รีวิว star wars the last jedi

รีวิว star wars the last jedi

จากที่สังเกตุคนรอบตัวผมนั้น ส่วนใหญ่จะอายุ 20+ กัน ที่จะชอบ หนังใหม่แนะนำ หนังจักรวาล star war นี้ แต่สำหรับผมก็ต้องขอยอมรับว่า ติดตามมาตั้งแต่เด็ก ๆ แล้ว ส ปอย หนัง และสำหรับภาคนี้เรียกว่าเรียกน้ำย่อยผมได้ไม่น้อยเลย แค่ Logo Lucasfilm ปรากฎขึ้นมา ดูหนังออนไลน์ ดูหนังฟรี เหล่าพาดาวันในโรงก็ส่งเสียงฮือฮากันออก มาแล้ว ขอบอกว่า ดูหนังฟรี ดูหนังออนไลน์ หลังจากนั้นตลอดเวลา 2 ชั่วโมง 32 นาที เป็นช่วงเวลาที่น่าจดจำอย่างไม่รู้ลืมเลยทีเดียว สนุก! สนุกมาก ๆ สนุกจนเรียกได้ว่าเป็นที่สุดของความบันเทิงของปีนี้ ถึงแม้ว่าความรักใน Episode เก่า ๆ จะกินพื้นที่ในหัวใจเราไปจนแทบจะหมดแล้วก็ตาม ยอมรับว่าภาคนี้อาจจะไม่ทำให้เรารักขนาดนั้น แต่ปฎิเสธไม่ได้เลยว่า Star Wars: The Last Jedi ได้เติมเต็มให้พาดาวันคนนี้มีความสุขที่สุดในรอบหลายปีเลยทีเดียว

ชื่อภาพยนตร์: Star Wars The Last Jedi / สตาร์ วอร์ส ปัจฉิมบทแห่งเจได
ผู้กำกับภาพยนตร์: Rian Johnson
ผู้เขียนบทภาพยนตร์: Rian Johnson, George Lucas (based on characters created by)
นักแสดงนำ: Daisy Ridley, John Boyega, Mark Hamill, Adam Driver, Domhnall Gleeson, Andy Serkis, Carrie Fisher, Oscar Isaac

รีวิว star wars the last jedi

รีวิว star wars the last jedi

รีวิว star wars the last jedi สตาร์ วอร์ส: ปัจฉิมบทแห่งเจได เป็นภาพยนตร์มหากาพย์ Star Wars เทพนิยายอวกาศ เขียนบทและกำกับโดยไรอัน จอห์นสัน เป็นภาพยนตร์ลำดับที่ 2 ในไตรภาคต่อของภาพยนตร์ชุด สตาร์ วอร์ส ต่อจากภาพยนตร์เรื่อง สตาร์ วอร์ส: อุบัติการณ์แห่งพลัง (พ.ศ. 2558) ผลิตโดยบริษัทลูคัสฟิล์ม

จัดจำหน่ายโดยวอลท์ดิสนีย์สตูดิโอโมชั่นพิคเจอร์ส นำแสดงโดย มาร์ก แฮมิลล์, แคร์รี ฟิชเชอร์, อดัม ไดรฟ์เวอร์, เดซี ริดลีย์, จอห์น โบเยกา, ออสการ์ ไอแซ็ค, ลูพีตา ญองอ, ดอมห์แนล กลีสัน, แอนโธนี แดเนียลส์, เกวนโดลีน คริสตี้, แอนดี เซอร์คิส, เบนีเซียว เดล โตโร, ลอร่า เดิร์น และเคลลี่ แมรี่ แทรน และเป็นผลงานการแสดงครั้งสุดท้ายของแคร์รี่ ฟิชเชอร์ ก่อนจะเสียชีวิตเมื่อธันวาคม พ.ศ. 2559

โดยภาพยนตร์ได้ลงคำอุทิศให้ เนื้อเรื่องเล่าเรื่องของเรย์ที่ไปฝึกวิชาเจไดกับลุค สกายวอล์คเกอร์ เพื่อช่วยเหลือฝ่ายต่อต้านที่ยังต่อสู้กับไคโล เร็น และปฐมภาคี

ภาคนี้เป็นภาคที่ยาวที่สุดในแฟรนไชส์สตาร์วอร์ส เพราะลากยาวถึง 152 นาที แต่ก็เป็นภาคที่อัดแน่นไปด้วยความสนุกสนาน ไม่ได้มีช่วงเวลานาทีไหนที่ปล่อยให้ง่วงเหงาหาวนอนได้เลย เป็นภาคที่หวังตลาดวงกว้างอย่างจริงจัง และปั้นตัวละครเจเนอเรชั่นใหม่ขึ้นมาเพื่อกวาดสาวกสตาร์วอร์สรุ่นใหม่ ๆ เพราะดิสนีย์ก็ปล่อยข่าวแล้วว่ากำลังเตรียมงานไตรภาคต่อไปแล้วด้วย

ภาคนี้เรียกได้ว่าเป็นภาคปฏิบัติการบนอวกาศอย่างจริงจัง ถ้าใครชอบฉากยานรบโจมตีต่อสู้กัน ได้ดูจุใจแน่ ๆ ครับ เพราะเล่นฉากใหญ่กันตั้งแต่เปิดเรื่องเลย แล้วก็ทำได้ลุ้นตีนจิกกันเลยทีเดียว บรรดาฉากแอ็คชั่นเล็กใหญ่ก็ระดมมาต่อเนื่อง ยานคลาสสิกมากันครบทั้ง X-Wing , TIE Fighter และ AT-TA หรือยานรบเดินสองขาที่คุ้นตากันดีก็มาด้วย มิลเลเนียม ฟอลคอน ก็กลับมาโชว์ลวดลายแก่แต่เก๋า

เรื่องย่อ

รีวิว star wars the last jedi

เนื้อเรื่องต่อจากภาคที่แล้วที่จบลง Star Wars: The Rise of Skywalker Netflix ไปด้วยฉากของการพบเจอกันของ ลุค สกายวอล์กเกอร์ (Mark Hamill)​ และเรย์ (Daisy Ridley) สาวคนใหม่ที่มีพลังแอบแฝงอยู่ เธอต้องการจะไปเรียนรู้เกี่ยวกับพลังขณะที่ฝ่ายปฐมภาคีที่นำโดยสโน้ค (Andy Serkis) และมีไคโล เรน (Adam Driver) ผู้ต้องการเดินตามรอบดาร์ธเวเดอร์ อ

งค์กรนี้เติบใหญ่และเหิมเกริมขึ้น และหวังจะกำราบฝ่ายต่อต้านให้สิ้นซากขณะที่ฝ่ายต่อต้านเองก็ไม่ยอมจำนนแม้จำนวนของพวกเขาจะทะยอยลดลงไป พวกเขายังคงอยู่ภายในการนำของหญิงแกร่ง นายพลหญิงเลอา (Carrie Fisher)

โดยยังคงมีตัวละครตัวเก่งจากภาคก่อนมาครบ ทั้ง โพ ดาเมรอน (Oscar Isaac) นักบินเอ็กซ์วิงผู้เก่งกาจ ฟินน์ (John Boyega) อดีตสตอร์มทรูปเปอร์ผู้แปรพักตร์มาอยู่ฝ่ายตรงข้ามพวกเขาจะต่อต้านฝ่ายปฐมภาคที่แข็งแกร่งกว่าได้หรือไม่

เรย์จะได้เป็นเจไดคนใหม่หรือไม่ และจริง ๆ แล้วเจไดคนสุดท้ายจะเป็นใครกันแน่ ?

ความรู้สึกหลังรับชม

รีวิว star wars the last jedi

การเล่าเรื่องของ Star Wars ภาคนี้เป็นการผูกโครงเรื่อง star wars the last jedi เรื่องย่อ แบบเรียบง่าย ที่ถึงแม้ว่าคุณจะรู้จักแค่ เจได, BB8, ไลท์เซเบอร์ ก็สามารถตามเนื้อหาและสนุกไปกับหนังได้ไม่ยาก

เริ่มจากการที่ฝั่งปฐมภาคี นำทีมโดยผู้นำสูงสุดสโนค, เจ้าหนุ่มไคโลเรน และนายพลฮัคส์ ไล่ล่าฝั่งกบฏต่อต้านภายใต้การนำทัพของเจ้าหญิงเลอา นายโพ (เจ้านายของหุ่นดรอยด์ BB8) ฟิน และเรย์ โดยตัวเรย์ได้ถูกส่งไปหา ลุค สกายวอล์คเกอร์ ที่เกาะซึ่งเป็นวิหารเจไดแห่งแรกเพื่อฝากตัวเป็นศิษย์ให้ มาสเตอร์ลุค ขัดเกลาฝึกฝนวิชาเจได

ดังนั้นเนื้อเรื่องของหนังจะว่าด้วยไล่ล่าของสองฝั่ง สลับกับการฝึกของเรย์

สำหรับสาวกดั้งเดิมก็อาจจะรู้สึกขัดใจกับอารมณ์บรรยากาศที่ภาคนี้ที่ต่างไปจากเดิม แต่ขณะเดียวกันก็น่าจะอิ่มเอมใจกับการได้เห็นตัวละครคลาสสิกทั้งเลอา , ลุค และตัวของละครคลาสสิกตัวหนึ่งจากไตรภาคแรกก็มาเซอร์ไพรส์ด้วย , ทั้งลุค และ เลอา คู่ถูกยกระดับมาเป็นดารานำของภาคนี้ แต่ละคนได้มีฉากเด่นของตัวเอง

โดยเฉพาะลุคนี่”โคตรเท่ ๆ ๆ ๆ” วีรกรรมของพี่ได้เสียงโห่ฮิ้วลั่นโรงกันเลย ส่วนบทเลอา ที่ดูมีบทบาทมากขึ้นในภาคนี้ก็ยิ่งทำให้รู้สึกใจหายกับการจากไปของแครี่ ฟิชเชอร์ แล้วก็ยิ่งชวนให้สนใจใคร่รู้ว่าทีมงานจะหาทางลงเอยให้กับบทเลอาอย่างไรในภาค 9 บรรดาตัวประกอบเก่า ๆ ที่เหลือยังทำหน้าที่ได้ดีเช่นเดิมทั้งชิวเบคก้า , C3PO , R2D2 และ BB8 ที่ภาคนี้ถูกยกระดับให้ทำหน้าที่ฮีโร่อยู่บ่อยครั้ง

ส่วนของเนื้อเรื่องเรียกได้ว่าแปลกใหม่ ที่ถึงแม้จะทำแบบเคารพขนบธรรมเนียมแต่ยังมีความสดใหม่เข้ามาเพิ่มเติม มีการตีความเกี่ยวกับ Force ทั้งในเรื่องของความหมายและความขัดแย้งได้อย่างน่าสนใจ แถมยังมีเซอร์ไพรส์อยู่เรื่อย ๆ ตลอดทั้งเรื่อง คาดเดาอะไรไม่เลย

รีวิว star wars the last jedi

รีวิวstar wars the last jedi ตามธรรมเนียมปฏิบัติ Star Wars: The Last Jedi Disney plus ของแฟรนไชส์ STAR WARS นั้น ก่อนหนังฉาย ค่ายหนังมักจะไม่ค่อยปล่อยเรื่องย่อ หรือข้อมูลในการสร้างออกมาให้ผู้ชมรับรู้สักเท่าไหร่ เราอาจจะพอได้เห็นรายละเอียดคร่าว ๆ จากตัวอย่างภาพยนตร์ ที่ก็ตัดออกมาเฉพาะส่วนที่ไม่ได้เป็นจุดสำคัญของเรื่อง ทั้งนี้เชื่อว่ามันเป็นวิธีการ “กุมความลับ” บางอย่างที่สร้างความเซอร์ไพรส์ให้กับผู้ชม โดยเฉพาะแฟนหนังชุดนี้

ในบ้านเรากลุ่มแฟนหนังของ STAR WARS ค่อนข้างเป็นกลุ่มคนดูหนังวัย 20+ เพราะช่วงเวลาที่ไตรภาคแรก (4-5-6) เข้าฉายนั้นคือช่วงปี 1977 ก่อนที่หนังจะได้รับความนิยมเป็นอย่างมากและมีแฟนหนังอย่างเหนียวแน่น

จนกระทั่งช่วงปลายยุค 90 Star Wars: Episode I – The Phantom Menace ก็กลายเป็นหนังเปิดไตรภาคแรกของสงครามแห่งดวงดาว เพื่อเล่าย้อนกลับไปยังต้นกำเนิดของเหล่าเจได และวายร้ายอย่างดาร์ธ เวเดอร์ เมื่อ Star Wars: Episode III – Revenge of the Sith (2005) เข้าฉายอันเป็นจุดเชื่อมต่อระหว่างปฐมไตรภาคกับไตรภาคชุดหลัง เป็นที่เรียบร้อย ทุกอย่างก็เหมือนจะจบลงอย่างงดงาม

แต่เมื่อตัวละครในภาคที่ 6 ยังไม่ได้ล้มหายตายจากไปไหน นั่นหมายความว่าเป็นโอกาสอันดีที่จะสานมหากาพย์ดังกล่าวให้มีลมหายใจต่อไป

บทสรุป

มาถึงตรงนี้แล้ว คงพูดได้อย่างเต็มปากเต็มคำว่า Star Wars: The Last Jedi สนุกมาก ครบในทุกมิติที่หนังดี ๆ เรื่องนึงจะต้องมี นอกเหนือไปจากเนื้อเรื่อง การแสดง ฉากแอ๊คชั่น เทคนิคพิเศษต่าง ๆ ที่เราได้บรรยายเอาไว้ในข้างต้น เหนื่อสิ่งอื่นใดที่เราจะได้รับก็คือ ความสนุกสนานที่น่าประทับใจ เป็นความบันเทิงที่ควรค่าแก่การเป็นภาพยนตร์ส่งท้ายปลายปีเลยจริง

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *