รีวิว Eternals

รีวิว Eternals

รีวิว Eternals

ถ้าพูดถึงหนังซุปเปอร์ฮีโร่ที่ไม่เหมือนใครนั้น ก็คงจะอดนึกถึงเรื่อง หนังใหม่แนะนำ Eternals ไม่ได้ เพราะพวกเขาเป็นเหมือนดั่งพระเจ้าที่คอยปกป้องโลกนี้มานับพันๆปีแล้ว ผมคิดว่าเปิดเรื่องมาด้วยภารกิจอันน่าตื่นตาตื่นใจเราๆคนดูมาก และทำให้เราได้รู้ว่า เหล่านักรบนาม อีเทอร์นอลส์ ถูกส่งมายังโลกมนุษย์โดยอริเชมสิ่งมีชีวิตที่เสมือนเป็นพระเจ้าผู้สร้างชีวิต โดยหน้าที่หลักของอีเทอร์นอลส์คือการช่วยเหลือมนุษย์ให้เกิดวิวัฒนาการและปกป้องพวกเขาจากเหล่าดีเวียนต์ สัตว์ประหลาดสุดเกรี้ยวกราดที่มุ่งทำลายมนุษย์และสรรพสิ่งเป็นสำคัญ

หลังอีเทอร์นอลส์ปฏิบัติภารกิจมานับพันปีก็ได้เวลาแยกย้ายเดินทางไปใช้ชีวิตตามวิถีของแต่ละคนโดยหนังเลือกให้เราไปโฟกัสที่ เซอร์ซี (เจมมา ชาน Gemma Chan) อีเทอร์นอลส์ที่สามารถเปลี่ยนแปลงสสารของสรรพสิ่งได้ ซึ่งปัจจุบันเธอกลายเป็นเจ้าหน้าที่ในพิพิธภัณฑ์ในลอนดอนและเริ่มคบหากับ เดน ไวต์แมน (คิต แฮริงตัน Kit Harington) เพื่อนร่วมงานของเธอแต่แล้วเมื่อเหล่าดีเวียนต์ปรากฎตัวเป็นครั้งแรกในรอบพันปี

เซอร์ซี สไปร์ต (ไลอา แม็กฮิวจ์ Lia McHugh) ผู้มีพลังในล่องหนและใช้มีดเป็นอาวุธ และอีคาริส (ริชาร์ด แมดเดน Richard Madden) ผู้สามารถทะยานฟ้าและยิงลำแสงพิฆาตจากตาได้ต้องรวมพลกับเหล่าอีเทอร์นอลส์อีกครั้งเพื่อต่อกรกับภัยร้ายระลอกใหม่ที่มีโลกทั้งใบเป็นเดิมพัน

จะว่าไปแล้วจุดเด่นที่สุดของอีเทอร์นอลส์นอกจากการเป็นซูเปอร์ฮีโรกลุ่มแรกที่มีสถานะเทพต่อจากธอร์แล้ว อีกจุดที่ต้องพูดถึงคือการพยายามเชื่อมโยงความเป็นฮีโรเข้ากับประวัติศาสตร์และความเป็นมนุษย์จนกล่าวได้ว่าเมื่อหนังดำเนินเรื่องไปสิ่งที่สำคัญกว่าภารกิจที่ต้องกำจัดดีเวียนต์คือการตั้งคำถามต่อตัวเองว่าแท้จริงแล้วมนุษย์เป็นสิ่งมีชีวิตที่ควรรักษาไว้หรือไม่ ดูหนัง

รีวิว Eternals

รีวิวหนังใหม่ Eternals เป็นเรื่องราวของกลุ่ม The Eternals ที่ถูกสร้างขึ้นโดย เซเลสเทียล เผ่าพันธุ์เทพแห่งจักรวาลอายุนับล้านปี พวกเขาได้ถูกส่งให้เดินทางมายังโลกมนุษย์ และได้แฝงตัวอาศัยอยู่อย่างลับ ๆ มานานกว่า 7,000 ปี แต่แล้วพวกเขาก็ต้องออกมาเคลื่อนไหวอีกครั้งเพื่อปกป้องโลกจาก ดีเวียนต์ คู่ปรับตลอดกาลที่ถูกสร้างขึ้นจากเซเลสเทียลเช่นเดียวกัน

อาจจะต้องบอกผู้อ่านทุก ๆ คนอย่างสัตย์จริงเลยว่า Eternals เป็นหนังมาร์เวลที่แตกต่างไปจากหนังมาร์เวลเรื่องอื่น ๆ ก่อนหน้านี้แทบจะทั้งหมด เหมือนเป็นความพยายามละเลงจัดวิธีการนำเสนอและเล่าเรื่องในแบบที่ซอฟต์ลงหน่อย แต่องค์ประกอบต่าง ๆ ก็ยังถูกใส่มาจัดจ้าน จึงทำให้ตอนนี้ได้คลายความสงสัยแล้วว่า ทำไมมาร์เวลถึงเลือกผู้กำกับหญิงรางวัลออสการ์ “โคลอี้ เจา” มาทำหนังเรื่องนี้ ก็เพราะว่า…น่าจะมีแค่เธอในตอนนี้ที่ทำแบบนี้ได้ถึง

หากคุณเป็นแฟนหนังมาร์เวลตัวยง ที่หวังจะมาดูฉากต่อสู้เจ๋ง ๆ หรือฉากประกอบร่าง Assemble ของเหล่าซูเปอร์ฮีโร่ คงต้องบอกว่า…คุณน่าจะผิดหวัง เพราะ Eternals มาพร้อมกับการเป็นหนังที่ชูเสน่ห์และความโดดเด่นในด้านเส้นเรื่องที่เลือกจะแตะต้องกับสัมผัสเข้าถึงในด้านความเป็นมนุษย์ของปุถุชนในทิศทางนั้นมากกว่า จึงทำให้หนังความยาว 2 ชั่วโมงกว่า ๆ นั้น ดำเนินไปแบบ…เรื่อย ๆ

รีวิว Eternals

แม้ว่าจะมีตัวละครใหม่มาให้แนะนำอยู่หลายตัว แต่ Eternals กลับเลือกวิธีการเล่าเรื่องแบบสลับไปสลับมา อดีตกับปัจจุบันที่ดูจะเป็นเส้นเรื่องที่ต้องปรับตัวและทำความเข้าใจกับไทม์ไลน์ในบางช่วงบางตอน ทำให้การเล่าเรื่องของหนังเรื่องนี้เป็นปัญหาที่ทำให้ตัวหนังค่อนข้างจืดชืดไปเกือบตลอดทาง แต่ระหว่างทางก็ยังถือว่ามีความน่าสนใจ ด้วยการประกอบเรื่องราวโยงเข้ากับเหตุการณ์สำคัญทางประวัติศาสตร์โลกในหลาย ๆ ยุค ที่ถือว่าเป็นไอเดียที่ดีที่หนังนำมาผนวกเข้าไว้

ในหนังมาร์เวลเรื่องนี้จะสัมผัสได้เห็นลายเส้นอันเป็นเอกลักษณ์ของ โคลอี้ เจา ปะปนอยู่ไปตลอดทั้งเรื่อง โดยเฉพาะสไตล์การเล่าเรื่องที่มักจะใช้อารมณ์และท่าทางของตัวละครสื่อสารออกเป็นภาพ จึงทำให้กลายเป็นที่มีมุมมองที่ต่างไปจากวิถีเดิม ๆ ของมาร์เวลอย่างชัดเจน หนังมีความเป็นดราม่าเยอะหน่อย แต่ไม่ถึงกับดราม่าจัด ๆ อะไรขนาดนั้น เพราะเป็นดราม่าแบบมีที่มาที่ไปอย่างสมเหตุสมผล

แต่ก็นับว่ายังดีที่ Eternals ได้ทีมนักแสดงที่ค่อนข้างหลากหลายความสามารถ พวกเขาได้ถ่ายทอดบทบาทที่ตัวเองได้รับได้เป็นอย่างดี และขับจุดเด่นของคาแรกเตอร์นั้น ๆ ออกมาได้น่าพอใจ ไม่ว่าจะเป็น “ริชาร์ด แมดเดน” ที่ใคร ๆ บอกว่าพลังเหมือนซูเปอร์แมน แต่ลึก ๆ ไปกว่านั้นยังมีอะไรให้น่าค้นหาอีก “เจมม่า ชาน” เป็นตัวละครที่เต็มไปด้วยมิติหลากหลายเช่นกัน

รีวิว Eternals

คำพูดหนึ่งของ เอแจ็ก ตัวละครที่รับบทโดยซัลมา ฮาเยค (Salma Hayek) ที่ยกเหตุการณ์ว่าธานอสดีดนิ้วแล้วเอาประชากรครึ่งจักรวาลหายไปกับตา แต่มนุษย์คนหนึ่งยอมสละชีพ (กล่าวถึงไอรอนแมนในหนัง ‘Avengers Endgame’) ดีดนิ้วเพื่อนำคนกลับมา เธอเลยมองเห็นคุณค่าของมนุษย์และต้องการปกป้องมนุษย์จากแผนการของผู้บังคับบัญชาของเธอแม้จะขัดกับเจตนารมย์ที่เหล่าอีเทอร์นอลส์ถูกส่งมายังโลกก็ตาม

ซึ่งมันทำให้บทหนังที่โคลอี้ เจา (Chloé Zhao) ผู้กำกับของหนังร่วมเขียนดูจะให้ความสำคัญกับการศึกษาตัวละครมากกว่าภารกิจเหมือนหนัง MCU เรื่องอื่นและแม้เธอจะต้องใช้กลไกอันซ้ำซากในการบอกเล่าที่มาที่ไปของตัวละครด้วยฉากแฟลชแบ็กจนทำให้น้ำหนักระหว่างภารกิจที่ต้องต่อกรกับดีเวียนต์ดูเป๋ไปบ้าง ทว่าในทางกลับกันมันกลับทำให้เห็นว่าแม้อีเทอร์นอลส์จะถูกกำหนดให้มีสถานะไม่ต่างจากเทพที่คนเคารพบูชาทว่าความเป็นมนุษย์ล้วน ๆ เลยที่ขับเคลื่อนหนังให้มีมิติของดราม่าที่น่าสนใจ เว็บดูหนัง

สรุป Eternals

รีวิวหนังใหม่ โดยเฉพาะประเด็นความไม่สมบูรณ์แบบที่เหล่าอีเทอร์นอลส์แต่ละคนต้องมาแก้ปมของตัวเอง โดยเฉพาะกรณีรักสามเส้าของเซอร์ซีกับสไปร์ตที่มีอิคาริสเป็นศูนย์กลาง ที่ฝ่ายแรกรอคนรักที่ถึงกับแต่งงานกันเป็นทางการกลับมาครองคู่นับพันปี ในขณะที่ฝ่ายหลังถูกสร้างให้ร่างกายเป็นเด็กจนฝ่ายชายไม่เคยมองเธอในฐานะสตรี และถึงแม้ว่าประเด็นนี้จะถูกผุดขึ้นมาแบบไม่มีที่มาที่ไปคล้ายกับพลอตรองเจ้าปัญหาอีกล้านแปด

ซึ่งส่งผลให้หนังดูมีพล็อตรองอันอีรุงตุงนัง อย่างเช่นประเด็นอาการทางจิตของ ธีนา (รับบทโดย แองเจลินา โจลี Angelina Jolie) เทพีสงครามที่ต้องได้รับการดูแลจากกิลกาเมช (รับบทโดย มาดงซ็อก) อีเทอร์นอลส์จอมพลัง หรือเรื่องการหมดศรัทธามนุษย์และการเริ่มความสัมพันธ์ในสถานะ LGBTQ+ ของ ฟาสโตส (รับบทโดยไบรอัน ไทรี เฮนรี Brian Tyree Henry) อีเทอร์นอลส์นักประดิษฐ์ ที่อาจทำให้คนดูหลายคนหงุดหงิดและรู้สึกว่าหนังแวะริมทางบ่อยเหลือเกิน

แต่เหล่านี้ล้วนแสดงเจตนาชัดเจนว่าหนังภายใต้การกำกับของเจา หาใช่หนังมาร์เวลที่เหล่าฮีโรจะมาปล่อยลำแสงเฮ้ากวงเหมือนที่ผ่าน ๆ มาไม่ แต่มันคือการพาผู้ชมไปรู้จักกับแง่มุมความเป็นมนุษย์ของแต่ละคนซึ่งไม่ได้มีด้านที่เพอร์เฟกต์และไม่ได้มีแค่การผดุงไว้ซึ่งความดีงามอันฉาบฉวยแต่หมายถึงการใช้หลักมานุษยวิทยามาค่อย ๆ อธิบายเหตุผลจนเราได้เห็นพวกเขาต้องสู้ศึกตั้งแต่ศัตรูภายนอกอย่างเหล่าดีเวียนต์จนถึงการสู้รบปรบมือกับจิตวิญญาณตัวเอง

ดังนั้นการแลกเวลาร่วม 1 ใน 3 ของหนังไปกับฉากแฟลชแบ็กที่มีเหตุการณ์ประวัติศาสตร์ที่หลายคนอาจมองว่าน่าเบื่อและแทบจะไม่แตะประเด็นหลักของเรื่องไปมากกว่าการต่อกรกับดีเวียนต์ครั้งที่ผ่าน ๆ มา แท้ที่จริงแล้วหนังเหมือนพยายามเขียนปูมประวัติศาสตร์ของตัวเองในฐานะปฐมกาลของเหล่าฮีโร ซึ่งแน่นอนว่ามันเต็มไปด้วยรายละเอียดหลายอย่างและเปี่ยมด้วยอารมณ์ความอ่อนไหวของเหล่าอีเทอร์นอลส์จนกล่าวได้ว่านี่คงเป็นหนังมาร์เวลที่เข้าขั้นสโลว์เบิร์น (Slow Burn) ประหนึ่งหนังอาร์ตเฮาส์ที่สุดก็ไม่ผิดนัก

รีวิว Eternals

และเมื่อพิจารณาว่าในบรรดาเทพทั้งหมดทำไม มาดงซ็อก ต้องมารับบทกิลกาเมซที่ชื่อไม่ได้เป็นเอเซียเลย ทำไมต้องมีตัวละครเป็นคนใบ้อย่าง มัคคารี (รับบทโดยลอเรน ริดลอฟฟ์ Lauren Ridloff) หรือมีบทของคนอินเดียอย่าง คูมาลิ นานจานี (Kumail Nanjiani)และฮาริช พาเทล (Harish Patel) ในบทคิงโกและผู้จัดการดาราก็ยิ่งชัดเจนเลยว่าเจาต้องการให้เรามองความเป็นมนุษย์ในโลกภาพยนตร์ที่มีมากกว่าฝรั่งหน้าตาดีอันเป็นธรรมเนียมของฮอลลีวูดและมันยังตอบโจทย์กับการนำเสนอความเป็นมนุษย์นิยมอย่างที่หนังต้องการได้อีกด้วย

“คูมาล นานจิเอนี”, “ไบรอัน ไทรี เฮนรี่”, “ลอว์เรน ริดลอฟฟ์”, “มาดงซอก”, “แบร์รี่ โคแฮน”, “ซัลมา ฮาเย็ค” หรือ “ลีอา แม็คฮิวจ์” ถือครองบทของพวกเขาได้เป็นอย่างดี แต่ที่ไม่พูดถึงเลยคงไม่ได้ก็คือ “แองเจลิน่า โจลี่” ที่มาแสดงกับความคิดที่ว่าตัวเองมาเล่นแค่บทรับเชิญ แต่ตัวละครของเธอก็ถือว่ามีความซับซ้อนที่รอคอยการค้นหาอยู่ไม่น้อย

และก็ต้องยอมรับว่า Eternals เป็นหนังที่มีองค์ประกอบต่าง ๆ ที่ใส่เข้ามาได้อย่างอลังการ แบบไม่เสียชื่อมาร์เวลเลยสักนิดเดียว เมื่อมาเจอกันตรงกลางกับไอเดียคอนเซ็ปต์จากโคลอี้ เจา ทำให้หนังมาร์เวลเรื่องนี้เป็นหนังที่มุมภาพและงานภาพที่ค่อนข้างสวยงามและโดดเด่นแปลกตาจากเดิมไม่น้อย โดยเฉพาะงานภาพที่มักจะเล่นกับแสดงธรรมชาติเป็นหลัก ที่นับว่าเป็นงานถนัดของผู้กำกับหญิงคนนี้

เอาเป็นว่าสรุปโดยรวมแล้ว Eternals เป็นหนังเปิดตัวฮีโร่กลุ่มใหม่ที่ทำออกมาได้ค่อนข้างน่าพอใจ พร้อมกับสร้างตัวละครใหม่ ๆ เอาไว้ประดับจักรวาลได้อย่างก้าวไกลทีเดียว แต่ก็ยังไม่เข้าใกล้ความสมบูรณ์แบบมากนัก เหมือนปรุงแกงหม้อหนึ่งที่ใส่เครื่องไปเยอะแยะมากมาย แต่ปรากฏว่ารสชาติที่ได้ออกมายังคงจืดชืดอยู่ รสแท้ยังไม่ออก และเมื่อหนังเรื่องนี้ผ่านไปไม่กี่ปี ก็อาจจะเข้าทำเนียบหนังมาร์เวลที่ถูกลืมไปอย่างน่าเสียดาย…

ถ้าหากแฟนหนังที่อยากจะมีดูแอคชั่นโกลาหลกับภัยของโลกครั้งใหม่ก็คงจะไม่ตอบโจทย์สักเท่าไหร่ เพราะหนังเรื่องได้เลือกนี้ใช้ “ความรัก” เป็นแรงขับเคลื่อนในการเดินเรื่องมากกว่า ซึ่งก็ไม่ใช่ว่าจะวิธีที่ผิดแต่อย่างใด เพียงแต่อาจจะหยิบนำมาใช้กับหนังที่ยังไม่เหมาะกับวิธีนี้สักเท่าไหร่ จึงทำให้เป็นหนังที่มีประเด็นการสื่อสารที่ดี แต่ยังไม่มีรสชาติที่กลมกล่อมออกมาสักเท่าไหร่…

กระนั้นนอกจากบทที่พูดถึงมนุษย์ได้อย่างถึงแก่นและนำเสนอวัฒนธรรมอันหลากหลายแล้วหนังยังไม่ลืมจุดขายสำคัญของหนังมาร์เวลทั้งฉากแอ็กชันและงานวิชวลสุดตื่นตา พร้อมการปรากฎตัวของฮีโรรายใหม่ในฉากท้ายเอนด์เครดิตที่ดูจะเป็นธรรมเนียมมาตั้งแต่ ‘Black Widow’ หนังเปิดเฟส 4 ของมาร์เวลที่ดูจะไม่ได้แยแสเหล่าฮีโรดังจากเฟสที่ผ่านมามากนักจนดูเหมือนว่ามาร์เวลเองก็ดูจะมั่นอกมั่นใจในคุณภาพหนังและศักยภาพของเหล่าซูเปอร์ฮีโรรายใหม่มากเหลือเกิน เว็บหนัง

ที่สุดแล้วไม่ว่าคะแนนของ ‘Eternals’ จะได้ครองตำแหน่งหนังมาร์เวลที่คำวิจารณ์เลวร้ายที่สุดหรือไม่ ส่วนตัวมองว่าคำวิจารณ์หนังก่อนหน้านี้ในต่างประเทศก็ดูจะใจร้ายกับหนังมากไปหน่อย แต่ยังไงคุณภาพหนังจะดีไม่ดีคำตอบก็คงต้องอาศัยประสบการณ์ตรงในโรงภาพยนตร์อยู่ดีถูกไหมครับ ?

ประเภท: แอคชั่น / แฟนตาซี
ผู้กำกับ: โคลอี้ เจา
นำแสดงโดย: ริชาร์ด แมดเดน, เจมม่า ชาน, แองเจลิน่า โจลี่, ซัลมา ฮาเย็ค
ความยาว: 157 นาที
กำหนดฉายในไทย: 4 พฤศจิกายน 2021

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *