รีวิว งานต้องล่า

รีวิว งานต้องล่า

หนังอินดี้มาแรง สวัสดีครับวันนี้ผมจะมารีวิวหนังที่กำลังมาแรงจริงๆครับเรียกได้ว่ากลบหนังหลายๆเรื่องมิดไปเลยครับ กระแสดีจริง ๆ จ้า สำหรับภาพยนตร์ Day Shift งานต้องล่าจาก Netflix แนวแอ็คชั่นล่าแวมไพร์ ผลงานของนักแสดงเจ้าของรางวัลออสการ์ เจมี่ ฟ็อกซ์ (Jamie Foxx) ตอนนี้ติดอันดับ 1 หนังน่าดูในเน็ตฟลิกซ์มากกว่า 79 ประเทศทั่วโลก เป็นแวมไพร์ที่ฉีกแหวกแนวจากที่เคยดูมาบ้างนิดหน่อย แต่การันตีความสนุก ไม่จำเจ ไปติดตามความมันส์แบบเต็ม ๆ กับรีวิวนี้กันเลยค่ะ ดูหนังออนไลน์ ดูหนังฟรี

ส ปอย หนัง หนังล่าแวมไพร์ ที่เหมือนจะกลายเป็นอีกหนึ่งสูตรขายของหนังจอเล็กของสตรีมมิ่งเจ้านี้ ล่าสุดกับ “Day Shift งานต้องล่า” หนังแอคชั่นภารกิจล่าเดือด ที่เป็นการต่อสู้ระหว่างมนุษย์กับแวมไพร์ มาพร้อมกับพล็อตเรื่องเดิม ๆ ที่หยิบเอาสูตรสำเร็จมาใส่เอาไว้แบบที่ยังไงก็ดูได้สนุกและบันเทิง เพียงแต่ว่ามันจะซื้อใจคนดูได้ขนาดนั้นหรือไม่นะ? ดูหนังฟรี ดูหนังออนไลน์

รีวิว งานต้องล่า

รีวิว งานต้องล่า

รีวิว งานต้องล่า นี่คือผลงานการกำกับหนังใหญ่เรื่องแรกของ “เจ.เจ. เพอร์รี่” สตั้นท์แมนผู้คร่ำหวอดอยู่ในวงการมากว่า 3 ทศวรรษ แน่นอนงานชิ้นแรกของเขาก็จัดได้ว่าน่าพอใจในระดับตามมาตรฐานดี เขาได้หยิบเอาประสบการณ์ที่สะสมมาอย่างยาวนานมาประกอบร่างกลายออกมาเป็นหนังเรื่องนี้ แต่ที่โดดเด่นที่สุดก็คงต้องยกให้งานออกแบบฉากสตั้นท์ต่าง ๆ ในหนัง คงจะต้องบอกว่าเลยว่า…เขาดีไซน์ออกมาได้ค่อนข้างดีสมราคา

ใช่แล้ว…สิ่งที่เด่นที่สุดของ Day Shift คือฉากแอคชั่นต่าง ๆ นานา ที่อาจจะไม่ได้ใส่เข้ามาเยอะจนเอียน แต่ก็ปะปนรสชาติได้ดี มีทั้งฉากสตั้นท์ไล่ล่าแวมไพร์ ที่ออกแบบลีลาอ่อนช้อยของแวมไพร์ได้อย่างจินตลีลาเกินบรรยายมาก ๆ อีกทั้งยังมีฉากไล่ล่าซิ่งทั่วเมืองที่เหมือนจะหยิบสูตรแบบเดียวกับที่ใช้ในหนังตระกูลฟาสต์อะไรทำนองนั้น แม้จะเป็นองค์ประกอบที่หนังทำได้ดี แต่ก็ดูเหมือนว่าหนังจะมีส่วนดีก็เพียงแค่นั้น

เรื่องย่อ

รีวิว งานต้องล่า

บั๊ด คุณพ่อชนชั้นแรงงานที่ทำงานหนักเพื่อหวังให้ลูกสาวมากไหวพริบของเขามีชีวิตที่ดี แต่งานทำความสะอาดสระว่ายน้ำในซานเฟอร์นานโดแวลลีย์ที่แสนจำเจกลับเป็นเพียงแค่ฉากบังหน้า เพราะแหล่งรายได้ที่แท้จริงของเขามาจากการล่าและฆ่าแวมไพร์ให้กับสหภาพนักล่าแวมไพร์นานาชาติ day shift ซับ ไทย

วิจารณ์

รีวิว งานต้องล่า

ว่ากันตามตรงเรื่องราวส่วนใหญ่เดาได้ไม่ยาก และเป็นอะไรที่สบายหัวดูเพลินได้ไปจนจบด้วยสูตรหนังที่คุ้นเคย ชวนให้นึกถึงความเรียบง่ายของหนังแอ็กชันแบบยุคเก่า ๆ ที่ซับซ้อนน้อยแต่เล่าให้สนุกก็พอ

และจุดเด่นของหนังเรื่องนี้ที่ถือว่าสนุกดูเพลินดีคือ ฉากการต่อสู้กับพวกแวมไพร์ที่สะใจดีเหลือเกิน ตัวเอกอาจมีแค่มีดใหญ่กับปืนลูกซองแต่ก็ใช้พลิกแพลงให้มีท่าพิฆาตได้หลากหลายสมกับที่ผู้กำกับเคยออกแบบคิวบู๊มาโชกโชน และที่แจ๋วเลยคือพวกแวมไพร์ก็ตายยากดีเหลือเกิน แถมยังมีท่าทางประหลาดเหมือนพวกซอมบี้นักกายกรรมอีกต่างหาก ดังนั้นเลยเห็นฉากอัด-ดัด-หักพวกแวมไพร์ไปตั้งแต่หัวยันเท้าเลยทีเดียว ยิ่งไม่ตายก็ยิ่งมัน พวกพระเอกยิ่งได้ฉายฉากฆ่าสุดโหดมากขึ้นเท่านั้น และนี่อาจเป็นสาเหตุให้หนังได้เรต R ไปด้วย แต่ก็รุนแรงสะใจคอหนังบู๊ดีเหลือเกิน แม้จะไม่ได้มีอะไรที่แปลกใหม่จนว้าวก็ตาม

ไม่ว่าจะกราฟฟิก เอฟเฟกต์สมจริง เจ๋ง และแวมไพร์ในเรื่องนี้ฉีกแหวกแนวจากที่เคยเห็นมา เป็นแวมไพร์ที่มีเลือดสีดำ บางตัวไม่กลัวแดด แค่กลางร่มก็รอดแล้วจ้าแถมร่างกายมีความยืดหยุ่นสูง เหมือนว่าช่วงกลางวันที่ไม่ได้ออกไปไหนคุณ ๆ เขาเอาเวลาไปฝึกโยคะหมด ประหนึ่งซอมบี้เกาหลีอย่างไรอย่างนั้น ซึ่งความยืดหยุ่นสุด ๆ ช่วยเพิ่มความมันส์ให้กับซีนบู๊ แอ็คชั่นต่อสู้มือเปล่า ได้ไม่น้อยเลยทีเดียว

หรือ ความแอ็คชั่นที่โครตจะ สนุก คิวบู๊ทำดี มีรถวิ่งไล่ล่า ทั้งรถกระบะ รถมอเตอร์ไซต์ แต่ก็มีติด ๆ ขัด ๆ อยู่บ้าง มอเตอร์ไซต์วิ่งมาอย่างเท่ แต่สุดท้ายตกม้าตายง่ายมากไปแบบงง ๆ ความมันส์ไม่ได้มีแค่นี้ยังมีเตะต่อย ตีลังกา กระโดดจากที่สูง ลุ้นระทึก แต่ที่มีแน่นมีเยอะ ต้องยกให้การยิง ยิงกระหน่ำสนั่นจอสุด ๆ ทั้งปืนสั้น ปืนยาว ปืนกล ท่าใส่กระสุนอย่างเท่ ดูแล้วร้องว้าวไปเลย นับว่า Day Shift เป็นหนังมันส์ ๆ ที่ออกแมน ๆ แต่ไม่ใช่แค่คนดูผู้ชายที่ชอบ สาว ๆ ดูแล้วก็น่าจะถูกใจเหมือนกัน

และแน่นอนว่า Day Shift อาจจะรอดตายหวุดหวิดเพราะแคสติ้งนักแสดงโดยแท้ “เจมี่ ฟ็อกซ์” ก็คือนางแบบของหนังเรื่องนี้แบบนัมเบอร์วัน นี่คือหนังของเขา แต่บทและคาแรกเตอร์ของเขาก็แทบจะไม่มีอะไรใหม่เลย ก็เป็นคขบถสู้ชีวิตแต่สู้ชีวิตกลับอะไรทำนองนั้น แต่ด้วยความเป็นมืออาชีพของเขา ก็สามารถขับเคลื่อนหนังทั้งเรื่องเอาไว้ได้อยู่หมัด เช่นเดียวกับ “สนูปด็อก” ที่มาน้อยแต่จัดจ้าน ออกมาแต่ละซีน..ย่อมต้องมีซีน

“เดฟ ฟรังโก” ก็เป็นอีกหนึ่งตัวขโมย เพียงแต่ว่าน่าเสียดายที่หนังไม่สามารถขุดศักยภาพของเขาออกมาให้เฉิดฉายได้กว่านี้ ทั้งที่เขาคือนักแสดงที่เปี่ยมล้นไปด้วยของดี แต่ในเรื่องนี้เขาก็ใส่มาเต็ม เพียงแต่ยังไม่มีพื้นที่ให้เขาสักเท่าไหร่ ขณะที่บทบาทตัวละครอื่น ๆ ที่ร่วมสมทบเข้ามานั้น ก็แทบจะถูกกลืนไปกับบทหนังที่แสนจะเรียบง่าย และไม่ได้มีอะไรพิเศษขึ้นมาได้เลย day shift รีวิว

รีวิว งานต้องล่า

รีวิว งานต้องล่า แรกสัมผัสต้องบอกว่าหน้าหนังของ ‘Day Shift’ ชวนให้นึกถึงหนังแนวคู่หูที่มีฉากหลังเป็นโลกแนวแฟนซีอย่าง ‘Men in Black’ (1997) ‘R.I.P.D.’ (2013) หรือหนังเน็ตฟลิกซ์อย่าง ‘Bright’ (2017) ที่เหมือนว่าจะต้องมีตัวเก๋ามาดดุเข้มประกบกับเด็กใหม่ที่ยังละอ่อนฝีมือแต่สร้างบรรยากาศเฮฮาได้ดี ซึ่งหนังในหมวดนี้ไม่ว่าจะทำดีหรือห่วยมันก็ต้องจัดวางไว้ในชั้นนั่งเหยียดขาเอนหลังนั่งดูในเวลาว่างแบบขอไม่ต้องคิดอะไรให้มากอยู่แล้ว และถ้าคุณกำลังอยู่ในอารมณ์แบบที่ว่าหนังมันจะดูลงตัวในแนวทางของมันพอดี

อาจด้วยเพราะนี่เป็นการกำกับหนังเรื่องแรกของอดีตนักแสดงเสี่ยงตายอย่าง เจ.เจ. เพอร์รี (J.J. Perry) ซึ่งเคยผ่านงานหนังใหญ่มานับไม่ถ้วน แค่คัดเอาชื่อเด่นเช่น แฟรนไชส์ ‘John Wick’ และ ‘Fast & Furious’ ก็นับว่าน่าสนใจไม่น้อยแล้ว แน่นอนว่าในกรณีเช่นนี้หลายครั้งเราจะเห็นว่าทีมสร้างจะไม่ได้ฝืนเล่าท่ายากอะไรมากและเปิดช่องให้เอาความเชี่ยวชาญด้านการออกแบบฉากต่อสู้มาเป็นจุดแข็งมากกว่า

และนี่ก็เป็นสาเหตุว่าพล็อตหนังเรื่องนี้เล่นตามสูตรสำเร็จแบบไม่ขืนอะไรมากเลย โดยเอาไอเดียของมือเขียนบทหน้าใหม่อย่าง ไทเลอร์ ไทซ์ (Tyler Tice) มาให้ เชย์ แฮตเทน (Shay Hatten) ที่มีผลงานหนังแอ็กชันทรงใกล้กันอย่าง ‘Army of the Dead’ (2021) และ ‘Army of Thieves’ (2021) มาช่วยเสริมลูกเล่นแบบไม่ต้องมากแค่พอดูเพลิน

ได้เป็นเรื่องราวของ บั๊ด คุณพ่อถังแตกที่แสดงโดยนักแสดงยอดฝีมือ เจมี่ ฟ็อกซ์ (Jamie Foxx) ต้องดิ้นรนหาเงินก้อนใหญ่มาจ่ายค่าเทอมให้ลูกสาว ก่อนที่อดีตภรรยาจะขายบ้านเอามาจ่ายแล้วพาลูกย้ายเมืองไปอยู่กับแม่ยายซึ่งจะทำให้เขาไม่พบหน้าลูกอีก แต่แย่หน่อยตรงอาชีพเดียวที่ทำเงินเป็นกอบเป็นกำให้บั๊ดได้คือนักล่าแวมไพร์ที่เขาปกปิดทุกคนเอาไว้ และจะกลับไปรับงานเงินดีเลยก็ไม่ได้อีกเพราะนิสัยเหมือนตำรวจห่ามไม่ตามกฎของเขา ทำให้ถูกเฉดหัวจากสหภาพหรือสมาพันธ์นักล่าเมื่อนานมาแล้ว

จังหวะนี้จึงต้องไปขอความช่วยเหลือจาก บิ๊กจอห์น นักล่าคนดังของสหภาพที่แสดงโดยตำนานนักปุ๊น สนูป ด็อกก์ (Snoop Dogg) ให้เข้าไปไกล่เกลี่ยอ้อนวอนหัวหน้าสหภาพให้เขากลับเข้าทำงาน แต่เงื่อนไขที่บั๊ดต้องทำให้ได้คือเขาต้องทำงานคู่กับ เซธ นักล่าป้ายแดงที่เป็นแค่เสมียนของสหภาพ รับบทโดยหนุ่มหน้าหล่ออย่าง เดฟ ฟรังโก (Dave Franco) ที่ต้องมาแหกปากโวยวายและถ่วงแข้งถ่วงขาตามสูตรมือละอ่อน

และเงื่อนไขสำคัญคือบั๊ดต้องรับงานแค่กะกลางวันที่อันตรายน้อยเพราะแวมไพร์ไม่ออกล่ากัน ซึ่งกลายมาเป็นชื่อของหนัง แต่บังเอิญโชคร้ายที่ตอนนี้มีแวมไพร์มาเฟียที่ไม่กลัวการเดินกลางวันออกมาเพ่นพ่านช่วงที่เขาทำงานพอดี day shift เต็มเรื่อง

สรุปภาพยนตร์

 

Day Shift ภาพยนตร์บู๊แอ็คชั่น เรื่องราวการล่าแวมไพร์เพื่อหาเงิน ผลงานของนักแสดงเจ้าของรางวัลออสการ์ เจมี่ ฟ็อกซ์ ประกบคู่กับเดฟ ฟรังโก เป็นคู่หูที่เคมีลงตัว โฟกัสที่การล่าแวมไพร์ทั้งเรื่อง บู๊มันส์หยด ต่อสู้กันทั้งปืน รถยนต์ไล่ล่า ต่อสู้มือเปล่า แตะต่อยเต็มเหนี่ยว สนุกสอดแทรกความฮา แบบไม่ต้องคิดเยอะ

โดยสำหรับคนที่ดูหนังมาเยอะน่าจะพอจัดหมวดหนังเรื่องนี้ถูกว่าควรดูเวลาแบบไหน แต่ถ้าใครอยากหาหนังแอ็กชันเข้ม ๆ มีนวัตกรรมใหม่ ๆ ให้ตื่นตาตื่นใจในฉากบู๊ก็คงจะมองข้ามหนังเรื่องนี้ไป

เอาเป็นว่าโดยสรุปแล้ว Day Shift ก็มาในลูกเล่นและลูกไม้แบบเดิม ๆ เหมือนหยิบเอาสูตรสำเร็จของหนังแวมไพร์หรือหนังซอมบี้มาผสมและปรุงแต่งใหม่ ที่แน่นอนว่ามันสร้างอรรถรสและรสชาติที่สนุกดี แต่ไร้ความแปลกใหม่ที่ทำให้รู้สึกว้าวอะไรเท่าไหร่ จุดดีของหนังก็น่าจะเป็นการดีไซน์ท่วงท่าสตั้นท์ที่ทำออกมาสมกับประสบการณ์ของผู้กำกับ ทีมนักแสดงก็ถือว่าช่วยกันแบกหนังเรื่องนี้เอาไว้ได้เยอะ เพียงแต่เมื่อดูจบ..หนังกลับยังไม่ได้สร้างความน่าจดจำอะไรให้ได้สักเท่าไหร่ เอาเป็นว่าผู้เขียนให้คะแนน 8.5/10 สามารถรับชมกันได้ทั้งแบบพากย์ไทยและซับไทย ทาง Netflix ครับ day shift พากย์ไทย

 

 

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *