซึ่งหลายเรื่องก็ทำรายได้ดีเอาตัวรอดจากภาคแรก จนมาสร้างภาคที่สองได้ แต่หลายรายก็เข็ดหลาบกันไปตั้งแต่ภาคแรก จนไม่ได้ยินข่าวคราวการสร้างภาคต่อ ๆ มาเลยก็มี

แต่ ‘The Divergent Series’ ดูจะมีกระแสที่ดีจนสร้างไปภาคจบได้แน่ ๆ กระแสตอบรับของหนัง Insurgent ซึ่งเป็นหนังภาคต่อของ Divergent ออกมาสองขั้วสองด้าน คนชอบก็ชมไปเลย คนไม่ชอบก็ด่าไปเลย ดังนั้น เราคิดว่าหนังเรื่องนี้ก็คงเป็นความชอบเฉพาะบุคคลจริง ๆ ดูหนังออนไลน์ ดูหนังฟรี

ส ปอย หนัง สำหรับคนที่จะไปดู Insurgent (หรือไปดูมาแล้วก็ตาม) ลองอ่านบล็อก “Divergent: ขยายหนังจากหนังสือ” ของเราประกอบไปด้วยก็ได้ บล็อกนี้อาจจะทำให้เราเข้าใจหรืออินกับตัวละครต่าง ๆ ในหนังมากขึ้นกว่าไม่รู้เรื่องอะไรพวกนี้เลย แต่ถ้าคุณพอรู้เรื่องที่ว่านั้นเป็นอย่างดีอยู่แล้ว ก็มาต่อที่เรื่องราวและรีวิว Insurgent กันได้เลย ดูหนังฟรี ดูหนังออนไลน์

ชื่อภาพยนตร์ : Insurgent
ผู้กำกับ : โรเบิร์ต ชเวนท์เก
ประเภท : Adventure, Sci-Fi, Thriller
นักแสดงนำ : ไชลีน วูดลีย์, ธีโอ เจมส์, ไมล์ เทลเลอร์

รีวิว insurgent

รีวิว insurgent

รีวิว insurgent นี่คือภาคที่สองจากหนังสือเล่มที่สอง ‘Insurgent คนกบฏโลก’ ที่แว่วว่าเล่มสุดท้ายจะกลายเป็น 2 ภาคย่อย (ตามเคย) ในโลกที่มนุษย์เหลือรอดกันเป็นกลุ่มสุดท้าย จนต้องจัดระเบียบสังคมด้วยการแบ่งแยกผู้คนของเป็นกลุ่ม ๆ ซึ่งได้แก่ Abnegation กลุ่มผู้เสียสละ, Amity กลุ่มผู้สันติ, Candor กลุ่มผู้สัตย์ซื่อ, Erudite กลุ่มผู้รอบรู้ และ Dauntless กลุ่มผู้กล้าเหตุการณ์มันต่อเนื่องจากภาคแรก ทริส (Shailene Woodley) ยังคงจำฝังใจกับการตายของพ่อและแม่ รวมทั้งเพื่อนรักของตน

แต่ทุกอย่างยังต้องดำเนินต่อไป จุดมุ่งหมายเดียวของไดเวอร์เจนต์อย่างเธอคือการสังหารเจนีน (Kate Winslet) ให้สิ้นซาก แม้ความคิดจะโดนทัดทานจากหลาย ๆ คนก็ตามด้วยความเป็นหนังภาคต่อ ภาคนี้จึงไม่ต้องเสียเวลาในการเล่าพื้นหลังมากนัก เมื่อเข้าเรื่องแล้วก็ต่อจากภาคที่แล้วกันเลย ซึ่งผู้กำกับอย่าง Robert Schwentke ก็พยายามเต็มที่ที่จะเติมความเป็นแอ็คชั่นเข้าไปให้มากกว่าเดิมเพื่อเพิ่มความสนุกตื่นเต้นของหนัง

ประกอบกับภาคนี้จะมีช่วงเวลาของการจับเหล่าไดเวอร์เจนต์มาทดสอบในลักษณะซิมูเลชั่น ซึ่งก็จำเป็นต้องพึ่งพาคอมพิวเตอร์กราฟิกมากขึ้นกว่าภาคที่แล้วทั้งนี้เมื่อคืนที่ผ่านมา(17 มี.ค.)ค่ายหนังดังอย่างมงคลเมเจอร์ จับมือกับควิกแสบ และ โรงภาพยนตร์พารากอน ซีนีเพล็กซ์ สร้างปรากฏการณ์สุดยิ่งใหญ่ในประเทศไทยเป็นที่เรียบร้อยแล้วกับงาน “The Divergent Series: Insurgent Premiere in Thailand” ร่วมพาผู้ชมกลุ่มแรกของเมืองไทยพิสูจน์ปรากฏการณ์ภาพยนตร์แอ็คชั่น-ไซไฟแห่งปีที่ทั้งโลกรอคอย

โดยมีเหล่าเซเลบริตี้ และ ศิลปินวัยรุ่นมาร่วมเป็นส่วนหนึ่งของปรากฏการณ์ครั้งนี้กันอย่างเนืองแน่น ไม่ว่าจะเป็น โฟกัส จีระกุล , ศิลปินจากTrue AF, ฮัท The Star 8 , นักแสดงจาก Lovesick the Series ฯลฯซึ่งช่วงเวลาสำคัญที่ทุกคนรอคอยกับการเปิดตัวนักแสดง “น้ำตาล พิจักขณา” ในบทบาทของทริซ พร้อมโชว์เปิดตัว “You’re Gonna Fight You”ตามมาด้วยการฉายตัวอย่างภาพยนตร์เวอร์ชั่น Super Bowl สุดพิเศษ ซึ่งต่างก็สร้างความตื่นเต้นให้กับเหล่าผู้ชม และสื่อมวลชนได้อย่างล้นหลามเลยทีเดียว

เรื่องย่อ/การดำเนินเรื่อง

รีวิว insurgent

เรื่องราวที่เป็นจุดเริ่มต้นแห่งการต่อสู้ครั้งใหม่ของ ทริซ เด็กสาวที่ย้ายจากกลุ่มผู้ปกครอง ไปอยู่กลุ่มผู้กล้า ที่นั่นเธอได้ค้นพบแผนการชั่วร้ายที่จะยึดครองสังคมของ เจนีน หัวหน้ากลุ่มทรงปัญญา ซึ่งทำให้ ทริซ ต้องดึงความกล้าของตัวเองออกมาเพื่อต่อสู้ร่วมกับคนรักอย่าง โฟร์ ในการเปิดโปงความลับเหล่านี้ให้ได้

หลังจากการเผชิญหน้าครั้งใหญ่ที่ผ่านมา ทริซ และ โฟร์ ได้เดินทางไปยังเขตของกลุ่มสันติ เพื่อขอความช่วยเหลือและสร้างพันธมิตรที่จะร่วมมือกันเพื่อต่อสู้ แต่ทว่าพวกเขากลับได้พบความจริงที่น่าเหลือเชื่อยิ่งกว่า ซึ่งมันจะนำมาสู่การเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ของสังคมที่เคยสงบสุขแห่งนี้ ไดเวอร์เจนท์ 2 netflix

ความรู้สึกหลังรับชม

รีวิว insurgent

สิ่งหนึ่งที่ ‘คนกบฏโลก’ ยังทำไม่สุดมากนัก ก็คือ การดำเนินเรื่องให้ผู้ชมได้รู้สึกอินกับหนัง แม้ว่าบทจะเปิดให้ Shailene Woodley ได้เล่นบทดราม่าแสดงอารมณ์ได้มากยิ่งขึ้น แต่กลับไม่ชวนให้คนดูมีอารมณ์ร่วมจนต้องร่ำไห้แต่อย่างใดในความรู้สึกของผม ‘Insurgent’ ค่อนข้างทำหน้าที่ของผู้ให้ความบันเทิงด้านแอ็คชั่นได้อย่างคล่องแคล่วกว่าแต่ก่อน

ฉากลุ้นก็ลุ้นเอาใจหายใจคว่ำเหมือนกัน ผสมผสานกับซีจีที่มาแบบจัดเต็มมากขึ้น แม้เมื่อดูบนจอใหญ่อย่าง IMAX 3D จะพบว่าไม่เนียนก็ตาม ภาพบนจอยักษ์ที่เป็นสามมิติ ดูพุ่งเข้าตาอยู่หลายฉาก แต่บางฉากก็ดูเฉย ๆ หากพลังเสียงของโรงนี้กระหึ่มเลยล่ะแต่ก็ใช่ว่าหนังจะให้เวลากับแอ็คชั่นเสียแต่เพียงฝั่งเดียว

บทจะดราม่าก็เรียกได้ว่า เอาจริงเอาจังเช่นกัน แต่น่าเสียดายที่วู้ดลีย์อย่างทำให้เราอินได้ไม่ถึงขั้นที่เจนลอว์ แห่ง ‘The Hunger Games’ เคยทำเอาไว้ได้เท่านั้นเองนอกเหนือไปจากสองคนที่กล่าวไปข้างต้นแล้ว ในหนังก็ยังมีทั้ง โฟร์ (Theo James) เคเล็บ (Ansel Elgort จาก ‘The Fault in Our Stars’) และปีเตอร์ (Miles Teller จาก ‘Whiplash’)

แก๊งกลุ่มเดียวที่ต่างก็มาจากคนละบ้าน แถมต่างคนก็ต่างเคยผ่านตาพวกเราจากหนังเรื่องโน้นเรื่องนี้ พอมาอยู่รวมกันแล้วอาจจะดูแปลกตาและยังติดภาพเก่า ๆ อยู่บ้าง บางทีก็ต้องทำใจนะครับ อินเซอร์เจนท์ มีกี่ภาค

รีวิว insurgent

รีวิว insurgent แม้ว่าส่วนตัวแล้วจะไม่ได้ชื่นชอบแฟรนชายส์ Divergent Series มากสักเท่าไหร่นัก เนื่องจากความกระท่อนกระแท่นของหนังภาคแรกที่ไม่ได้สนุกมากมายนัก แต่ก็ดูฆ่าเวลาได้เพลิน ๆ เนื่องจากหนังภาคแรกเล่าเรื่องราวของโลกอนาคตที่มนุษย์เหลืออยู่จำนวนไม่มาก หรือโดนจัดกลุ่มแยกตามความถนัดของตัวเองซึ่งในแต่ละกลุ่มก็จะทำหน้าที่ในการบริหารจัดการและใช้ชีวิตของตัวเองไป

ทว่ามีคนบางพวกที่มีความถนัดมากกว่า 1 อย่างหรือพูดง่าย ๆ ว่าไม่สามารถจัดอยู่ในกลุ่มใดได้เลยจึงถูกเรียกได้ว่า “ไดเวอร์เจนท์” แน่นอนว่า “นางเอก” อย่างทริซ (เชอลีน วู๊ดลีย์) นั้นเป็นตัวละครที่ออกแบบมาเพื่อเป็นตัวแทนของ “เด็กรุ่นใหม่” ที่พยายามจะ “ขบถ” ต่อขนบดั้งเดิม ว่าตัวเธอมีความแตกต่างจากสภาพสังคมที่เป็นอยู่ดังนั้นเธอเลยต้องออกมาเผชิญโชคระหกระเหินต่อต้านกับสภาพสังคมกับกลุ่มคนที่มี “สภาพ” เหมือนกับเธอในหนัง Divergent ภาคแรกนั่นเอง

เหตุการณ์ในภาคแรกทริซต้องสูญเสียแม่ของตัวเองไปจากเหตุการณ์ความรุนแรงที่เจอนีน (เคท วินสเลต) หัวหน้ากลุ่มทรงปัญญา(Erudite) พยายามจะยึดครองระบบทั้งหมดของสังคมเอาไว้ในกำมือของตัวเอง เหตุการณ์โดยสังเขปของภาคนี้ก็คือทริซและโฟร์ (เธโอ เจมส์)ต้องเดินทางไปยังเขตของกลุ่มสันติ (Amity) เพื่อขอความช่วยเหลือและสร้างพันธมิตรในการร่วมต่อสู้ แต่ทว่าเจอนีนก็ตามล่าตัวทริซจนพบทำให้เธอต้องหนีไปพึ่งพากับพวกไร้กลุ่ม (Factionless) ซึ่งมีเอฟเวอร์ลีน (นาโอมิ วัตต์ส) เป็นผู้นำกลุ่ม คนกบฏโลก มีกี่ภาค

บทสรุป

The Divergent Series: Insurgent ใช้ทุนสร้างไปมากกว่าร้อยล้านเหรียญ ก่อนจะเก็บเงินทั่วโลกมาได้เกือบ ๆ 300 ล้านเหรียญ ที่ถือว่ายังค่อนข้างเจ็บตัวอยู่พอประมาณ โดยในสหรัฐอเมริกาทำเงินไปได้ราว ๆ 130 ล้านเหรียญ ที่ถือว่าลดลงไปเล็กน้อยจากภาคที่น้อย

แต่โดยภาพรวมก็ถือว่ายังรักษามาตรฐานรายได้เอาไว้ได้ทรงตัว แต่กระแสคำวิจารณ์เริ่มล้มเหลว หนังได้คำวิจารณ์เฉลี่ยลดลงเหลือแค่ 28% บนเว็บไซต์ Rotten Tomatoes และในเวลาต่อมาจึงออกภาคใหม่ตามมาด้วย
เรื่องราวที่ดูมีสีสันมากขึ้น

แม้ว่ายิ่งดู ๆ ไป ก็จะยิ่งรู้สึกได้ถึงไอเดียที่ใกล้เคียงกับหลาย ๆ เรื่องที่ได้ดูมา การเล่าเรื่องอาจจะไม่ถึงขั้นอ่อนด้อย แต่ถ้าปรับให้กลมกล่อมกว่านี้ก็น่าจะได้รับคำชื่นชมเพิ่มขึ้นมาก บทสรุปของหนังชวนให้นึกสงสัยไปไม่น้อยว่าที่ผ่านมามันคืออะไร เม้กเซ้นส์พอไหมกับเรื่องที่เล่ามาทั้งสองภาค หรือยังน่าจะมีอะไรที่มากกว่านี้อีกไหมเพื่อช่วยให้เรื่องราวมันชวนสมจริงยิ่งขึ้น สำหรับภาคนี้ให้ 7/10 ครับ ถือว่าใช้ได้ครับ คนกบฏโลก นักแสดง

 

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *